กระบี่เนอสเซอรี่ไบลิงกัว…การเรียนรู้เกิดขึ้นในทุกขณะ เติบโตอย่างสมบูรณ์ถึงพร้อมด้วยสติปัญญา
“กระบี่เนอสเซอรี่ไบลิงกัว” โรงเรียนขนาดเล็กกระทัดรัดจากเมืองกระบี่ เมืองจากถิ่นอันดามัน ที่ให้สมญานามตนเองว่า…. “เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก” กระบี่เนอสเซอรี่ไบลิงกัวก่อกำเนิดจากการถักทอเจตนารมณ์ของทางผู้บริหารและทีมที่ปรึกษาทางด้านการศึกษาและการแพทย์ ด้วยหวังจะสร้างคนดีของสังคมกระบี่ที่เป็นคนเก่งในสังคมโลก พร้อมที่จะดูแลชีวิตของตน ตลอดจนร่วมดูแลและนำพาสังคมไทยให้พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างยั่งยืน
นายสมบูรณ์ แต่งเกลี้ยง ผู้บริหารกล่าวว่า พ่อแม่ยุคปัจจุบันกำลังเผชิญกับความขัดแย้งทางความคิด อยากให้ลูกเรียนอย่างมีความสุข แต่ขณะเดียวกันก็ห่วงเรื่องวิชาการจนต้องให้ลูกเรียนพิเศษจนดึกดื่นตลอดทั้ง 7 วัน จนทำให้เด็กเกิดความเหนื่อยล้า ความเครียดและรับบทบาทหนักจนเกินควรกว่าความจำเป็น แต่ประเด็นสำคัญที่พ่อแม่ควรคำนึงถึง คืออะไรบ้างที่ลูกของเราจะต้องมี เพื่อให้เขาสามารถพึ่งตนเองได้ อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ รวมทั้งสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามให้กับโลกได้ “การเติบโตอย่างสมบูรณ์ถึงพร้อมด้วยสติปัญญา” จึงเป็นหลักการที่ทางกระบี่เนอสเซอรี่ไบลิงกัวนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อเสริมสร้างรากฐานชีวิตให้กับเด็กๆ รู้จักพึ่งพาตนเอง สามารถเอาตัวรอดได้เมื่อต้องเผชิญโลกกว้าง ที่พ่อแม่ไม่อาจปกป้องได้ตลอดไป
คุณครูเจียมจิต บ้านเพิง หัวหน้าฝ่ายวิชาการกระบี่เนอสเซอรี่ไบลิงกัว บอกพร้อมรอยยิ้มว่า ด้านการเรียนการสอนเราเน้นให้เด็กๆ เรียนรู้ใน 3 ด้านใหญ่ๆคือ
ทักษะชีวิต (Life Skills) เราสร้างให้เด็กๆมีลักษณะนิสัยที่ดี สามารถจัดการและดูแลชีวิตของตนเองได้ดี และอยู่ร่วมในสังคมที่หลากหลาย แตกต่างทางความคิดได้อย่างดี พร้อมที่จะเผชิญกับความก้าวหน้าและการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคตอย่างมีความสุข
ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills / Knowledge Skills) เด็กๆจะเรียนรู้ด้วยกระบวนการและเทคนิควิธีที่หลากหลาย อาทิ Active Learning การเรียนเชิงรุกที่ผู้เรียนต้องลงมือกระทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อสิ่งที่เรียนรู้ เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ผู้เรียนเป็นผู้ผลิตความรู้ขึ้นเอง Brain-Based Learning การเรียนรู้ที่สอดคล้องกับธรรมชาติการทำงานและการเรียนรู้ของสมอง Multiple Intelligences (MI) การจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมปรีชาชาญและความถนัดของนักเรียน Constructive Learning การเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเองอย่างเป็นลำดับขั้น และ Comprehensive Learning การเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ประมวลความรู้แบบองค์รวม เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และพัฒนาอย่างเต็มตามศักยภาพ เหมาะสมกับช่วงวัย โดยเราจะนำสื่อของมอนเตสซอรี่ Montessori มาใช้ ซึ่งเด็กๆเองจะกลายเป็นผู้มีพื้นฐานความรู้และความสามารถในการเรียนรู้ได้ดี มีศักยภาพในการประยุกต์ใช้และต่อยอดความรู้ได้ตามความสนใจของแต่ละคนได้ดี
