TOG เดินหน้าเปิดสายการผลิตใหม่ “RX AUTOMATION” พร้อมรับออเดอร์เลนส์จากต่างประเทศ

0
331
image_pdfimage_printPrint

TOG เดินหน้าลุยปี 2560 เตรียมเปิดสายการผลิตใหม่ “RX AUTOMATION” รับออเดอร์ลูกค้าจากต่างประเทศ ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิต เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้มีปัญหาทางสายตาในปัจจุบัน พร้อมวางแผนบุกตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อเพิ่มยอดขายอย่างต่อเนื่อง

นายธรณ์ ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TOG ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายเลนส์สายตาพลาสติกรายใหญ่ของประเทศไทย และผู้ผลิตเลนส์สายตาอิสระในระดับสากล เปิดเผยผลประกอบการประจำปี 2559 โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม1,933.99 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 6.04 และกำไรสุทธิ 250.37 ล้านบาท (ด้วยอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 12.95) เติบโตขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 9.03 อัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจเลนส์พลาสติกมูลค่าเพิ่มและธุรกิจเลนส์สั่งฝนพิเศษในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและภูมิภาคออสเตรเลีย ซึ่ง TOG ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7-10% ในทุกปี โดยเน้นขยายฐานกลุ่มลูกค้าในตลาดสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และเปิดตลาดใหม่ในประเทศกลุ่ม AEC อาทิเช่น อินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น จากความต้องการใช้เลนส์สายตาเฉพาะบุคคลมากขึ้น TOG จึงทุ่มงบลงทุนมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ในสายการผลิตเลนส์สายตาเฉพาะบุคคลด้วยเทคโนโลยี AUTOMATION เพื่อรองรับกำลังการผลิตเลนส์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปี 2560

“การลงทุนในครั้งนี้ เป็นการลงทุนในลักษณะโครงการที่ถือว่ามีมูลค่ามากที่สุดในประวัติการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับมาตรฐานคุณภาพสินค้า การบริการและการส่งมอบ เพื่อให้บริษัทเป็นผู้ผลิตเลนส์สายตาเฉพาะบุคคลในฐานะผู้ผลิตเลนส์อิสระชั้นแนวหน้าในตลาดโลก”

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญการยกระดับแบรนด์สินค้า “TOG” โดยการสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์และภาพลักษณ์ให้มีความโดดเด่น ทันสมัย และง่ายต่อการจดจำของผู้บริโภค ภายใต้เครื่องหมายการค้า ONE, DISCOVERY, FREEDOM, MAXIMA, SHADE และ ZAPHIRE จากเดิมที่มี ExceliteTM เพียงแบรนด์เดียว โดยมีผู้แทนจัดจำหน่ายในประเทศไทย (Dealer) คือ บริษัท นำศิลปไทย จำกัด และวางจำหน่ายสินค้าร้านแว่นตาพันธมิตรทั่วประเทศ และในร้านแว่นตา “หอแว่น” และ “Better Vision” ซึ่งมีมากกว่า 100 สาขาในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเล็งเห็นศักยภาพของตลาดเวียดนามที่มีโอกาสในการเติบโตสูงสุดในกลุ่มประเทศ AEC โดยมีประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นอันดับรองลงมา ผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าและการบริการของ TOG และให้การตอบรับในผลิตภัณฑ์เลนส์กลุ่มพรีเมี่ยมเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศมากกว่า 95% ได้แก่ ยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกา และเอเชียแปซิฟิค ตามลำดับ และในประเทศน้อยกว่า 5%