EPG ส่ง แอร์โรเฟลกซ์ เจาะตลาดฉวนกันร้อนใต้หลัง
EPG ดัน แอร์โรเฟลกซ์ ส่ง AERO-ROOF ฉนวนยางกันความร้อนใต้หลังคา บุกตลาดวัสดุก่อสร้างเจาะกลุ่มผู้รับเหมา และสถาปนิกงานโครงการ ชูจุดเด่น ป้องกันความร้อน ไม่ลามไฟ ติดตั้งง่าย ตั้งเป้าขาย 100 ล้านในอีก 2 ปี พร้อมส่งออกผ่านช่องทาง 100 ประเทศทั่วโลก
รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูป เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด บริษัทย่อยของ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายฉนวนยางกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX ได้ส่งผลิตภัณฑ์นวัตกรรม “ฉนวนยางกันความร้อนใต้หลังคา (AERO-ROOF)” ที่ผลิตจากยางสังเคราะห์ชนิดพิเศษ Ethylene Propylene Diene Monomer (EPDM) เคลือบด้วยอลูมิเนียมฟอยล์ โดยนำมาใช้ติดตั้งใต้หลังคา ฝ้า หรือ
ผนัง เพื่อป้องกันความร้อนเข้าสู่ตัวอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และสามารถทำยอดขายได้ 10 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้า 50 ล้านบาท ปี 2561 ตั้งเป้า 100 ล้านบาท และถ้าสามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้จะส่งออกไปจำหน่ายตามช่องทางที่มีอยู่ 100 ประเทศทั่วโลก โดยขณะนี้เริ่มมีการเจรจากับกลุ่มประเภทเพื่อนบ้านบ้างแล้ว
AERO-ROOF ขนาดมาตรฐานหนา 10 มิลล์ จึงมีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย และเป็นวัสดุประเภท Thermosetting จึง ไม่ลามไฟ และไม่หลอมเหลวเมื่อถูกความร้อนหรือเปลวไฟ อีกทั้งปราศจากกลิ่น ไม่เป็นฝุ่นผงหรือแตกหักง่าย จึงช่วยลดปัญหาเรื่องอาการแพ้ในผู้ใช้งานและไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพแก่ผู้อยู่อาศัย เราจึงมั่นใจว่าจะเป็นที่ต้องการของตลาดเมื่อเทียบราคาขายหน้าโรงงาน ซึ่งอยู่ที่ 100 บาท/ตร.ม. มีคุณภาพในการกันความร้อนเทียบกับฉนวนใยแก้วหนา 6 นิ้ว
อีกทั้งปัจจุบันการใช้ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา ยังไม่มากเมื่อเทียบกับปริมาณหลังคาทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 150 ล้านตารางเมตร คิดเป็นมูลค่าของฉนวนเท่ากับ 15,000 ล้านบาท มีหลังคาที่มีการใช้ฉนวนกันความร้อนเพียง 50 ล้านตารางเมตร โดยการทำตลาดจะเริ่มเจาะจากกลุ่มลูกค้าเดิมที่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างและดีไซน์เนอร์
นอกจากนี้ยังมองว่า การที่เวิร์ดแบงก์ทำนายว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตอย่างต่อเนื่องไปอีก 3 ปี นับตั้งแต่ปีนี้ ในขณะที่เศรษฐกิจไทยก็มีแนวโน้มดีขึ้น โดยมีการปรับตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็น 3.5 % ตัวเลขยการส่งออกในช่วงเดือนพฤษภาคม ทีผ่านมาโตถึง 13.5 % การท่องเที่ยวโตขึ้น 10 % ราคาพืชผลทางการเกษตรก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้คนฐานรากมีอำนาจการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมองว่าหลังเดือน 10 ของปีนี้เศรษฐกิจจะดีมากขึ้น เพราะประชาชนจะหวนกลับมาจับจ่ายใช้สอยอีกครั้ง
ในภาพรวมของ บริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด ปีนี้ตั้งเป้าโตไว้ที่ 8 % ในขณะที่ EPG ตั้งเป้าโต 10-12 % โดยได้เตรียมลงทุนเครื่องในจักร Hi-speed อีก 100 ล้านบาทในสหรัฐอเมริกา ส่วน ตลาดในประเทศเน้นขยายฐานลูกค้าประเภทลูกค้าโครงการ โดยจำหน่ายตรงให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ และ ผู้รับเหมาประเภทงานระบบ คาดว่าการสนับสนุนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ของรัฐบาล และการลงทุนของภาคเอกชน จะส่งผลให้ดีต่อกลุ่มธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ของกลุ่มบริษัทได้ในระยะยาว รศ.ดร.เฉลียว กล่าว