1

“Growth Factors จากนวัตกรรม Stem Cell” ดีกับผิวเราและใช้งานได้จริงหรือ?

June-2016-1807

ในปัจจุบันนี้ หลายท่านมักเคยได้ยินคำว่าสเต็มเซลล์ (Stem Cell) จากในสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะผ่านสื่อออนไลน์ ผ่านสื่อโฆษณา ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ซึ่งส่วนมากมักบรรยายถึงประโยชน์หรือความเป็นไปได้ในการใช้เซลล์ต้นกำเนิดรักษาโรค การชลอวัย หรือแม้แต่การนำไปใช้ในเรื่องความสวยความงาม และมีการอวดอ้างสรรพคุณที่หลากหลาย แม้แต่โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งเสนอโปรแกรมเก็บเซลล์ต้นกำเนิดจากสายสะดือเด็กหลังคลอดเพื่อนำไปรักษาโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาหลายแสนบาท ในฐานะของผู้รับข้อมูลข่าวสาร เราจะแยกแยะได้อย่างไรว่าข้อมูลใดสามารถเชื่อถือได้ และคุ้มที่จะจ่ายเงินเพื่อรับบริการหรือไม่

ทางมารุเท็น 2016 จึงได้รวบรวมข้อมูลและเรียบเรียงข้อมูลต่างๆ ดังต่อไปนี้เพื่อจะได้เป็นทางเลือกและช่วยให้ท่านตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับท่านได้สะดวกขึ้น กาลเวลาผ่านไปทำให้คนเราต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงและวัยที่ร่วงโรยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ มลภาวะกับสิ่งแวดล้อมที่ก่อให้เกิดสารพิษ และความเครียด ยังเป็นปัจจัยช่วยเร่งให้เกิดความชราของเซลล์ได้อีกด้วย เป็นผลทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า จุดสี สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้เกิดจากปัญหาเซลล์ที่สร้างขึ้นใหม่ไม่ทันกับเซลล์ที่เสื่อมและตายไป เซลล์ที่เกิดขึ้นใหม่ก็ยังไม่เหมือนเซลล์ต้นแบบ จึงเกิดเป็นริ้วรอยและสัญญาณแห่งวัย เทคโนโลยีรวมถึงนวัตกรรมเพื่อความงามในปัจจุบันนี้ส่วนมากจะมีวิธีการที่ให้ผลเพียงชั่วคราว หรือให้มีผลปิดบัง เติมเต็มแต่เพียงแค่ภายนอกได้เท่านั้น โดยเซลล์ที่ผิวหรือที่ผิวหน้าของเรายังคงเป็นเซลล์เก่า การใช้เทคนิคกระตุ้นด้วยเครื่องมือต่างๆ ก็เป็นการกระตุ้นเซลล์ที่อ่อนล้าเท่านั้น รวมถึงการใช้สารฉีดเพื่อช่วยลดริ้วรอยหรือเติมเต็มร่องผิวหนังต่างๆ ก็ไม่มีส่วนช่วยในการปรับปรุงโครงสร้างของผิวให้อ่อนเยาว์ลงแต่อย่างใด

จนมาถึงปัจจุบันนี้ ได้มีนวัตกรรมที่ล้ำหน้า และถือว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการความงาม คือการนำ “สเต็มเซลล์” ซึ่งเป็น “เซลล์ต้นกำเนิด” จากสิ่งมีชีวิตที่สามารถแบ่งตัวสร้างเป็นเซลล์เนื้อเยื่อ อวัยวะต่าง ๆ มาใช้ต่อยอดงานวิจัยในเครื่องสำอางบำรุงผิว

