สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กระทรวงพาณิชย์ และ สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย ประกาศความสำเร็จ “มหกรรมลดราคาสินค้าและบริการทางออนไลน์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี Thailand Online Mega Sale 2016 “Raining Sales Fever : ลดเวอร์! ท้าหน้าฝน” ที่ปิดฉากลงอย่างสวยงามพร้อมการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจกว่า 355 ล้านบาทในเวลา 9 วัน เปิดบทสรุปการซื้อ-ขาย ชี้สินค้าสุขภาพ และความงามมาแรงครองอันดับ 1 ตามมาด้วยสมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต และสินค้าแฟชั่นอื่นๆ ระบุผู้ครองแชมป์การช้อปออนไลน์ยังคงเป็นเพศหญิง เผยนักช้อปกลุ่มใหญ่สุดอายุ 20-29 ปี
ทรงพร โกมลสุรเดช ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กระทรวงดีอี เผยว่า จากบทบาทเดิมของกระทรวงไอซีทีที่ทำหน้าที่กำกับและควบคุมให้นำระบบไอซีทีมาใช้ในการเสริมศักยภาพของประเทศ วันนี้เราก้าวไปสู่การการกำกับและส่งเสริมให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานและนวัตกรรมโดยการนำระบบดิจิทัลมาใช้สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมไปถึงการเพิ่มบทบาทการเสนอนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งต้องบูรณาการทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชน ประชาชน และองค์กรต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ดังนั้นหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลที่เข้มแข็ง การส่งเสริมให้เกิดการไหลเวียนของธุรกรรมออนไลน์นับว่าเป็นตัววัดความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง บทบาทที่สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ได้พยายามผลักดันให้เกิดขึ้นมาในการช่วยกระตุ้นให้เกิดการประกอบอาชีพค้าขายออนไลน์ ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยปรับตัวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะเป็นย่างก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติต่อไป งาน Thailand Online Mega Sale 2016 เพิ่งจบไปนั้นเป็นอีกปรากฏการณ์สำคัญของการบูรณาการทุกภาคส่วน ให้สังคมตื่นตัวและมีประสบการณ์ในอีคอมเมิร์ซ จากการจัดงานในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมชมเว็บไซต์งานฯ ร่วม 5 แสนคน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 355 ล้านบาท ถือว่ามีส่วนสำคัญในการสนับสนุน การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตลอดจนมุ่งพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ผู้ใช้งานเกิดความเชื่อมั่น ยกระดับผู้ประกอบการทั้งรายเก่าและรายใหม่ให้เข้าสู่ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ เพิ่มความเชื่อมั่นในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างมั่นคงปลอดภัย
สุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ ETDA เผยว่า เอ็ตด้า มีนโยบายที่จะผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างจริงจัง เราจึงได้ร่วมกับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กระทรวงพาณิชย์ และ สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย พร้อมด้วยพันธมิตรภาครัฐ และเอกชน ในการจัดงาน Thailand Online Mega Sale 2016 “Raining Sales Fever : ลดเวอร์! ท้าหน้าฝน ที่ปิดฉากได้อย่างสวยงาม โดยงานจัดเพียง 9 วันเท่านั้น แต่ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนให้ประเทศได้กว่า 