ลอสแองเจลิส–26 มิ.ย.–พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
บริษัทที่ดำเนินธุรกิจแบบ One for One(R) ให้มากกว่าการบริจาค ด้วยการลงทุนครั้งใหญ่ในการผลิต การเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การวิจัย และการพัฒนาพันธมิตร
เบลค มายคอสกี้ ผู้ก่อตั้งและประธานโครงการบริจาครองเท้าของ TOMS ประกาศว่า บริษัทและองค์กรพันธมิตรได้มอบรองเท้าใหม่ให้กับเด็กๆที่ขาดแคลนกว่า 10 ล้านคู่ และยังได้ช่วยเหลือผู้บกพร่องทางสายตากว่า 150,000 คนทั่วโลก ความสำเร็จของโมเดลธุรกิจแบบ One for One(R) ของ TOMS ได้นำไปสู่การดำเนินโครงการที่เกี่ยวกับการให้ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้ทำการลงทุนครั้งใหญ่ในการผลิตรองเท้า การเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และการวิจัยภาคสนาม นอกจากนี้โมเดลธุรกิจดังกล่าวยังได้ก่อให้เกิดการพัฒนาพันธมิตรสินค้า ซึ่งสามารถระดมเงินเป็นจำนวนหลายล้านดอลลาร์ให้แก่องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรต่างๆ
“ตอนที่ผมก่อตั้ง TOMS ผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับรองเท้าและการให้เลย ผมรู้เพียงแต่ว่าผมอยากให้ความช่วยเหลือ” นายมายคอสกี้กล่าว “ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา TOMS เติบโตเร็วกว่าที่ผมคิดไว้ และในขณะที่เราเรียนรู้คำว่าให้ด้วยการให้ เราก็ยังทำได้ไม่ดีพออย่างที่ตั้งใจไว้ อย่างไรก็ตามเราได้รับฟังความคิดเห็นจากบรรดาองค์กรพันธมิตร ลูกค้า พนักงาน และนักวิจารณ์ จนทำให้ในปัจจุบันเราสามารถตอบแทนสังคมได้อย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ เราได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการให้ ที่เปรียบเสมือน One for One เวอร์ชั่น 2.0 สำหรับเรา”
TOMS มีแผนร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร เพื่อบริจาครองเท้าให้กับเด็กที่ขาดแคลนอีก 10 ล้านคู่ภายใน 24 เดือนข้างหน้า ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงความก้าวหน้าอันโดดเด่นในการดำเนินโครงการบริจาคของบริษัท ซึ่งได้แก่
- TOMS ลงทุนครั้งใหญ่ในรูปแบบการบริจาคและการดำเนินงานของบริษัท
บริษัทได้แต่งตั้งนายเซบาสเตียน ฟรายส์ เป็นประธานโครงการบริจาค และได้สร้างทีมที่ประกอบด้วยบุคคลากรกว่า 20 คนซึ่งอุทิศตนให้กับการดำเนินโครงการในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเชิงกลยุทธ์ การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ การพัฒนาโครงการ และการประเมินผล โดยลูกทีมแต่ละคนล้วนมีประสบการณ์ในด้านสาธารณสุข และการร่วมงานกับองค์กรเอ็นจีโอ
องค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้กลายมาเป็นเสาหลักของโครงการบริจาคโดยรวม TOMS ทำงานร่วมกับองค์กรพันธมิตรกว่า 75 แห่ง เพื่อบรรจุการบริจาครองเท้าใหม่เข้าเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการพัฒนาที่ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังได้ปรับปรุงรองเท้าผ้าใบที่นำไปบริจาค ตลอดจนพัฒนารองเท้าที่ผลิตขึ้นใหม่เพื่อการบริจาค โดยปรับให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละท้องถิ่น เช่น รองเท้าบูท และรองเท้ากีฬา เป็นต้น
- TOMS ผลิตรองเท้าใหม่ในประเทศที่บริษัทมีโครงการบริจาค
ปัจจุบันบริษัทผลิตรองเท้าเพื่อบริจาคให้กับเด็กๆในเอธิโอเปีย เคนยา อาร์เจนตินา และจีน และภายในอีกสองปี รองเท้าจำนวนหนึ่งในสามของที่บริษัทบริจาค จะผลิตขึ้นในประเทศที่บริษัทดำเนินโครงการดังกล่าวอยู่ ซึ่งการขยายการผลิตรองเท้าไปตามโรงงานในท้องถิ่นมากขึ้นนั้นจะทำให้ TOMS มีส่วนช่วยสร้างงานและสนับสนุนการจ้างงานในชุมชนนั้นๆ ทั้งนี้ บริษัทกำลังทดสอบการผลิตรองเท้าในอินเดีย และยังมีแผนขยายการผลิตไปยังทวีปแอฟริกาและภูมิภาคอื่นๆ
TOMS อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการผลิตรองเท้าในประเทศเฮติ และได้เชิญชวนศิลปินท้องถิ่นมาร่วมออกแบบลายรองเท้า ซึ่งถือเป็นการสร้างงานและสนับสนุนการจ้างงานให้กับชุมชนในโครงการ นอกจากนี้ การผลิตรองเท้าโดยใช้วัสดุในท้องถิ่นจะทำให้บริษัทสามารถนำเสนอรองเท้าในรูปแบบที่มีความหลากหลายมากขึ้น