ทักษะการทำงาน (Working Skills) เด็กๆจะมีความสามารถในการจัดการงานของตนได้ดี และมีทักษะการทำงานกลุ่มร่วมกันที่ดีซึ่งจำเป็นต่อโอกาสในการประสบความสำเร็จในชีวิต
คุณอ่อนตา แต่งเกลี้ยง ผู้ช่วยผู้บริหารกระบี่เนอสเซอรี่ไบลิงกัวยังเสริมต่ออีกว่า หลักสูตรที่เราใช้คือหลักสูตรบูรณาการซึ่งผสานนวัตกรรมการเรียนรู้ เนื่องด้วยเราตระหนักถึงคุณค่าของศาสตร์สาขาต่างๆ ที่มีความเชื่อมโยงและเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน หลักสูตรการเรียนการสอนของกระบี่เนอสเซอรี่ไบลิงกัวจึงมีลักษณะบูรณาการเนื้อหาสาระและทักษะทางวิชาการอย่างเชื่อมโยง ลึกซึ้ง และครอบคลุม ให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้และทักษะจากศาสตร์สาขาต่างๆ มาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับพัฒนาการและศักยภาพของเด็กในแต่ละคน ครูจึงเป็นผู้ที่ดึงศักยภาพในตัวเด็กแต่ละคนออกมาอย่างมีศิลปะ และถูกวิธี ดังนั้นจึงไม่มีภาพที่เด็กนักเรียน หรือครูคนไหนนั่งท่อง ก- ฮ นั่งท่องสีต่างๆ นั่งท่อง 1-20 หรือคำศัพท์ต่างๆ มีแต่เสียงเจื้อยแจ้ว หัวร่อต่อกระซิกที่ดังแว่วมาจากห้องเรียน หรือบริเวณต่างๆของโรงเรียนในชั่วโมงแห่งการเรียนรู้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของชั้นเรียนที่นี่ นอกจากจะเรียนรู้ธรรมชาติแล้ว ก็มีเรื่องของ co-language คือเรียนภาษาแบบธรรมชาติ ซึ่งเป็นการสร้างให้เด็กรักการอ่านเขียน และสร้างทัศนคติที่ดีต่อภาษาให้เด็ก ให้เห็นว่าภาษามีความสำคัญเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน นำไปใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้นจึงมีแต่นิทานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ไม่มีตำราเรียน ซึ่งเราสร้างสภาพแวดล้อมให้เห็นว่าภาษาเป็นสิ่งมีประโยชน์ หลัก”มอนเตสซอรี่” จะช่วยให้เด็กมีสมาธิขึ้น กลับมาอยู่กับปัจจุบันไม่ตกเป็นเด็กในยุครีโมต แทบแลต ที่สมาธิสั้นขึ้นทุกวันๆ สำหรับตัวแปรสำคัญคือ ครูจะต้องคำนึงว่าเด็กนั้นเรียนรู้จากแบบอย่างของผู้ใหญ่ ไม่ได้รู้จากการบอก การสั่ง ครูเหมือนเป็นแม่แบบ เมื่อครูสงบเด็กก็สงบ เมื่อครูวุ่นวายเด็กก็วุ่นวาย บทบาทของครูก็จะเหมือนแม่เลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน รวมทั้งในแต่ละเทอมก็จะมีการวางแผนการสอนล่วงหน้า จัดกิจกรรมที่ทำซ้ำสม่ำเสมอ เป็นเวลาแน่นอนจนทำให้เกิดวินัยไม่ใช่เกิดจากการบังคับของผู้ใหญ่
ผู้ปกครองที่นำลูกมาเรียนกับเรามีทั้งที่พอใจและยังสงสัย กังวลใจตลอดเวลา กับภาพการเรียนการสอนที่แปลก ที่นี้จะไม่มีภาพที่นักเรียนหอบหิ้วการบ้านไปทำที่บ้าน แถมหากผู้ปกครองดูจากในกล้องวงจรปิดออนไลน์ของทางโรงเรียนจะเห็นเด็กๆเดินทั้งวัน หยิบงานนั้นทำ เปลี่ยนงานนี้ทำ ซึ่งเด็กโรงเรียนทั่วไปจะมีการบ้าน คัดเป็นหน้าๆ ก็ห่วงว่าลูกจะสู้ลูกคนอื่นไม่ได้ เรื่องเหล่านี้เราไม่กังวลแม้แต่น้อย แต่เรามั่นใจว่าเด็กทำได้ เนื่องจากระบบการเรียนการสอนของที่นี่จะทำให้เด็กเรียนรู้อย่างมีความสุข สนุก เห็นภาพชัดเจน แล้วส่งผลให้เด็กสามารถเข้าใจและสามารถจดจำเรื่องที่เรียนได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องอาศัยหลักการท่องจำ