ปัจจุบันวิกฤตปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประเทศไทยในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมประกอบกับสื่อก็เป็นปัจจัยหนึ่งของปัญหาการสร้างค่านิยมที่ผิดหลายรูปแบบ รวมถึงกระแสวัตถุนิยม จริยธรรมและคุณธรรมของคนไทยเสื่อมลง ซึ่งการบรรเทาปัญหาที่เป็นอยู่คือเริ่มที่คนเป็นหลัก แต่แนวโน้มของปัญหาที่เกิดขึ้นในระยะยาวจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและยั่งยืนของประเทศชาติ
โครงการ Thailand Campaign ภายใต้ชื่อ “มหกรรมอย่าให้ใครว่าไทย” โดย เครือข่ายอนาคตไทย ได้แก่ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สภาหอการค้าไทย และมูลนิธิมั่นพัฒนา ร่วมกับภาคีเครือข่ายกว่า 91 องค์กร ได้เล็งเห็นปัญหาดังกล่าว จึงร่วมมือกันจัดงานดังกล่าวขึ้น มีจุดมุ่งหมายกระตุ้นให้คนในชาติปรับเปลี่ยนทัศนคติ ลดเลิกพฤติกรรมที่ไม่ดี ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่จะทำให้ประเทศพัฒนาต่อไป โดยมุ่งส่งเสริมทัศนคติและพฤติกรรมเชิงบวก ใน 4 มิติ คือ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมโดยใช้กลยุทธ์ “หนามยอกเอาหนามบ่ง” ภายใต้ 4 แกนหลัก คือ อย่าให้ใครว่าไทยฟุ้งเฟ้อ อย่าให้ใครว่าไทยขี้โกง อย่าให้ใครว่าไทยไร้สติ และอย่าให้ใครว่าไทยมักง่าย โดยมีการจัดงานเปิดตัว Thailand Campaign ภายใต้ชื่อ “มหกรรมอย่าให้ใครว่าไทย” เพื่อให้ประชาชนได้เกิดการเรียนรู้ ตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
การจัดงาน Thailand Campaign ภายใต้ชื่อ “มหกรรมอย่าให้ใครว่าไทย” ในครั้งนี้เป็นช่วงสร้างพฤติกรรมไร้หนี้ มีสโลแกนว่า “มีวินัยกับความเพียร ไร้หนี้ มีปัญญา” เพื่อสร้างการเรียนรู้เรื่อง “ความไม่ฟุ้งเฟ้อ” ว่าการจะใช้เงินต้องคิดก่อนใช้ เช่น กู้เงินเพื่อสิ่งจำเป็นได้แต่ไม่ควรเป็นหนี้เกินตัว หรือใครที่มีรายได้แล้วต้องรู้จักออม เหมือนเป็นการกระตุ้นการรับรู้ว่าการใช้เงินให้คุ้มค่าแต่พอดีนั้นสามารถทำได้
นอกจากนี้ ยังชี้ให้เห็นถึงปัญหาด้านการเงินที่เกิดจากการสร้างหนี้จนเกินตัว รวมถึงการส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวกในมิติสังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม โดยภายในงานจะประกอบด้วยการเสวนาและกิจกรรมต่างๆ มุ่งเน้นการเผยแพร่ค่านิยมไม่ฟุ้งเฟ้อและอื่นๆ ตลอดจนการนำเสนอแนวคิดในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รวมถึงการประชาสัมพันธ์ CSR ของภาคีที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของแคมเปญและการดำเนินงานของเครือข่ายอนาคตไทย
การรณรงค์จะประสบความสำเร็จสูงมากหากเราช่วยกันรวมพลัง ซึ่งจะจัดงานเริ่มที่กรุงเทพมหานครเป็นที่แรก และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 จัดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา กิจกรรมหลัก คือเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักศึกษา ครู บุคคลทั่วไป และแหล่งชุมชน สำหรับกิจกรรมบนเวทีมีการเล่นเกมส์แจกของรางวัล เวิร์คช็อปเรียนรู้ ตอน “คิดก่อนกู้ รู้ออมไว้ ใช้แต่พอดี” โดย คุณมงคล สกุลเกียรติวัฒนา พร้อมกลุ่มศิลปิน อาทิ คุณฐกฤต ตวันพงค์ คุณกฤษ อมรชัย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นความตระหนักต่อวิกฤตและกระตุ้นพลังบวกของผู้เข้าร่วมกิจกรรม มินิคอนเสิร์ต จาก กุญแจซอล ป่านทอง บุญทอง Af 6 และ บอย พิษณุ นิ่มสกุล Af 2 นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการ และรถแห่ LED เพื่อประชาสัมพันธ์ด้วย
โดยมีภาคีเครือค่ายทั้งภาครัฐ องค์กรภาคประชาสังคม องค์กรภาคเอกชน และองค์กรสื่อมวลชนเข้าร่วมรณรงค์กว่า 91 องค์กร อาทิ ธนาคารธนาคารไทยพาณิชย์ มูลนิธิสถิรคุณ การประปานครหลวง สำนักป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) สถานีวิทยุจราจรเพื่อสังคม FM 99.5 MHz ฯลฯ
สุดท้ายนี้ เรายังคงเดินหน้าสะท้อนปัญหาสังคมไทย จัดกิจกรรมเชิงรุกร่วมกับทุกภาคีเครือข่าย ซึ่งการระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเข้าถึงประชาชนมากที่สุดเพื่อให้เกิดการปฏิบัติได้จริง และสามารถขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนสังคมไทยให้แข็งแรงยั่งยืนตลอดไป