Xinhua Silk Road: อำเภอหลิงฉิว มณฑลซานซี บรรเทาความยากจนด้วยเกษตรอินทรีย์

0
264
image_pdfimage_printPrint

อำเภอหลิงฉิว (Lingqiu County) ในมณฑลซานซี ทางเหนือของจีน มีความพยายามในการสำรวจการพัฒนาเกษตรอินทรีย์เพื่อบรรเทาความยากจน

ความพยายามของอำเภอหลิงฉิวได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากผู้เข้าร่วมการประชุมเกษตรอินทรีย์นานาชาติ (International Forum of Organic Agriculture) ครั้งที่ 7 ซึ่งเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ในเมืองต้าถ่ง

ศาสตราจารย์ Hu Yuegao แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จีน ชี้ให้เห็นว่า โลกอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านจากยุคอารยธรรมอุตสาหกรรม (industrial civilization) สู่ยุคอารยธรรมแห่งนิเวศ (ecological civilization) และเกษตรอินทรีย์เป็นแนวทางที่ดีในการบรรลุเป้าหมายของการฟื้นชีวิตให้ชนบทและส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว

บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมงานนี้ตั้งข้อสังเกตว่า เกษตรอินทรีย์สามารถแก้ปัญหาความปลอดภัยทางอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับปรุงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืนในท้ายที่สุด

หลิงฉิวเป็นอำเภอหนึ่งในเมืองต้าถ่ง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมณฑลซานซี อำเภอหลิงฉิวมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และมีประวัติศาสตร์ยาวนานในด้านการผลิตทางการเกษตร โดยประชากร 200,000 คนจากทั้งหมด 250,000 คน อยู่ในภาคการผลิตทางการเกษตร

เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายทั้งการบรรเทาความยากจนและการคุ้มครองระบบนิเวศ อำเภอหลิงฉิวได้ใช้เกษตรอินทรีย์เป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการบรรเทาความยากจนเชิงนิเวศมาตั้งแต่ปี 2556

การเกษตรอินทรีย์และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศได้ช่วยให้ประชาชน 14,547 คนหลุดพ้นจากความยากจน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อำเภอหลิงฉิวดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อพัฒนาเกษตรอินทรีย์และคุ้มครองสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาในท้องถิ่น

อำเภอหลิงฉิวได้เปิดตัวอุทยานเกษตรอินทรีย์ ซึ่งกินพื้นที่ 1,185 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมเกษตรกร 46,000 คนใน 208 หมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีการสร้างเขตสาธิตเกษตรอินทรีย์ครอบคลุมพื้นที่ 146 ตารางกิโลเมตรในตำบลหนึ่ง เพื่อพัฒนาโครงการเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจัง

ขณะเดียวกัน หลิงฉิวยังได้เลือกใช้รูปแบบการพัฒนาที่เป็นการผสมผสานระหว่างเกษตรอินทรีย์ ชนบทที่สวยงาม และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยมีการสร้างชุมชนหกแห่งที่มีเกษตรอินทรีย์เป็นแกนหลัก และได้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ในปัจจุบัน

ตัวอย่างหนึ่งของหกชุมชนดังกล่าว ได้แก่ Chehe Organic Community ที่ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยว 420,000 คนนับตั้งแต่จัดตั้งชุมชนขึ้นในปี 2557 และมีมูลค่าการลงทุนรวม 380 ล้านหยวน (ประมาณ 56.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

จนถึงปัจจุบัน มูลค่าผลผลิตรวมของเกษตรอินทรีย์ในอำเภอหลิงฉิวคิดเป็นสัดส่วนประมาณหนึ่งในสามของมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรทั้งหมดของอำเภอ และปัจจุบันอำเภอหลิงฉิวมีบริษทชั้นนำในอุตสาหกรรมการเกษตร 20 แห่ง

ลิงก์ข่าวต้นฉบับ: https://en.imsilkroad.com/p/316219.html