‘Top 3’ Beauty Innovation Awards 2019 นวัตกรรมความงามผลงานคนไทย ก้าวสู่เวทีระดับโลก

0
440
image_pdfimage_printPrint

‘Top 3’ Beauty Innovation Awards 2019 นวัตกรรมความงามผลงานคนไทย ก้าวสู่เวทีระดับโลก

‘Southeast Asia’s Premier Beauty Show’ เป็นคำนิยามสั้นๆ ที่ผู้จัดอย่าง ยูบีเอ็ม เอเชีย ใช้เรียกเป็นส่วนขยายของงาน ‘ASEANbeauty’ แน่นอนว่าคำนิยามที่ยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ ยูบีเอ็ม เอเชีย ก็ไม่ได้คิดขึ้นเองเล่นๆ เพราะในระยะเวลาการจัดงานเพียง 3 วัน ASEANbeauty ประจำปี 2019 ก็มีเงินสะพัดภายในงานราวๆ 1,000 ล้านบาท ยังไม่นับรวมตัวเลขของโปรแกรมสุดพีคอย่าง “จับคู่ธุรกิจ” ที่บรรดาผู้ประกอบการความงามได้จับมือพูดคุยร่วมลงทุนกับนักธุรกิจทั่วทุกมุมโลกมากกว่า 2,800 คู่ จึงอาจกล่าวได้ว่า นิยาม ‘งานแสดงสินค้าความงามและสุขภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน’ คงไม่ได้เป็นการกล่าวเกินเลยไปแม้แต่นิดเดียว

แน่นอนว่าความอลังการงานสร้างเกรด Premier Beauty Show แบบนี้ นอกจากสินค้าความงามอันเลื่องลือจากทั่วโลกแล้ว ภายในงานยังเต็มไปด้วยสีสันจากเวทีความรู้และเวิร์คช็อปจากกูรูความงามตัวท็อปมากมาย และหนึ่งในไฮไลท์ที่มองข้ามไปไม่ได้เลย คือเวทีประชันไอเดียนวัตกรรมความงามสุดยิ่งใหญ่ “Beauty Innovation Awards 2019” โดยหัวเรือใหญ่ ยูบีเอ็ม เอเชีย และพาร์ทเนอร์คนสำคัญอย่าง สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย หรือ วว.

โดยผลงานที่ดีที่สุดจะได้รับสิทธิ์เยี่ยมชมงานแสดงสินค้าความงามระดับโลก Cosmoprof Asia 2019 ที่ประเทศ ฮ่องกง พร้อมทั้งได้รับสิทธิ์ร่วมทำงานวิจัยพัฒนาคุณค่าผลิตภัณฑ์ กับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย มูลค่ากว่า 2 แสนบาท

ผลงานไอเดียความงามหลายสิบไอเดียก็ถูกคัดเหลือเพียง Top 3 Beauty Innovation พร้อมก้าวขึ้นสู่แท่นรางวัลในงาน ASEANbeauty 2019 ซึ่งทั้ง 3 ผลงานต่างเป็นนวัตกรรมต่างสไตล์, มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเฉือนกันด้วยคะแนนเพียงนิดเดียวเท่านั้น

Good: รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2: Gemini Organic & Natural Care
ผู้ช่ำชองผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคระดับแถวหน้าของเมืองไทย คว้ารางวัลด้วยผลงาน “สบู่ล้างหน้าซูเปอร์ฟู้ด” ด้วยการนำจุดแข็งของบริษัทอย่าง ‘โกโก้บัตเตอร์’ ไขมันธรรมชาติของเมล็ดโกโก้มาผลิตเป็นสบู่ที่ให้ความชุ่มชื้น และสร้างเนื้อฟองที่ละเอียดอ่อนนุ่มยิ่งกว่าเดิม ผสมผสานไปกับส่วนผสมจากที่สุดแห่งคุณค่าจากธรรมชาติอย่าง ‘ซูเปอร์ฟู้ด’ สมบัติที่อัดแน่นด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ พร้อมด้วยคุณประโยชน์ที่มากกว่าอาหารทั่วไปถึง 3 เท่า เพิ่มทางเลือกดูแลผิวด้วยความโดดเด่นที่แตกต่างกันถึง 4 รูปแบบ ทั้ง Spirulina Detoxifying, Perilla-Chia, Tri-Color Quinoa และ Maca Cacao Vitality

คุณชาคริน เพชรานนท์ รองกรรมการผู้จัดการของ Gemini Organic & Natural Care กล่าวว่า “Gemini Organic ก่อตั้งขึ้นจากแรงบันดาลใจที่ต้องการสร้างที่สุดแห่งความอ่อนโยนให้แก่ผิว ด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีความปลอดภัย เราเริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กจนเติบโตมาถึงผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มทั่วไป ที่สำคัญวัตถุดิบและกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนของเจมินีได้รับการรับรองโดย United States Department of Agriculture (USDA) ในตอนนี้ผลงาน ‘สบู่ล้างหน้า ซูเปอร์ฟู้ด’ ของเราจะมี 4 รูปแบบ แต่เราจะสรรหาวัตถุดิบซูเปอร์ฟู้ดมาเสริมทางเลือกในอนาคต เพื่อให้ผู้ใช้สบู่เจมินีได้รับสิ่งที่ดีที่สุด”