- TOMS ได้ก่อตั้ง/ให้เงินสนับสนุนการวิจัยหลายโครงการ เพื่อทำความเข้าใจถึงผลดีและผลเสียของโครงการบริจาครองเท้าของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์หลักของการดำเนินการดังกล่าวคือเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับบริษัทผ่านทางการประเมินผลดีและผลเสียของโครงการ และเพื่อปรับปรุงโครงการบริจาคในรูปแบบต่างๆที่บริษัทกำลังดำเนินอยู่ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจากการติดตามผลการดำเนินโครงการบริจาครองเท้าในประเทศเอลซัลวาดอร์ ซานซิบาร์ มาลาวี และเอธิโอเปียนั้น พบผลโดยตรงทางบวก ได้แก่ สุขภาพของเด็ก การเข้าถึงการศึกษา และสวัสดิภาพโดยรวม นอกจากการทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลโดยตรงของโครงการแล้ว TOMS ยังอยู่ในระหว่างการสำรวจตรวจสอบว่า การรวมโครงการบริจาครองเท้าเข้าแผนงานที่บริษัทกำลังดำเนินการร่วมกับองค์กรพันธมิตรนั้นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของแผนงานที่มีอยู่ได้อย่างไร นอกจากนี้ TOMS กำลังประเมินผลของโครงการบริจาครองเท้าที่อาจมีต่อเศรษฐกิจในประเทศหรือท้องถิ่นนั้นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทดำเนินโครงการอย่างมีความรับผิดชอบ
สำหรับในประเทศเอธิโอเปียนั้น โครงการบริจาครองเท้าของ TOMS ยังทำให้บริษัทเกิดแรงจูงใจในการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในการกำจัดโรคเท้าช้าง ซึ่งสร้างความเจ็บปวดและความอับอายให้กับประชาชนหลายล้านคนที่อาศัยและทำงานบนดินเถ้าภูเขาไฟซึ่งเต็มไปด้วยซิลิกาโดยไม่ใส่รองเท้า TOMS มอบรองเท้าใหม่ให้กับเด็กๆ เพื่อป้องกันไม่ให้คนรุ่นหลังต้องป่วยเป็นโรคนี้อีก และยังได้ลงทุนในด้านการจัย การทำแผนที่ การขยายโปรแกรมรักษาโรคและคลินิก การศึกษาในชุมชน การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย รวมถึงการให้คำปรึกษา
- TOMS ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่องค์กรอื่นๆ ที่มีส่วนช่วยเหลือคนยากไร้ ผ่านทางพันธมิตรสินค้าของบริษัท
นอกเหนือจากมอบรองเท้าคู่ใหม่และช่วยฟื้นฟูสายตาแล้ว TOMS ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรสินค้าที่ทำให้บริษัทสามารถให้ได้มากยิ่งขึ้น โดยองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนผ่านทางความร่วมมือกับ TOMS ได้แก่ Eastern Congo Initiative (ECI) ของเบ็น แอฟเฟล็ก, Charlize Theron Africa Outreach Project (CTAOP) ของชารีซ เธอรอน, Save the Waves, charity:water และ Movember เป็นต้น
นายฟรายส์ ประธานโครงการบริจาคของ TOMS เสริมว่า “โครงการบริจาครองเท้าและโครงการคืนการมองเห็นของบริษัทและองค์กรพันธมิตรของเราประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่เรายังมีเรื่องต้องทำอีกมาก รองเท้าคู่ใหม่ที่เราบริจาคนั้นมีส่วนช่วยให้เด็กๆสามารถเดินทางไปโรงเรียนได้ โดยบริษัทได้ดำเนินโครงการดังกล่าวร่วมกับการให้บริการตรวจโรคเพื่อป้องกันภาวะขาดสารอาหาร และการแจกยาเพื่อป้องกันโรคพยาธิปากขอ นอกจากนี้ โครงการคืนการมองเห็นของเรายังทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง และยังเป็นการสนับสนุนหน่วยงานจักษุวิทยาในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอย่างยั่งยืน เราทำงานร่วมกับองค์กรในท้องถิ่นที่มีการอบรมให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพแก่ชาวบ้าน เรียกได้ว่าเรากำลังลงทุนในคลินิค ลงทุนกับประชาชน และส่งเสริมงานในท้องถิ่น”
เกี่ยวกับ TOMS
ในปี 2549 เบลค มายคอสกี้ นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันได้ผูกมิตรกับเด็กๆในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของอาร์เจนตินา เขาพบว่า เด็กๆเหล่านั้นไม่มีรองเท้าสวมใส่เพื่อปกป้องเท้าของตนเอง มายคอสกี้ต้องการที่จะช่วยเหลือเด็กๆเหล่านั้นโดยจัดตั้ง TOMS บริษัทผลิตรองเท้าซึ่งจะบริจาครองเท้า 1 คู่ให้เด็กๆที่ต้องการ เมื่อมีผู้ซื้อรองเท้า 1 คู่ในทุกๆครั้งตามโครงการ One for One(R)
5 ปีถัดมา TOMS ตระหนักถึงการเคลื่อนไหวที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการพื้นฐานอื่นๆได้ บริษัทจึงเปิดตัว TOMS Eyewear ซึ่งจะมอบแว่นตา 1 อันให้กับผู้ขาดแคลน ในทุกๆครั้งที่มีผู้ซื้อแว่นตา 1 อัน ตามโครงการ One for One(R) เช่นเดียวกัน เนื่องจากทุกวันนี้มีตัวเลือกมากมายซึ่งมีอิทธิพลต่อชีวิตของผู้คนทั่วโลก ดังนั้น TOMS จะเดินหน้าเคลื่อนไหวเพื่อการเติบโต และการพัฒนาต่อไป
