Vertiv และ 451 Research เผยรายงานผลการวิจัยใหม่ด้านการเตรียมพร้อมของ 5G และการรองรับด้านเทคนิค
ผู้ประกอบการแชร์แผนการสำหรับการจัดการความหนาแน่นของเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น และการใช้พลังงานจำนวนมากขึ้น จากการปรับใช้ 5G ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ประเทศไทย [24 กรกฎาคม 2019] – Vertiv ร่วมกับ 451 Research บริษัทวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยี เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับสถานะของ 5G ในวันนี้ว่า “งานวิจัยเกี่ยวกับบริษัทโทรคมนาคม ตีแผ่ความหวังและความกลัวของอุตสาหกรรม: จากต้นทุนด้านพลังงาน ไปสู่การเปลี่ยนแปลงการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์” รายงานได้ชี้ผลลัพธ์ จากการสำรวจเชิงลึกของผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านโทรคมนาคม มากกว่า 100 รายทั่วโลกที่เข้าถึง 5G รวมถึงกลยุทธ์ และแผนที่ทันสมัย การวิจัยครอบคลุมถึงแผนการปรับใช้ 5G บริการเสริมจากการปรับใช้ก่อนหน้านี้ และการรองรับด้านเทคนิค ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับความสำเร็จของ 5G
ผู้เข้าร่วมการสำรวจมีทัศนคติเชิงบวกอย่างท่วมท้นเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจ 5G และการก้าวไปข้างหน้าอย่างจริงจังกับแผนการปรับใช้ โดย 12% ของผู้ให้บริการคาดว่าจะเปิดตัวบริการ 5G ในปี 2562 และอีก 86% คาดว่าจะให้บริการ 5G ภายในปี 2564
จากการสำรวจ พบว่าบริการในระยะแรกเหล่านี้จะมุ่งเน้นไปที่บริการเสริมเกี่ยวกับข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน (ร้อยละ 96) และบริการแก่ผู้บริโภคใหม่ (ร้อยละ 36) ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถาม (32%) คาดว่าจะให้บริการขององค์กรที่มีอยู่โดยมี 18 % ที่ระบุว่าพวกเขาคาดหวังที่จะให้บริการกับองค์กรใหม่ๆ
เมื่อเครือข่ายมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีการขยายขอบเขตความครอบคลุมแล้ว ตัว 5G เองจะกลายเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อคการใช้งานที่มากขึ้นของเคสที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง การส่งข้อมูลที่มีความหน่วงต่ำ เช่น โลกเสริมจริง และโลกเสมือนจริง บริการทางการแพทย์ในยุคดิจิตัล สมาร์ทโฮม รวมถึงตึก โรงงาน และเมืองแบบใหม่
อย่างไรก็ตาม ด้วยการแจกแจงระดับความท้าทายนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ (68%) คาดว่าจะไม่ได้มี 5G ใช้ครอบคลุมไปจนถึงปี 2571 หรือหลังจากนั้น ร้อยละ28 คาดว่าจะมีการครอบคลุมทั้งหมดในปี 2570 ในขณะที่เพียงร้อยละ 4 คาดว่าจะมีความครอบคลุมในปี 2568
“ ผู้ประกอบการในเอเชียมีมุมมองที่เป็นแง่บวกว่า พวกเขาพร้อมที่จะปรับใช้ 5G ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ก็ตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่เพิ่มขึ้นมา พร้อมกับความท้าทายใหม่ๆ การใช้พลังงานที่มากขึ้น ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ และการเข้าถึง รวมถึงความสามารถในการจัดการพื้นที่สำหรับคอมพิวเตอร์” แดนนี่ หว่อง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายโทรคมนาคมของ Vertiv Asia กล่าว “ยังมีความต้องการที่เร่งด่วนกว่าของผู้ประกอบการโทรคมนาคม ที่ต้องเลือกและนำพลังงาน นวัตกรรมพลังงานและความร้อนไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ – ซึ่งจะทำให้ 5G เป็นจริงขึ้้นมา”
เพื่อที่จะสนับสนุนบริการ 5G บริษัทโทรคมนาคมต่างๆกำลังเพิ่มการปรับใช้ของ สถาปัตยกรรมระบบเครือข่ายทั้งแบบมีสาย และไร้สายสำหรับเชื่อมต่อ Edge Computing (MEC) ซึ่งนำความสามารถของคลาวด์มาสู่เครือข่ายการเข้าถึงวิทยุโดยตรง ร้อยละ 37 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขากำลังปรับใช้โครงสร้างพื้นฐาน MEC ก่อนการติดตั้ง 5G ในขณะที่อีก 47% ตั้งใจที่จะปรับใช้ MEC