Better: รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1: BIC Chemical
ผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์สำหรับใช้ในสัตว์รายใหญ่ มาสู่การริเริ่มแตกไลน์การผลิตเครื่องสำอางในฐานะแบรนด์ dhavi (ดาวี่) เข้าท้าชิงด้วยผลงาน “RED JASMINE RICE EXTRA REJUVENATING SERIES” ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าจากสารสกัดข้าวหอมมะลิสีแดง ผลงานการวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สู่การขัดสีรำข้าวและจมูกข้าวสร้างสกินแคร์ชั้นเลิศที่มีคุณสมบัติ 6 ประการ คือ Wrinkle ลบเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น, Texture ปรับความไม่สม่ำเสมอของสีผิว, Pores ลดขนาดรูขุมขน, Spot ลบเลือนรอยแดงบนใบหน้า, UV-Spot ลบเลือนจุดด่างดำบนใบหน้า และ Brown-Spot ลบเลือนกระฝ้าจากการสะสมของเมลานิน

คุณเมวดี บัวบุญ ผู้จัดการแผนกขายและการตลาดแบรนด์ dhavi (ดาวี่) เล่าว่า “ซีรีส์ผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิแดง แบ่งออกเป็น 4 รายการ คือ Essence, Serum, Cream และ Mask ซึ่งทั้งหมดผ่านการทดสอบและทดลองทางวิทยาศาสตร์ว่าปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียง นอกจากนี้ บิ๊ค เคมิคอล ยังเพิ่มมาตรฐานด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์และเภสัชกรกว่า 40 คน รวมไปถึงเครื่องมือไลน์การผลิตที่ทันสมัย ที่สำคัญเรายังเน้นสร้างผลิตภัณฑ์หลักจากสิทธิบัตรผลงานวิจัยจาก สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร เพื่อเป็นการสนับสนุนผลงานวิจัยของนักวิชาการ และเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้วัตถุดิบการเกษตรของประเทศไทย”

The Best: รางวัลชนะเลิศ: Derma Innovation
มาถึงเดอะเบสแห่งเวที “Beauty Innovation Awards 2019” จากบริษัท One-Stop Service OEM/ODM หัวแถวของประเทศไทย คว้ารางวัลด้วยผลงาน “Morning & Night Cleansing” คลีนซิ่งที่ใช้ได้ทั้งสองช่วงเวลาในกระปุกเดียว โดยสารสกัดคลีนซิ่งจะถูกนำไปเข้ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แปรเปลี่ยนเนื้อเหลวสู่รูปแบบเม็ดไข่ปลา ที่ใช้งานง่าย พกพาสะดวก และควบคุมปริมาณการใช้ต่อครั้งได้ดี โดย Morning Cleansing จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำได้ทั้งทำความสะอาดและบำรุงผิวหน้าด้วยวิตามินที่หลากหลาย ให้ผิวหน้าสดชื่นพร้อมรับการตกแต่งในยามเช้า ส่วน Night Cleansing จะเป็นผลิตภัณฑ์ Make-up remover ที่ชำระล้างเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด สะอาด ปลอดภัย ไม่มีสารตกค้าง ช่วยให้ใบหน้าสะอาดรับความสบายในยามค่ำคืน

คุณเอกวัจน์ สหกิจ กรรมการบริหาร บริษัท เดอร์มา อินโนเวชั่น จำกัด กล่าวว่า “เดอร์มา อินโนเวชั่น มีประสบการณ์ในการผลิตเครื่องสำอางแบบ One-Stop Service มามากกว่า 5,000 แบรนด์ ในระยะเวลา 10 ปี โดยปัจจุบันเราได้ขยายธุรกิจเข้าสู่พื้นที่ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) อย่างเต็มตัว เพื่อกระจายเครื่องสำอางที่ผลิตในประเทศไทยไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเราได้ให้บริการตั้งแต่ต้นทางทั้งการดีไซน์, แพ็คเกจจิ้ง และมาร์เก็ตติ้ง นอกจากนี้เดอร์มา อินโนเวชั่น ยังได้พัฒนานวัตกรรมเครื่องสำอางใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อเป็นแนวทางประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์ของลูกค้าอีกด้วย โดย ‘Morning & Night Cleansing’ ก็เป็นหนึ่งในไอเดียเหล่านี้เช่นกัน”

ผลงาน Top 3 Beauty Innovation เป็นเครื่องหมายยืนยันถึงศักยภาพระดับผู้นำในตลาดเครื่องสำอางไทยได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าไอเดียนวัตกรรมความงามทั้ง 3 นี้ จะเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้ผู้เล่นตลาดเครื่องสำอางคนอื่น งัดเอาไอเดีย, แนวคิด รวมไปถึงความมหัศจรรย์จากทุกมุมในประเทศไทย มาสร้างสรรค์นวัตกรรมเครื่องสำอางพร้อมเซ็นซิกเนเจอร์ ‘ประเทศไทย’ และนำพาเรื่องราวความงามเหล่านี้ ก้าวสู่เวทีโลกต่อไป