สเต็มเซลล์ หรือ “เซลล์ต้นกำเนิด” คืออะไร
สเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิด คือ เซลล์ชนิดพิเศษพบได้ทุกช่วงเวลาของการเจริญเติบโตในสิ่งมีชีวิต สามารถแบ่งตัวได้อย่างไม่จำกัดและสามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ได้เกือบทุกชนิดในร่างกาย เช่น เซลล์ผิวหนัง สมอง หัวใจ กล้ามเนื้อ และเซลล์เม็ดเลือด
หน้าที่ของสเต็มเซลล์ คือ การสร้างเซลล์ใหม่เพื่อมาทดแทนเซลล์เก่า สเต็มเซลล์สามารถแบ่งตัวให้เป็นทั้งตัวเองและเป็นเซลล์ชนิดอื่นได้ ตัวอย่างเช่นสเต็มแซลล์ในผิวสามารถสร้างเซลล์ผิวใหม่หรือสามารถสร้างเซลล์ผิวชนิดอื่นได้เช่นกัน เช่น แซลล์เมลานิน ที่มีหน้าทื่สร้างสีผิว
หากถามว่า “ทำไมสเต็มเซลล์ถึงสำคัญสำหรับสุขภาพของคนเรา”
เวลาที่เราบาดเจ็บหรือป่วย เซลล์ของเราก็บาดเจ็บหรือตายด้วย เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขื้น สเต็มเซลล์ก็จะเตรียมพร้อมทำหน้าที่ซ่อมแซมบาดแผล และสร้างแซลล์ใหม่เพื่อมาทดแทนแซลล์เก่าที่ตายไปตามเวลา ดังนั้น สเต็มเซลล์ จึงทำหน้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เราแก่ก่อนอายุ มีลักษณะพิเศษที่สำคัญ 3 ประการ
Stem Cell หรือ เซลล์ต้นกำเนิด สามารถแบ่งตัวเองขึ้นใหม่ได้
Stem Cell หรือ เซลล์ต้นกำเนิด เป็นเซลล์ที่ไม่ได้ทำหน้าที่เฉพาะเจาะจง
Stem Cell หรือ เซลล์ต้นกำเนิด สามารถเปลี่ยนตัวเองไปเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่เฉพาะเจาะจงได้

สเต็มเซลล์ มีกี่ชนิด อะไรบ้าง
เซลล์ต้นกำเนิดแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. เซลล์ต้นกำเนิดที่แยกได้จากตัวอ่อน Embryonic Stem Cells และ
2. เซลล์ต้นกำเนิดที่แยกได้จากสิ่งมีชีวิตโตเต็มวัยมาเป็นสเต็มเซลล์ของผู้ใหญ่ Adult Stem Cells หรือจากเนื้อเยื่อ Tissue-Specific Stem Cells

คุณสมบัติของเซลล์ทั้ง 2 ชนิดมีความแตกต่างกัน เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนสามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ได้เกือบทุกชนิดในร่างกาย ยกเว้นเซลล์จากรกหรือสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือทารก (Cord Blood) จัดเป็นเสต็มเซลล์จากเนื่อเยื่อจำเพาะ (Tissue-Specific Stem Cells) ให้กำเนิดเซลล์เม็ดเลือด และเซลล์ของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันบางชนิด แต่ไม่สามารถให้กำเนิดเซลล์ร่างกายได้ทุกชนิดเหมือนสเต็มเซลล์ของตัวอ่อน (Embryonic Stem Cells)

ส่วนเซลล์ต้นกำเนิดจากตัวเต็มวัยสามารถเปลี่ยนไปเป็นเซลล์เฉพาะ ในเนื้อเยื่อนั้นๆ เช่น สเต็มเซลล์ของเลือด สามารถเปลี่ยนเป็นเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือด ปัจจุบันพบในเกือบทุกเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย ตั้งแต่เริ่มเกิดเนื้อเยื่อนั้น ๆ ในครรภ์จนถึงวัยชรา ไม่ว่าจะเป็น ไขกระดูก, กล้ามเนื้อ, สมอง, ผิวหนัง, ลำไส้ ซึ่งสเต็มเซลล์ที่พบในเนื้อเยื่อต่างกัน จะมีคุณสมบัติต่างกันทำให้กำเนิดเซลล์ร่างกายต่างชนิดกัน แต่ไม่สามารถให้กำเนิดเซลล์ร่างกายได้ทุกชนิดเหมือน Embryonic Stem Cell

