1

คอนติเนนทอล ขานรับอียูพัฒนา “ระบบอีคอล”

สหภาพยุโรปประกาศกฎข้อบังคับให้ติดตั้งระบบเตือนภัยฉุกเฉิน (Automatic Emergency Alert System) หรือที่เรียกกันว่า “ ระบบอีคอล (eCall)” ในยานยนต์รุ่นใหม่ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน หรือจากผู้ผลิตค่ายใด โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 เป็นต้นไป โดยอีคอลถือเป็นระบบมาตรฐานที่จะต้องติดตั้งในยานยนต์เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งระบบดังกล่าวก็คือส่วนหนึ่งของระบบเทเลเมติกส์ (Telematics) ที่มีหน้าที่เชื่อมต่อและรับส่งข้อมูลทางไกล ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์บนสมาร์ทโฟนกับแอปพลิเคชัน

คอนติเนนทอล ผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ ได้มีการพัฒนาระบบเทเลเมติกส์มาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2539 และทางบริษัทฯ ก็มีความยินดีและเห็นด้วยกับทางคณะกรรมาธิการยุโรปสำหรับกฎข้อบังคับในการติดตั้งระบบอีคอลในยานยนต์รุ่นใหม่ทุกประเภท

นาย โยฮันน์ เฮเบล หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ Infotainment and Connectivity กล่าวว่า “ระบบอีคอลเป็นเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติที่จะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตบนท้องถนน ซึ่งตอบโจทย์กับวิสัยทัศน์บริษัทฯ คือ “การลดอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์ (Vision Zero)” ซึ่งฟังก์ชันการทำงานของระบบอีคอลจะใช้ระบบเทเลเมติกส์ในการวิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมของผู้ขับขี่ยานยนต์แบบเรียลไทม์ผ่านทางแอปพลิเคชัน รวมถึงการแจ้งเตือนสภาพการจราจรหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะขับขี่ยานยนต์”

โดยประโยชน์ของการติดตั้งระบบอีคอลในยานยนต์นั้น เมื่อผู้ขับขี่ยานยนต์เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนขึ้น ระบบดังกล่าวจะมีการส่งสถานที่เกิดอุบัติเหตุไปยังศูนย์บริการรับเหตุฉุกเฉินที่อยู่ใกล้สถานที่เกิดเหตุมากที่สุด เพื่อติดต่อและประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องในการขอความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที โดยระบบดังกล่าวจะใช้หมายเลขฉุกเฉินของยุโรป คือ “112” เป็นหมายเลขมาตรฐานในการติดต่อขอความช่วยเหลือ นอกจากนี้จากข้อมูลของคณะกรรมาธิการยุโรปพบว่า ระบบอีคอลสามารถลดเวลาในการติดต่อขอความช่วยเหลือแบบฉุกเฉินได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ในเขตพื้นที่เมือง และ 50 เปอร์เซ็นต์ ในเขตพื้นที่นอกเมือง ทำให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้รับการช่วยเหลือได้เร็วขึ้นและทันท่วงที อีกทั้งยังสามารถป้องกันอันตรายและความร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้ด้วยเช่นกัน จากสถิติพบว่าระบบนี้สามารถลดอัตราจำนวนนผู้เสียชีวิตได้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี

ระบบอีคอลจะถูกเปิดใช้งานอัตโนมัติเมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน แต่ผู้ขับขี่ยานยนต์ก็สามารถเปิดใช้ระบบได้ด้วยตนเองเช่นกันในกรณีที่ผู้ขับขี่ยานยนต์พบเจออุบัติเหตุร้ายแรง ตามข้อกำหนดมาตรฐานของยุโรปได้มีการกำหนดข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องในการขอความช่วยเหลือสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น เวลาเกิดเหตุ ประเภทยานยนต์และตำแหน่งที่ตั้ง พฤติกรรมการขับขี่ จำนวนผู้โดยสาร ทิศทางการเดินทาง รวมถึงสถานที่เกิดอุบัติเหตุ เพื่อส่งไปยังศูนย์บริการรับเหตุฉุกเฉิน

ฮาร์ดแวร์ในยานยนต์ที่ใช้สำหรับระบบอีคอลคือ ระบบเทเลเมติกส์ที่ฝังไว้ ซึ่งประกอบไปด้วยโมเด็ม (อุปกรณ์การเชื่อมต่อเครือข่าย) ระบบบอกตำแหน่งบนพื้นผิวโลก (กาลิเลโอ) และระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นสำหรับการเชื่อมต่อยานยนต์ รวมถึงแบตเตอรี่สำรอง นายเฮเบล กล่าวเสริมว่า “อย่างไรก็ตามระบบอีคอลเป็นเพียงหนึ่งในร้อยฟังก์ชันที่สามารถรวมเข้าไว้ในระบบเทเลเมติกส์สำหรับยานยนต์รุ่นใหม่ทุกประเภทได้ ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของการเชื่อมต่อแบบองค์รวม ดังนั้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 เป็นต้นไป ยานยนต์จะเปรียบเสมือนสมาร์ทโฟนเคลื่อนที่ ที่สามารถหลอมรวมระหว่างโทรศัพท์กับโลกดิจิทัลเข้าด้วยกันได้”

คอนติเนนทอล เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับผู้ใช้ยานยนต์ และผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำ ในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้ ผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ระหว่างประเทศ ผู้ผลิตยางคุณภาพ และคู่ค้าทางธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม คอนติเนนทอลนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความปลอดภัยสูง พร้อมความสะดวกสบาย ปรับการใช้งานได้ตามความต้องการ และราคาเหมาะสม คอนติเนนทอลประกอบไปด้วยธุรกิจ 5 กลุ่ม คือ ธุรกิจช่วงล่างและความปลอดภัย ธุรกิจอุปกรณ์ภายในรถยนต์ ธุรกิจระบบขับเคลื่อน ธุรกิจยางรถยนต์ และธุรกิจยางเฉพาะทางอิลาสโทเมอร์ ซึ่งมียอดขายรวม 44 พันล้านยูโรในปี 2560 ปัจจุบัน คอนติเนนทอลมีพนักงานกว่า 238,000 คนใน 61 ประเทศทั่วโลก