1

เปิดตัวสายรัดข้อมืออัจฉริยะ “Amazfit Band 5” วัดความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดได้-แบตเตอรี่อึด 15 วัน [1] ในราคาเพียง 44.9 ดอลลาร์ [2] พร้อมอัปเดต Amazon Alexa [3] เร็ว ๆ นี้

หลายคนตั้งคำถามว่า สายรัดข้อมือจะอัจฉริยะกว่าที่เป็นอยู่ได้ไหม พบคำตอบได้ใน Amazfit Band 5 สายรัดข้อมือความสามารถรอบด้าน จัดการสุขภาพได้หลากหลายแง่มุม พร้อม Alexa ติดตั้งในตัว

Amazfit Band 5 คือสายรัดข้อมืออัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดของ Huami ที่จะมาเติมเต็มความเป็นเลิศของกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์สวมใส่ Amazfit โดยมาพร้อมฟังก์ชันที่จำเป็นที่สุดสำหรับการออกกำลังกาย ทั้งยังเป็นผู้ช่วยจัดการสุขภาพอย่างละเอียด และสามารถสั่งการฟังก์ชันที่ใช้งานประจำด้วย Alexa ที่ติดตั้งมาในตัว Amazfit Band 5 มาในราคาที่จับต้องได้ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคอายุ 18-50 ปีหรือมากกว่านั้น ยังคงกระฉับกระเฉงและอ่อนเยาว์ในโลกที่ท้าทายในปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและชื่นชอบการเล่นกีฬาเบา ๆ ซึ่งกำลังมองหาอุปกรณ์ราคาย่อมเยา

สายรัดข้อมือที่ช่วยจัดการสุขภาพส่วนบุคคลตามหลักวิทยาศาสตร์ [4]

โดยปกติแล้ว สายรัดข้อมือเป็นอุปกรณ์ราคาไม่แพงเพราะมีเพียงฟังก์ชันพื้นฐาน แต่ Amazfit Band 5 จะทำให้อุปกรณ์ประเภท “สายรัด” อัปเกรดมากขึ้น โดยเฉพาะในการจัดการสุขภาพส่วนบุคคล

– ระบบ BioTracker(TM) 2 อันแม่นยำ แม้ว่า Amazfit ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ แต่ก็มาพร้อมเซ็นเซอร์ออปติคอล PPG รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Huami BioTracker(TM) 2nd ที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก โซนอัตราการเต้นของหัวใจ และแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจสูง นับเป็นไบโอเซ็นเซอร์อเนกประสงค์ที่แม่นยำที่สุดเท่าที่ Huami เคยพัฒนาขึ้น
– ระบบ OxygenBeats(TM) ขั้นสูง ช่วยให้ Amazfit Band 5 สามารถวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดได้ โดยใช้ระบบ AI เก็บข้อมูลออกซิเจนที่ Huami พัฒนาขึ้นเอง เมื่อเทียบกับเครื่องวิเคราะห์ออกซิเจนระดับมืออาชีพจะพบว่า OxygenBeatsTM มีความผิดพลาดเฉลี่ยเพียง 1.67% [5] ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแม่นยำที่เหนือกว่าสายรัดข้อมือส่วนใหญ่ นอกจากนั้นยังมีการนำ OxygenBeatsTM ไปใช้ติดตามการฟื้นตัวของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในจีนด้วย
– ระบบ PAI(TM) อิงหลักวิทยาศาสตร์ คือระบบประเมินกิจกรรมส่วนบุคคลอัจฉริยะที่อ้างอิงงานวิจัย PaiHealth [6] จากนอร์เวย์ โดยระบบจะแปลงข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจในแต่ละวันออกมาเป็นคะแนนส่วนตัว ทำให้ทราบว่าต้องทำกิจกรรมมากเพียงใดเพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง จากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า การรักษาระดับการทำกิจกรรมส่วนบุคคลให้สูงกว่า 100 PAI จะช่วยยืดอายุขัยได้ 5 ปี [7] และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดเฉลี่ย 25% [8] ลองใช้ Amazfit Band 5 แล้วคุณจะเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการออกกำลังหัวใจอย่างสิ้นเชิง
– ระบบตรวจสอบคุณภาพการนอน สามารถวัดระยะเวลานอนทั้งหมด ทั้งช่วงหลับไม่สนิท ช่วงหลับลึก และช่วงหลับที่มีการกลอกตาอย่างรวดเร็ว (REM) เพื่อให้เข้าใจรูปแบบการนอนของคุณ Amazfit Band 5 พร้อมดูแลการนอนของคุณแม้แต่ในช่วงนอนกลางวันหากนานกว่า 20 นาที
– ระบบติดตามช่วงมีประจำเดือน ช่วยให้สุภาพสตรีรู้ช่วงเวลามีประจำเดือนและช่วงเวลาไข่ตก และแจ้งเตือนให้ทราบก่อนจะถึงช่วงเวลาดังกล่าว
– ระบบตรวจสอบความเครียด จะคำนวณระดับความเครียดของคุณจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นของหัวใจ โดยมี 4 ระดับ ได้แก่ ผ่อนคลาย ปกติ ปานกลาง และสูง
– ระบบฝึกหายใจ ช่วยให้คุณรู้จักการหายใจลึก ๆ เพื่อคลายความเครียด