ผลิตภัณฑ์ต้านริ้วรอย ดูเยาว์วัยในทันใจ Luminesce โดย Jeunesse Global
ปัจจุบันนี้ ในวงการแพทย์ผิวหนังและเวชสำอางค์ พยายามเอาชนะความเสื่อมที่ว่านี้ พวกเขาพากันตั้งศาสตร์นอกกรอบขึ้นมา เรียกชื่อว่า ศาสตร์แห่งการฟื้นฟู ซ่อมแซม และสร้างใหม่ Regenerative หรือ Rejuvenation Serum ซึ่งค้นพบโดย Dr. NATHAN NEWMAN M.D. ในรูปผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาจภายใต้ชื่อสินค้า “LUMINESCE” โดยบริษัท JEUNESSE GLOBAL เป็นผู้ครอบครองเอกสิทธิ์หนึ่งเดียวในโลก สิทธิบัตรเรื่องของ Stem Cell Growth Factors’ Technology ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์ http://www.nathannewmanmd.com/

Luminesce มีสารสกัดเป็นสื่อกลางธรรมชาติที่ส่งผลให้ชั้นผิวสร้างโปรตีนที่สำคัญ คือ คอลลาเจนและอีลาสติน เป็นนวัตกรรมใหม่ของผลิตภัณฑ์ความงามซึ่งได้รับการค้นคว้ามาจากนักศัลยแพทย์ชื่อดังจากเบเวอร์รี่ ฮิลส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา “ดร. นาธาน นิวแมน” หรือ Dr. Nathan Newman ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมความงาม, ผิวหนัง และการศัลยกรรมเลเซอร์ หลังจากผลิตภัณฑ์นี้ได้ออกมาสู่ตลาด ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากดาราฮอลลีวู๊ด และผู้มีชื่อเสียงทั้งหลายในประเทศสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก
คอลลาเจน (Collagen)
คอลลาเจน (Collagen) คือโปรตีนที่มีมากที่สุดในร่างกาย โปรตีนแห่งความงามที่ว่านี้ มีชื่อเรียกว่า คอลลาเจนโปรตีน เป็นโปรตีนสำคัญของผิวหนังประกอบด้วยกรดอะมิโน ทำหน้าที่เป็นกาวเชื่อมเซลล์แต่ล่ะเซลล์เข้าด้วยกัน คอลลาเจนโปรตีนมีปริมาณมากถึง 1 ใน 3 ของโปรตีนในร่างกาย คอลลาเจนใต้ผิวหนังของเรา จะอยู่ในผิวหนังชั้นหนังแท้ มีคุณสมบัติช่วยทำให้ผิวแข็งแรง หนาแน่น และเรียบตึง

