บูพา ลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนสูงถึง 23 เปอร์เซ็นต์ นับแต่ปี 2552
• ทุ่มงบลงทุนรวม 50 ล้านปอนด์ ในการสนับสนุนโครงการลดคาร์บอนไดออกไซต์และโครงการพลังงานทดแทนทั่วโลกรวมกว่า 950 โครงการ
• ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนได้สำเร็จตามเป้า ขณะที่ลูกค้าเพิ่มขึ้น 3 เท่าและผลกำไรเพิ่มสูงกว่า 40 เปอร์เซ็นต์
บูพาประกาศความสำเร็จในการช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงกว่าเป้า โดยสามารถลดได้สูงถึง 23 เปอร์เซ็นต์ ณ สิ้นปี พ.ศ. 2558 เปรียบเทียบกับปริมาณก๊าซ ณ เริ่มต้นโครงการเมื่อปี 2552 โครงการนี้ของบูพาผ่านการรับรองโดย Carbon Trust ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐในสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะประเทศอังกฤษ หน่วยงานนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลเรื่องสภาวะโลกร้อนและกระตุ้นเรื่องการลดปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผลการดำเนินงานของบูพาสำเร็จเกินเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ในปี 2553 ว่าจะลดลงให้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์
ขณะเดียวกับที่บูพาประสบความสำเร็จในการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้น บูพายังสามารถสร้างความสำเร็จในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจไปพร้อมกันด้วย โดยจำนวนลูกค้าของบูพาเพิ่มขึ้น 3 เท่า มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ และมีพนักงานบูพาทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีกกว่า 30,000 คน
ในปี 2556 บูพาเป็นบริษัทที่ให้บริการการดูแลสุขภาพบริษัทแรกที่ได้รับประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานระดับโลกจาก Carbon Trust Standard ที่รับรองการดำเนินงานในด้านการกำหนดมาตรการ การจัดการ และการลดการการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อนึ่ง องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ซึ่งให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ได้ประเมินว่า 1 ใน 9 ของการเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรทั่วโลกเกิดจากมลภาวะเป็นพิษทางอากาศ ก๊าซพิษมากมายได้ถูกปลดปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศเนื่องจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ (fossil fuel) ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปลดปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศก็สัมพันธ์กับการเกิดโรคหัวใจ ภาวะสมองขาดเลือด โรคมะเร็ง และโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจชนิดต่างๆ
ต่อมา ในปี 2557 บูพาได้ก่อตั้งกองทุน Energy Saver เพื่อให้เงินสนับสนุนโครงการลดคาร์บอนไดออกไซต์ หรือโลว์คาร์บอน (low-carbon) และโครงการพลังงานทดแทนทั่วโลกรวมกว่า 950 โครงการ บูพาได้ใช้เงินกองทุนดังกล่าวมาติดตั้งเทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารสำนักงานของบูพารวมกว่า 233 จุด ในหลายเมืองทั่วโลก ตั้งแต่กรุงมาดริด ประเทศสเปน ถึงเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษถึงกรุงเดลี ประเทศอินเดีย เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งจัดทำโครงการประหยัดพลังงานอื่นๆ เช่น
•ในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ บูพาจัดทำโครงการประหยัดพลังงานรวม 400 โครงการ ซึ่งบูพากลายเป็นบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียที่ดำเนินโครงการแผงหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์
•ในประเทศอังกฤษ ได้ดำเนินโครงการเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าและความร้อนร่วม (Combined Heat and Power : CHP) จำนวน 89 โครงการ และโครงการที่เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 101 โครงการ
•สำนักงานใหญ่ของบูพาที่กรุงลอนดอนใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเป็นสัดส่วน 100 เปอร์เซ็นต์ และที่อาคารสำนักงานยังติดตั้งแผงโซลาร์ไว้บนหลังคาของสำนักงานอีกด้วย
•ในประเทศสเปน ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเป็นสัดส่วนถึง 99 เปอร์เซ็นต์
•ในประเทศอินเดีย บูพาได้ติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่อาคารสำนักงานของ Max Bupa ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของบูพาในกรุงเดลี ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษสูงสุดแห่งหนึ่งของโลก
•ปัจจุบัน บูพาเป็นบริษัทประกันสุขภาพชั้นนำระดับโลกที่มีค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในสัดส่วน 45 เปอร์เซ็นต์ แทนที่จะใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ อย่างเช่น ถ่านหิน หรือก๊าซธรรมชาติ
มร. สจ๊วต เฟลทเชอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบูพา กล่าวว่า “การลด “คาร์บอนฟุตพริ้นท์”(Carbon Footprint) เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับเราในฐานะที่เป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ องค์การอนามัยโลกประเมินว่ามลภาวะเป็นพิษทางอากาศเป็นสาเหตุให้เกิดการเสียชีวิตก่อนเวลาอันควร สำหรับบูพา แต่ละย่างก้าวที่เราดำเนินงานเพื่อช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คือแนวทางที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของบริษัทที่ต้องการให้ทุกคน “มีชีวิตที่ยืนยาว มีสุขภาพที่ดี และมีความสุขยิ่งขึ้น” การประสบความสำเร็จเหนือเป้าหมายที่กำหนดไว้ในการช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คือความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม และผมรู้สึกภูมิใจในวิถีที่คนบูพาร่วมกันใช้เป็นแนวทางการทำงานซึ่งเรามั่นใจว่าเราดำเนินงานมาถูกทางแล้ว
นี่คือความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของเรา แต่การดำเนินงานเรื่องนี้ของเรายังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เรายังคงสนับสนุนการทำโครงการลดคาร์บอนและโครงการพลังงานทดแทนทั่วโลกอย่างต่อเนื่องผ่านกองทุนของเราที่เรียกว่า Environment Saver Fund หรือ ESF และจะขยายการให้การสนับสนุนให้ครอบคลุมโครงการที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาน้ำและการกำจัดขยะอีกด้วย”
มร. ดาร์เรน เมสเซม กรรมการผู้จัดการของมาตรฐาน Carbon Trust กล่าวว่า “เราทำงานร่วมกับบูพามาตั้งแต่ปี 2555 เพื่อรับรองความสำเร็จในการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก โดยในปัจจุบัน บูพาเป็นผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเพียงบริษัทเดียวที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับโลกจาก Carbon Trust Standard สะท้อนถึงความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปทั่วทั้งองค์กร ทั้งนี้ การดำเนินงานเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะประสบความสำเร็จ เพราะองค์กรต้องมีความเป็นผู้นำและยังต้องปลูกฝังวัฒนธรรมของการเติบโตอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้น ซึ่งความทุ่มเทเหล่านี้ของบูพาเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้บูพาประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย”
บูพาเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่ได้รับการรับรองมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์
บูพายังตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานดังกล่าวเพิ่มเป็นสองเท่าภายในปี 2563