Fado.vn ดันสินค้าเวียดนามสู่ตลาดโลก ตอบรับกระแสความสนใจที่เพิ่มขึ้น
ข้อมูลจากไฟแนนเชียลไทมส์ระบุว่า การส่งออกสินค้าเวียดนามไปยังสหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบ 40% ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2562 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว[1] ด้วยแนวโน้มการเติบโตเช่นนี้ Fado แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนของเวียดนาม จึงได้ทำงานร่วมกับสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม และสมาคมอีคอมเมิร์ซเวียดนาม ตลอดจนเครือข่ายหน่วยงานส่งเสริมการค้าระดับจังหวัดของรัฐบาล เพื่อสนับสนุนโครงการใหม่สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเหล่านี้เป็นที่รู้จักบนเวทีระดับนานาชาติผ่านทางแพลตฟอร์มของ Fado
Fado เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนรายแรกของเวียดนาม ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2557 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างช่องทางช่วยเหลือ SMEs เวียดนามให้เข้าถึงลูกค้าทั่วโลก
“ธุรกิจ SMEs ท้องถิ่นเผชิญกับความท้าทายในการขยายธุรกิจในต่างประเทศผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ ด้วยเหตุนี้ Fado จึงสร้างกระบวนการที่สะดวกสบายขึ้นสำหรับผู้ประกอบการเหล่านี้ ด้วยชุดโซลูชั่นที่ครอบคลุมในการสนับสนุนทุกก้าวย่างของ SMEs เพื่อรับประกันว่าพวกเขาจะได้ประโยชน์สูงสุดจากอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน” Mr. Dat Pham ซีอีโอของ Fado Group กล่าว
“การจับมือเป็นพันธมิตรกับสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม และสมาคมอีคอมเมิร์ซเวียดนาม ตลอดจนเครือข่ายหน่วยงานส่งเสริมการค้าระดับจังหวัดของรัฐบาล จะช่วยให้ Fado สามารถฝึกอบรม ให้คำปรึกษา และมอบแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด รวมถึงระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซของ Fado ให้แก่ SMEs ในการแข่งขันบนเวทีอีคอมเมิร์ซระดับโลก โดยก่อนหน้านี้ไม่มีโครงการใดที่ช่วยเหลือ SMEs เหล่านี้ได้มากขนาดนี้มาก่อน” Mr. Pham กล่าว
ความพยายามของ Fado มีขึ้นท่ามกลางแรงผลักดันจากรัฐบาลเวียดนามในการส่งเสริมธุรกิจ SMEs ท้องถิ่น โดยกระทรวงการวางแผนและการลงทุนของเวียดนามระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนบริษัทในเครือข่ายการผลิตสินค้าและห่วงโซ่คุณค่าระดับภูมิภาคและระดับโลกให้มากเท่ากับประเทศชั้นนำในอาเซียนภายในปี 2573 โดยปัจจุบัน มี SMEs ท้องถิ่นเพียง 21% ที่ได้เข้าร่วมเครือข่ายการผลิตสินค้าและห่วงโซ่คุณค่าระดับภูมิภาคและระดับโลก ตัวเลขนี้น้อยกว่าประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ระดับ 30% และมาเลเซียที่ 46%[2]
นอกเหนือจากการส่งเสริมสินค้าเวียดนามแล้ว Fado ยังเป็นแพลตฟอร์มข้ามพรมแดนครบวงจรสำหรับผู้บริโภคเวียดนามในการซื้อสินค้าหลายพันล้านรายการจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี และญี่ปุ่น โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวมุ่งขจัดความขัดแย้งบนระบบอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนด้วยการอ้างอิงราคาขายปลีกทั้งหมดในที่เดียว (ภาษีนำเข้า ค่าขนส่ง และอัตราแลกเปลี่ยน) อีกทั้งกำหนดเวลาส่งของให้กับนักช็อปตามที่อยู่ในเวียดนามได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
เล็กแต่โตเร็ว และมีศักยภาพไร้ขีดจำกัด ปริมาณการซื้อขายของแพลตฟอร์ม Fado มีมูลค่าแตะ 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2561 สำหรับอนาคต Fado ตั้งเป้าเติบโตถึง 50% เมื่อเทียบรายปี โดยได้แรงหนุนส่วนหนึ่งจากการขยายตัวในระดับภูมิภาคของบริษัท ซึ่งรวมถึงการเข้าสู่ตลาดกัมพูชาเมื่อไม่นานมานี้ ขณะเดียวกัน Fado ยังมองหาโอกาสต่าง ๆ ร่วมกับผู้ที่สนใจจะมาเป็นพันธมิตรในอินโดนีเซีย ไทย และเมียนมาด้วย
[1] https://www.ft.com/content/4bce1f3c-8dda-11e9-a1c1-51bf8f989972
[2] https://vietnamnews.vn/economy/484204/vns-supporting-industries-strive-to-improve.html#ScMWytHzyAdVYMK1.97
รูปภาพ – https://photos.prnasia.com/prnh/20191008/2603838-1
คำบรรยายภาพ: Fado.vn เข้าร่วมเวิร์กช็อปการค้าไร้พรมแดนในจังหวัดทางตอนใต้ของเวียดนาม