อิลาสติน (Elastin)
อิลาสติน (Elastin) จะมีความคล้ายคลึงกับคอลลาเจนมาก แต่สามารถยืดได้มากกว่า จึงเป็นตัวทำให้ผิวหนังของเรามีความยืดหยุ่น และทำให้ผิวไม่มีริ้วรอย อิลาสตินยังเป็นโครงสร้างสำคัญที่ยึดให้เซลล์ผิวเรียงตัวอย่างเหมาะสม อิลาสตินมีกรดอะมิโนที่สำคัญเป็นส่วนประกอบ 2 ตัว คือ เดสโมซีน (Desmosine) และไอโซเดสโมซีน (Isodesmosine) ซึ่งมีหน้าที่หลักคือทำให้ผิวยืดออก และหดกลับที่เดิม เมื่ออายุมากขึ้นอิลาสตินก็จะเสื่อมลง
ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า คอลลาเจน และอีลาสติน ที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้ผิวพรรณเต่งตึง มีความยืดหยุ่น และควบคุมความชุ่มชื้น ร่างกายของคนเรานั้นจะมี คอลลาเจน หนาแน่นในวัยเด็ก และจะค่อยๆ เสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา ข่าวร้ายก็คือคนที่มีอายุ 25ปี ขึ้นไป จะมีปริมาณคอลลาเจนลดลงทุกปี ปีละ 1.5% จึงเห็นได้ว่าเมื่ออายุมากขึ้น เส้นใยคอลลาเจน เหล่านี้จะเสื่อมสลาย ขาดความยืดหยุ่น เปราะหักง่าย
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ก่อให้เกิดการสลายตัวของคอลลาเจน คือ อนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงแดด มลพิษต่างๆ บุหรี่ สารปนเปื้อนในอาหารที่รับประทานเข้าไป และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ส่งผลต่อผิวในชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ ทำให้ชั้นผิวหนังยุบตัวลง เมื่อถูกทำลายให้บางลง และด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้เกิดความไม่สมดุลกันระหว่างการผลิต และการสลายตัวของคอลลาเจนตามธรรมชาติ การเสื่อมสภาพของเส้นใยคอลลาเจนในหนังแท้ชั้นบนๆ จะทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่การเสื่อมสภาพของเส้นใยคอลลาเจนในระดับลึกของชั้นหนังแท้ จะทำให้ผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับตึง
Stem Cell Growth Factors ในผลิตภัณฑ์ลูมิเนส คืออะไร ใช้แล้วเห็นผลจริงเหรอ
คำถาม : เทคโนโลยีนี้เป็นมายังไง?
คำตอบ : เขาดึงเอา Stem Cell ของคนจริงๆ ซึ่งเป็น Stem Cell ของคนโตเต็มวัย โดยเอามาจาก “ชั้นเนื้อเยื่อไขมัน” เพราะว่า Stem Cell ที่ได้มาจากชั้นเนื้อเยื่อไขมัน สามารถช่วยเรื่องของผิวพรรณได้โดยตรง เพราะฉะนั้น เมื่อดึง Stem Cell ออกมาแล้ว เขาก็จะเอาไปขยายพันธุ์ หรือเพาะเลี้ยงในห้องทดลองด้านนอก ทำให้เพิ่มจำนวนขึ้น จาก 1 เป็น 2 และเพิ่มจาก 2 เป็น 4 และเพิ่มจาก 4 เป็น 8 ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ “ทุกครั้งที่ Stem Cell แบ่งตัวขึ้นเรื่อยๆ มันจะคายสารทางชีวะเคมีที่เป็นประโยชน์ออกมาประมาณ 200 กว่าชนิด ซึ่งสิ่งนี้นักวิทยาศาสตร์เรียกกว่า “Growth Factors” https://youtu.be/e5RWZafotSw

คำถาม : Growth Factors เอามาและใช้งานได้อย่างไร?
คำตอบ : เวลาจะเอามาใช้งานจริง เขาก็จะไปทำการปั่นแยกเอา Stem Cell ออกไป ให้เหลือไว้แต่ Growth Factors หรือที่เขามักเรียกกันว่า ”อาหารของ Stem Cell“ ซึ่งเมื่อเรานำมาใช้งาน เช่น ทาลงบนผิวหนัง อาทิเช่น ทาบริเวณท้องลาย หรือ ทาบริเวณหางตา, ใต้ถุงตา, ร่องแก้ม, หน้าผากที่มีริ้วรอย ผลคือจะทำให้ริ้วรอยนั้นตื้นขึ้น กระชับขึ้น นั่นเป็นเพราะ Growth Factors ที่เราทาลงไป มันจะมีสารไปกระตุ้นในระดับชั้น Cell ให้ทำงาน ซึ่งในกรณีนี้สามารถใช้ได้กับผิวเซลล์มนุษย์ทุกคนไป
Dr.Nathan Newman and http://www.nathannewmanmd.com/