355 ล้านบาท นับเป็นความสำเร็จมากกว่าปีที่ผ่านๆ มา สอดคล้องกับผลการสำรวจของเอ็ตด้า ที่พบว่ามูลค่าอีคอมเมิร์ซไทย ใน ปี 2558 มีมูลค่ากว่า 2.24 ล้านล้านบาท และคาดการณ์จะเติบโตอีก 12.42 % ในปี 2559 นี้ หรือประมาณ 2.52 ล้านบาท ซึ่งจากความสำเร็จในการจัดงานครั้งนี้ จากความร่วมมือของภาคเอกชน ภาครัฐ และที่สำคัญที่สุดคือจากผู้ประกอบการที่เล็งเห็นความสำคัญของนโยบายภาครัฐในการมุ่งขับเคลื่อน ประเทศด้วยนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล และให้ความร่วมมือด้วยการผนึกกำลังสร้างความเชื่อมั่นให้นักช้อป รวมถึงการนำสินค้าที่มีคุณภาพมาลดราคาสร้างความคึกคักให้ตลาดอีคอมเมิร์ซ เอ็ตด้ามั่นใจว่า จากความร่วมมือของหลายฝ่ายดั่งที่ได้กล่าวมา ในปีหน้าพวกเราจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในส่วนของอีคอมเมิร์ซให้คึกคักไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านี้แน่นอน
ดร.รัฐศาสตร์ กรสูต ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักส่งเสริมธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เอ็ตด้า เผยว่า มหกรรมลดราคาสินค้าและบริการทางออนไลน์ “Thailand Online Mega Sale 2016 จัดขึ้นในวันที่ 1 – 9 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย ทั้งจากพันธมิตร ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ และผู้บริโภค โดยในปีนี้นักช้อปตัวยงยังคงเป็นนักช้อปเพศหญิงซึ่งมีสัดส่วนการช้อปปิ้ง ถึง 61% ผู้ชาย 38% สำหรับช่วงอายุนักช้อปในงานนี้ที่มาแรงอันดับ 1 คืออายุ 20-29 ปี ถึง 44% รองลงมาคือช่วงอายุ 30 -39 ปี 30% แม้แต่วัยช่วงชั้น 40-49 ปี ก็มีสัดส่วนถึง 14% สำหรับสินค้าที่นิยมซื้อมากที่สุดคือ สินค้าสุขภาพ และความงาม สัดส่วนการช้อปถึง 41% ขณะที่สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต (ปีที่แล้วติดอันดับ 1) และสินค้าแฟชั่น มีผู้ช้อป 29% เท่ากัน ตามมาด้วย กล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ 20% หากพิจารณาในด้านมูลค่าการจับจ่ายเฉลี่ยสูงสุด จะเป็นกลุ่มสินค้า โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตโดยมีมูลค่าฉลี่ย 7,176 บาท/คน รองลงมาคือ กล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพมูลค่าเฉลี่ย 7,156 บาท/คน โดยเหตุผลหลักในการตัดสินใจซื้อสินค้า นอกจาก 2 อันดับแรก คือ ราคาและโปรโมชั่นที่ดึงดูด และ สินค้าที่ตอบสนองความต้องการ เป็นเหตุผลหลักแล้ว ความเชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยในการชำระสินค้ายังเป็นปัจจัยสำคัญอันดับ 3 ซึ่งในปีนี้ช่องทางการชำระเงิน 3 อันดับแรกพบว่ามีการซื้อสินค้าผ่านบัตรเครดิตมากที่สุด 37% การโอนเงินผ่านธนาคาร 29% การโอนเงินออนไลน์ 18% และในมุมของการตลาดออนไลน์ เฟซบุ๊ค ยังคงเป็นสื่อที่เข้าถึงผู้บริโภคไทยมากที่สุด พบว่า 78 % รับรู้ข่าวสารของงานผ่านเฟซบุ๊ค
งาน Thailand Online Mega Sale 2016 นับการเป็นการรวมตัวกันของหลายฝ่ายที่มีวิสัยทัศน์และจุดร่วมเดียวกันคือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้เติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระตุ้นตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศให้คึกคัก ตามนโยบายหลักของชาติ แม้ว่าเม็ดเงิน 355 ล้าน สำหรับงานนี้ จะไม่ใช่ตัวเลขที่สูงมากนัก แต่ถือว่าเป็นตัวเลขเป้าหมายที่เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกฝ่ายทั้งรัฐและเอกชน รวมถึงผู้ประกอบการทั้งรายเก่าและรายใหม่ในครั้งต่อๆ ไป