เนื่องจากที่ตั้งคอมพิวเตอร์ใหม่ที่รองรับ 5G ได้เข้าสู่ระบบออนไลน์ ความสามารถในการตรวจสอบ และจัดการเครือข่ายที่หนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ จึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นต่อการคงผลกำไร ในด้านการจัดการระยะไกล การจัดการโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล (DCIM) ถูกระบุว่าเป็นตัวรองรับใช้งานที่สำคัญที่สุด (55%) ตามด้วยการจัดการพลังงาน (49%) การจัดการระยะไกลจะมีความสำคัญ เนื่องจากรายงานชี้ให้เห็นว่า การเพิ่มความหนาแน่นของเครือข่ายที่จำเป็นสำหรับ 5G นั้น อาจทำให้ผู้ประกอบการต้องเพิ่มจำนวนสถานีวิทยุทั่วโล กเป็นสองเท่าในอีก 10-15 ปีข้างหน้า
การสำรวจยังขอให้ผู้ตอบแบบสอบถามระบุแผนการจัดการปัญหาพลังงานในวันนี้ และอีก 5 ปีในอนาคต เมื่อส่วนใหญ่ของเครือข่ายรองรับ 5G ซึ่งผู้เข้าร่วม 94% คาดว่าจะใช้พลังงานเครือข่ายมากขึ้น บทสรุปที่สำคัญมีดังนี้:
• การลดการแปลง AC เป็น DC จะยังคงเป็นประเด็นสำคัญต่อไปโดย 79% ของผู้ตอบแบบสอบถา มกล่าวว่าเป็นโฟกัสหลักในทุกวันนี้ และ 85% ตอบว่าจะเป็นโฟกัสที่สนใจในอีก 5 ปีนับจากนี้
• เทคนิคการระบายความร้อนแบบใหม่ จะมีการปรับใช้ครั้งใหญ่ที่สุดในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะนี้ได้มีการใช้งาน โดยร้อยละ 43 มาจากบริษัทโทรคมนาคมทั่วโลก คาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 73 ใน 5 ปี
• การอัพเกรดจาก VRLA สู่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนยังแสดงผลการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ ปัจจุบันร้อยละ 66 ของ บริษัทโทรคมนาคมกำลังอัพเกรดแบตเตอรี่ ตัวเลขดังกล่าวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 81% ในอีก 5 ปีนับจากนี้
“5G แสดงถึงการอัพเกรดเครือข่ายที่มีผลกระทบ และยากที่สุดที่เคยประสบกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคม” ไบรอัน พราทริดจ์ รองประธานฝ่ายวิจัยของ 451 Research กล่าว “โดยทั่วไปแล้ว อุตสาหกรรมตระหนักถึงเลเวลของความท้าทายนี้ และความต้องการที่ต้องมีการรองรับของเทคโนโลยี และบริการเพื่อช่วยให้คงผลกำไร โดยจัดการเครือข่ายที่กระจายเพิ่มมากขึ้น และลดผลกระทบของต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น”
Vertiv เผยแพร่รายงานร่วมกันกับ Dell Technologies World ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าระดับโลกที่มุ่งเน้นเรื่องดิจิตัล ทรานสฟอร์มเมชั่น ในช่วงงานแสดงสินค้านี้ Vertiv ยังจัดแสดงประสบการณ์เสมือนจริง (VR) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างตัวอย่าง ดาต้า เซนเตอร์แบบจำลอง 3 มิติและโต้ตอบกับผลงานสร้างสรรค์ของพวกเขาผ่านระบบ VR
สำหรับรายงานฉบับเต็มโปรดไปที่ Vertiv.com/5Greport และเยี่ยมชม Vertiv.com สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ โซลูชั่นที่สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน
# # #
เกี่ยวกับ Vertiv
Vertiv รวบรวมฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การวิเคราะห์ และบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าแอปพลิเคชันที่สำคัญของลูกค้าทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ดำเนินการไปอย่างเหมาะสม และเติบโตไปพร้อมกับความต้องการทางธุรกิจของพวกเขา Vertiv แก้ปัญหาความท้าทายที่สำคัญที่สุด ที่ดาต้า เซนเตอร์ของทุกวันนี้ เครือข่ายการสื่อสาร และสิ่งอำนวยความสะดวกทางการค้า และอุตสาหกรรม ด้วยการรวมตัวของของพลังงาน ความเย็น และโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที และบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่คลาวด์ ไปจนถึงเครือข่าย Vertiv มีสำนักงานใหญ่ในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา มีพนักงานประมาณ 20,000 คน และดำเนินธุรกิจในกว่า 130 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ข่าวสารล่าสุด และเนื้อหาจาก Vertiv สามารถเข้าดูได้ที่ Vertiv.com
ติดต่อสอบถาม
Katrina Tirante
T +6326203600 ต่อ 7666
E Katrina.Tirante@vertiv.com
Reinier Dungca
T +6326203600 ต่อ 7657
E Reinier.Dungca@vertiv.com