Growth Factors คือ อาหารของ Stem Cell ไม่ว่าจะเป็น Cell ของคนๆไหนก็ตาม ก็ใช้ Growth Factors เป็นสารอาหารแบบเดียวกัน และนี่ก็คือที่มาของนวัตกรรม “Stem Cell Growth Factors’ Technology” ที่มีอยู่ใน ชุดเครื่องสำอาง LUMINESCE รวม 4 ชิ้น เป็นสินค้าคุณภาพของ Jeunesse Global (USA) อาทิเช่น
ดู Jeunesse Global Website: http://Obunchob.jeunesseglobal.com/
– LUMINESCE Cellular Rejuvenation Serum (ลูมิเนสส์ เซลลูล่าร์ รีจูวีเนชั่น เซรั่ม)
– LUMINESCE Daily Moisturizing Complex (ลูมิเนสส์ เดลี่ มอยล์เจอรไรซิ่ง คอมเพล็กซ์)
– LUMINESCE Youth Restoring Cleanser (ลูมิเนสส์ ยูธ รีสโตริ่ง ครีนเซอร์)
– LUMINESCE Advanced Night Repair (ลูมิเนสส์ แอดวานซ์ ไนท์ รีแพร์)

“สินค้าลูมิเนส” จัดเซ็ทราคาพิเศษตอนนี้ ที่เว็บไซต์ “มารุเท็น 2016” โปรดคลิ๊กดูที่ลิ้งค์นี้
http://www.maruten2016.com/p_36537_170260_499632_Package-2.htm

ดังที่กล่าวมาข้างต้นและเรียบเรียงมานี้ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์และเซรั่มบำรุงผิวต่างๆ ที่มีส่วนผสมสเต็มเซลล์ ที่วางขายอยู่ในท้องตลาดเชื่อถือได้จริงหรือไม่ ผู้จะซื้อควรมีวินิจฉัยหรืออ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพราะในการโฆษณาชวนเชื่อ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาจอ้างถึง สเต็มเซลล์รกแกะ หรือมีส่วนผสมสเต็มเซลล์จากพืช การพิจารณาว่าสามารถเชื่อถือในสรรพคุณที่กล่าวถึงมานี้ เชื่อได้หรือไม่ให้สังเกตด้วยหลักการง่ายๆ ว่า สารที่ผลิตออกมาจากเซลล์ต้นกำเนิดที่คาดว่าอาจจะมีส่วนช่วยในความสวยความงาม คือ โปรตีนที่หลั่งออกมาจากเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งส่วนมากเป็นสารช่วยการเจริญเติบโต (Growth factor) หรือสารพวกไซโตไคน์ (Cytokine) สารเหล่านี้จะสลายตัวในอุณภูมิห้องได้เร็วมากและสูญเสียสภาพเพียง 1-2 วัน จึงต้องคำนึงถึงกรรมวิธี บุคคลผู้ที่คิดค้นเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับ รวมถึงขั้นตอนการผลิตและวิธีบรรจุภัณฑ์ของบริษัทนั้นๆ
ส่วนสารที่อ้างว่าสกัดมาจากสเต็มเซลล์จากพืชแท้ที่จริงแล้วอาจเป็นสารเคมีที่พืชสร้างขึ้น ซึ่งอาจจะได้ผลในการใช้จริง เช่น มีส่วนประกอบของวิตามินซี หรือกรดผลไม้บางชนิด แต่นั่นไม่ใช่สารจากสเต็มเซลล์แต่อย่างใด ควรเรียกว่าผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพรจึงจะเหมาะสมกว่าหรือไม่
สนใจเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ LUMINESCE หรือต้องการดูผลงานต่างๆ ของ ดร.นาธาน นิวแมน (Dr.Nathan Newman) ได้ที่เว็บไซต์ Maruten 2016 Website: www.maruten2016.com หรือที่เฟสบุ๊ค www.facebook.com/bauzitum