สายรัดข้อมือความสามารถรอบด้าน ตัวช่วยออกกำลังกายและดูแลสุขภาพ

Amazfit Band 5 คือสายรัดข้อมือความสามารถรอบด้านรุ่นใหม่ล่าสุดในตลาด มาพร้อมฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชันเหนือชั้นเมื่อเทียบกับสายรัดข้อมือรุ่นอื่นที่มีราคาใกล้เคียงกัน โดยใช้จอสี AMOLED ขนาด 1.1 นิ้ว ความละเอียด 126×294 พร้อมกระจกนิรภัยเทมเปอร์ 2.5D เคลือบกันรอยนิ้วมือ

Amazfit Band 5 มีน้ำหนักเบาเพียง 12 กรัม (ไม่รวมสาย) นอกจากนี้ เทคโนโลยีประหยัดพลังงานและ Bluetooth 5.0 ยังช่วยให้แบตเตอรี่ขนาด 125 mAh ส่งกำลังให้ Amazfit Band 5 ทำงานได้นานสูงสุด 15 วันในสภาพการใช้งานทั่วไป และสูงสุด 25 วันในโหมดประหยัดพลังงาน ทั้งยังสแตนด์บายได้นานถึง 3 เดือน [9]

Amazfit Band 5 มาพร้อมสาย TPU อ่อนโยนต่อผิว มีให้เลือก 3 สี และรองรับการเล่นกีฬา 11 ชนิด ซึ่งรวมถึงว่ายน้ำ ด้วยระดับการกันน้ำ 5ATM [10] นอกจากนั้นยังมีรูปหน้าปัดนาฬิกาให้เลือกดาวน์โหลดมากกว่า 45 แบบ โดยมี 2 แบบที่สามารถปรับแต่ง widget ได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน และสามารถเพิ่มภาพส่วนตัวเป็นภาพแบคกราวน์ได้ด้วย

Amazfit Band 5 สายรัดข้อมืออัจฉริยะกว่าเดิม

หลายคนตั้งคำถามว่า สายรัดข้อมือจะอัจฉริยะกว่าที่เป็นอยู่ได้ไหม

คำตอบคือได้ เพราะ Amazfit Band 5 ช่วยทำให้ชีวิตง่ายขึ้นและสนุกสนานมากขึ้นด้วย Amazon Alexa [11] โดยคุณสามารถตั้งคำถาม ค้นหาข้อมูล แปลภาษา ลิสต์รายการของที่ต้องซื้อ ตั้งเวลาปลุกและจับเวลา ตั้งค่าเตือนความจำ ตรวจสอบสภาพอากาศ ตรวจข้อมูลแจ้งเตือน สั่งการอุปกรณ์สมาร์ทโฮม ฯลฯ เมื่อคุณพูด Amazfit Band 5 จะตอบสนองคำสั่งของคุณด้วยคำตอบเป็นตัวหนังสือบนหน้าจอ โดยตัวอย่างคำสั่งเสียงมีดังนี้

– “Alexa จับเวลาต้มเส้นพาสต้า”
– “Alexa เพิ่มไข่ในรายการของที่ต้องซื้อ”
– “Alexa เปิดไฟห้องนั่งเล่น”
– “Alexa บารัค โอบามา คือใคร”

Alexa อาศัยระบบคลาวด์ จึงฉลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะอัปเกรดความสามารถใหม่ได้อัตโนมัติ การใช้ Alexa ผ่าน Amazfit Band 5 เป็นเรื่องง่ายและไร้การสัมผัส เพียงแค่คุณถาม Alexa จะตอบทันที

ข้อมูลสำคัญ

– Amazfit Band 5 เริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 21 กันยายน ผ่านทาง Amazon ส่วนตลาดอื่น ๆ จะวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนตุลาคม
– Alexa จะอัปเดตฟรีผ่านระบบ OTA ในตลาดที่รองรับฟังก์ชันดังกล่าว
– ดาวน์โหลดภาพความคมชัดสูงของ Amazfit Band 5 ได้ที่ https://bit.ly/3hbyk6M

