1

Weibo.com…Micro-Blogging ที่ใหญ่ที่สุดของจีนบุกไทย จัดตั้ง WEIBO THAILAND

Weibo.com…Micro-Blogging ที่ใหญ่ที่สุดของจีนบุกไทย จัดตั้ง WEIBO THAILAND เป็นตัวแทนให้คำปรึกษาในการใช้และวิธีการประชาสัมพันธ์ผ่าน Weiboพร้อมให้บริการรับฝากบริหาร account ภายใต้สโลแกน “Amazing Wei Thailand:  An Easy Way to Open the Chinese Market”

วงการ Social Media ไทย เนื้อหอมสุดๆ เมื่อยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของสังคมออนไลน์โลกสัญชาติจีน ที่ชื่อว่า Sina Weibo ตัดสินใจเข้าสู่ตลาดเมืองไทยอย่างเป็นทางการ เปิดตัวเว็บไซต์ Weibo.com สู่ผู้ใช้คนไทย  ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท เจียระไน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ภายใต้ชื่อ Weibo Thailand โดยการนำของนักธุรกิจสาวชาวจีน คนรุ่นใหม่ ที่ชื่อว่า คุณหลุ่ย แซ่กั๊ว (Khun Rui  Guo)

 

“การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Weibo.com ในครั้งนี้ ในเบื้องต้น เราตั้งเป้าที่จะใช้ศักยภาพของ weibo.com ที่มีอยู่ เป็นสะพานเชื่อมระหว่างนักธุรกิจและนักลงทุนของไทย กับนักธุรกิจและนักลงทุนชาวจีน โดยเฉพาะผู้บริโภคชาวจีน และเป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยในหมู่คนจีน เพราะปัจจุบันในสายตาของชาวจีน ประเทศไทยถูกมองเป็นศูนย์กลางของอาเซียน และยังถือเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในการตัดสินใจมาท่องเที่ยวของชาวจีนอีกด้วย โดยคาดว่า ในปี2556 นี้ จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่หลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทยมากกว่า 3.8 ล้านคนเลยทีเดียว” คุณหลุ่ย แซ่กั๊ว กล่าว

 

บริษัท เจียระไน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ในฐานะตัวแทน Weibo.com เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “WEIBO THAILAND” ได้เล็งเห็นถึงการที่ประเทศไทยกำลังจะเข้ามาสู่ความเป็นศูนย์กลางแห่งอาเซียน ประกอบกับการที่จีนเป็นตลาดการค้าและการลงทุนขนาดใหญ่ จึงได้นำ Weibo.com เข้ามาในประเทศไทย พร้อมให้บริการตรวจสอบรับรองเครื่องหมาย V เพื่อแสดงความเป็นตัวตนจริงของผู้ใช้ ป้องกันการแอบอ้างหรือมิจฉาชีพบนอินเตอร์เน็ต ให้คำปรึกษาในการใช้และวิธีการประชาสัมพันธ์ผ่าน Weibo.com พร้อมทั้งยินดีให้บริการรับฝากบริหาร account สำหรับผู้ที่ไม่ชำนาญภาษาจีนหรือไม่คุ้นเคยวิธีการบริโภคสื่อของชาวจีน ภายใต้สโลแกน “Amazing Wei Thailand:  An Easy Way to Open the Chinese Market” เพื่อเป็นการเปิดช่องทางการเชื่อมต่อประชาสัมพันธ์ และผลักดันให้ธุรกิจเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตได้มากยิ่งขึ่น ทั้งในประเทศไทย ประเทศจีน และในระดับโลกต่อไปอีกด้วย

 

WEIBO.COM ถูกออกแบบและจัดสร้างขึ้นโดยทีมงาน บริษัท ซีนา จำกัด เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2552 และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศจีนและชาวจีนทั่วโลก ซึ่งรวมถึงชาวจีนในประเทศไทยมาโดยตลอด  ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา  Weibo.com มียอดจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้บริการพุ่งขึ้นมากถึง 503 ล้านคน  โดยเฉลี่ยผู้เข้าใช้ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมามีมากถึง 47 ล้านคนต่อวัน เฉลี่ยจำนวนข้อความที่โพสต์อยู่ที่ 100 ล้านข้อความต่อวัน จุดเด่นที่ทำให้ Weibo.com มีความแตกต่างกับ Twitter และ Facebook ก็คือ Weibo.com มีการตรวจสอบและใส่เครื่องหมายรับรองผู้ใช้ตัวจริงให้กับบุคคลสำคัญหรือบุคคลผู้มีชื่อเสียง และองค์กร โดยใช้ตัวอักษร “V” สีเหลือง แทนสัญลักษณ์ของบุคคลสำคัญหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือรับรองตำแหน่งการงาน และตัวอักษร ”V” สีน้ำเงินแทนสัญลักษณ์ขององค์กรหรือบริษัทที่ได้รับการรับรอง

 

 

 

บริษัทวิจัย iResearch ในจีนระบุว่า Weibo.com มีส่วนแบ่งในตลาดที่ให้บริการ Micro-Blogging ของจีนมากถึงร้อยละ 86.6 ซึ่งทิ้งห่างสื่อประเภทเดียวกันในจีนมากถึง 4 เท่า จึงมั่นใจได้ว่าการประชาสัมพันธ์ผ่าน Weibo.com จะเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุด ง่ายที่สุด และเข้าถึงชาวจีนได้ในจำนวนที่มากที่สุด ในสังคมยุคปัจจุบัน

 

ปัจจุบัน มีบุคคลสำคัญและองค์กรระดับโลก พากันมาลงทะเบียนเปิดบัญชีผู้ใช้อย่างเป็นทางการกับ Weibo.com เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลายท่านหลายองค์กร อาทิเช่น องค์การสหประชาชาติ สถานทูตไทยประจำประเทศจีน ผู้ว่ารัฐต่างๆของสหรัฐอเมริกา ผู้ว่าเมืองแวนคูเวอร์ประเทศแคนนาดา อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศนิวซีแลนด์ และล่าสุดก็ได้รับเกียรติและความไว้วางใจจากท่านนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ของประเทศไทยที่กำลังจะเปิด account ส่วนตัวอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้

 

ในยุคสังคมที่ Social Network กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงนั้น เราทราบกันดีว่า Facebook และ Twitter ถูกห้ามใช้งานในประเทศจีน แต่ชาวจีนก็ยังสามารถสนุกกับบริการ เวยป๋อดอทคอม (Weibo.com) ซึ่งเป็นบริการ Micro-Blogging ของจีน มีคอนเซ็ปต์ผสมผสานระหว่าง Twitter และ Facebook เข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดยที่ผู้ใช้สามารถแสดงความคิดเห็นสั้นๆ และตอบโต้กับผู้ใช้คนอื่นๆ ได้อย่างสะดวก ง่าย และรวดเร็ว และวันนี้   เวยป๋อดอทคอม (Weibo.com) ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว และหวังว่าจะได้รับการต้อนรับด้วยดีจากผู้ใช้คนไทย โดยเฉพาะนักธุรกิจที่สนใจที่จะมุ่งเจาะตลาดจีน และนักธุรกิจไทยที่ทำธุรกิจกับประเทศจีนอยู่แล้วในปัจจุบัน