เกี่ยวกับ Amazfit

Amazfit คือแบรนด์หนึ่งในเครือบริษัท Huami Technology (NYSE: HMI) ที่ถือกำเนิดขึ้นในเดือนกันยายน 2558 โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์สมาร์ทวอทช์และสายรัดข้อมือ 7 ซีรีส์ ได้แก่ Stratos Series, Basic Series, Flagship Series, Health Series, Fashion Series, Outdoor Series และ X Series นอกจากนั้นยังนำเสนอผลิตภัณฑ์อัจฉริยะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาและสุขภาพ เช่น หูฟังออกกำลังกาย TWS, ลู่วิ่งไฟฟ้าอัจฉริยะ, เครื่องชั่งน้ำหนักวัดไขมันในร่างกาย และอุปกรณ์กีฬา ผลิตภัณฑ์สมาร์ทวอทช์ Amazfit ได้รับการออกแบบอย่างโดดเด่นและพิถีพิถันจนคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย รวมถึงรางวัลจากเยอรมนีอย่าง iF Industrial Design Award และ Red Dot Design Award ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ Amazfit วางจำหน่ายในกว่า 70 ประเทศและดินแดน ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา เยอรมนี และญี่ปุ่น ทั้งนี้ รายงานติดตามตลาดอุปกรณ์สวมใส่ทั่วโลกของ IDC ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 นาฬิกา Amazfit ครองส่วนแบ่งสูงสุดในตลาดนาฬิกาผู้ใหญ่ในอิตาลี สเปน อินเดีย และอีกหลายประเทศ และครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับต้น ๆ ในหลายประเทศ เช่น จีน เยอรมนี ฝรั่งเศส รัสเซีย และบราซิล

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://en.amazfit.com/about.html

บริษัท Huami Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 ในฐานะผู้ให้บริการดูแลสุขภาพผ่านระบบคลาวด์ โดยนำเสนอเทคโนโลยีอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) (stock code: HMI) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561

สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ
press@huami.com

อ้างอิง
[1] ทดสอบแบตเตอรี่ในห้องปฏิบัติการ ผลลัพธ์จริงอาจแตกต่างออกไปตามการใช้งานและเงื่อนไขต่าง ๆ
[2] ราคาขายปลีกอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ
[3] Alexa ใน Amazfit Band 5 จะอัปเดตผ่านระบบ OTA เร็ว ๆ นี้ หาก Alexa มีให้บริการในประเทศนั้น ๆ เมื่อสามารถใช้งาน Alexa ได้แล้ว จะมีการแจ้งเตือนผ่าน Zepp APP (เดิมชื่อ Amazfit APP) และผ่านอุปกรณ์ ส่วนเวลาอัปเดตผ่าน OTA อาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ
[4] ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ ข้อมูลและการวัดผลทั้งหมดไม่ใช่การวินิจฉัยทางการแพทย์หรือการติดตามข้อมูลทางการแพทย์
[5] ข้อมูลจาก AI Innovation Conference Keynote ของ Huami เดือนมิถุนายน 2563
[6] ระบบ PAI อ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์ คณะนักวิจัยรับรองระบบ PAI โดยใช้ข้อมูลจากการศึกษา HUNT Study ซึ่งเป็นหนึ่งในการศึกษาด้านสุขภาพครั้งใหญ่ที่สุด และจัดทำโดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งนอร์เวย์ ซึ่งเคยคว้ารางวัลโนเบลมาแล้ว ระบบ PAI ประกอบด้วยฐานข้อมูลประวัติทางการแพทย์ระดับบุคคลและครอบครัวของบุคคลกว่า 45,000 คน ตลอดระยะเวลากว่า 25 ปี https://www.paihealth.com/science-of-pai/default.htm
[7] การใช้อัลกอริทึม PAI ร่วมกับข้อมูลจากการศึกษา HUNT Study ทำให้คณะนักวิจัยค้นพบว่า เมื่อออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องในระดับ 100 PAI จะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดเฉลี่ย 25% และช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตทั้งในผู้หญิงและผู้ชายทุกช่วงวัย นอกจากนี้ การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องในระดับ 100 PAI ยังมีความสัมพันธ์กับอายุขัยที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5 ปี อ้างอิงจาก https://www.paihealth.com/science-of-pai/default.htm ลิงก์ต้นฉบับ https://cdn.flipsnack.com/widget/v2/widget.html?hash=fd1pf7owi ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.amjmed.com/article/S0002-9343(16)31069-5/abstract
[8] ดูอ้างอิงข้อบน
[9] ทดสอบแบตเตอรี่ในห้องปฏิบัติการ ผลลัพธ์จริงอาจแตกต่างออกไปตามการใช้งานและเงื่อนไขต่าง ๆ
[10] อุปกรณ์นี้ผ่านการทดสอบการกันน้ำระดับ 5ATM ซึ่งจัดทำโดยสถาบันภายนอก
[11] จะใช้งานได้เมื่ออัปเดตผ่านระบบ OTA เริ่มจากสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก ตามด้วยที่อื่นหาก Alexa มีให้บริการในตลาดนั้น ๆ

รูปภาพ – https://photos.prnasia.com/prnh/20200917/2919079-1