สานพลังยุทธศาสตร์ปฏิรูปประเทศไทย…ทะยานสู่ประเทศแนวหน้าของโลกภายในปี 2575
ลิ้งค์ชมวิดิโอ https://www.youtube.com/watch?v=HSLDHV5XQFw
ในงาน”สปช. รายงานประชาชน:เปลี่ยนประเทศไทยกับสปช.” จัดโดยสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ สี่แยกราชประสงค์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดวิสัยทัศน์ยุทธศาสตร์การปฏิรูปประเทศ สรุปผลงานและส่งมอบวาระการปฏิรูป 37 ประเด็น และ 6 วาระพัฒนา แก่รัฐบาลตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) ปี 2557 นั้น คณะกรรมการสังเคราะห์ภาพรวมเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทย ได้ประมวลสรุปข้อเสนอการปฏิรูป 11 ด้าน โดยกำหนดคณะกรรมาธิการ 18 คณะ มีวาระการปฏิรูปและวาระการพัฒนา รวม 43 วาระโดยอุปมาเสมือนเครื่องบินที่จะต้องทะยานไต่ระดับสู่ความสูงใหม่ในระดับแนวหน้าของโลก
ดร.สีลาภรณ์ บัวสาย คณะกรรมาธิการสังเคราะห์ภาพรวมเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า เป้าหมายการปฏิรูปประเทศไทยสู่การเป็นประเทศโลกที่หนึ่งในปีพ.ศ. 2575 คือ ประเทศไทยจะมีระบบการเมืองที่เปิดกว้างไม่ผูกขาด ประชาชนมีส่วนร่วมและประเทศไทยมีผู้นำที่เก่งและดี โดยรายได้ต่อหัวของคนไทย เฉลี่ย 480,000 บาทต่อคนต่อปี มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ 6% ต่อปี โดยเมื่อถึง พ.ศ. 2575 คนไทยมีสุวรรณภูมิเป็นบ้านและอาเซียนเป็นที่ทำงานมีทุนที่มั่นคงทั้งในด้านการเงินการคลัง และเศรษฐกิจฐานราก รวมทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่นมีป่าไม้เพิ่มเป็น 40% ของพื้นที่ มีระบบน้ำเพื่อการเกษตรอย่างทั่วถึงครอบคลุมพื้นที่ 70% ในส่วนของคุณภาพเด็กไทยนั้น หลังจากการปฏิรูปแล้ว การศึกษาจะมีผลสัมฤทธิ์สูงจนเด็กไทยสามารถอยู่ในระดับแนวหน้าของโลกและชั้นนำของเอเซีย
การขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เป้าหมายที่วางไว้นั้น จะต้องมีการปฏิรูปเศรษฐกิจทั้งในระดับภาคการผลิต ได้แก่ ภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาคพลังงาน ภาคผู้ประกอบการ ตลอดจนเศรษฐกิจระดับมหภาค โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ เป็นตัวนำพาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตถึง 6% ต่อปีจนสามารถแข่งขันในตลาดการค้าระดับโลกได้
การปฏิรูประบบการบริหารจัดการภาครัฐ เป็นสิ่งที่จำเป็น ทั้งนี้ เพื่อจัดการคอร์รัปชันและทำให้การบริการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น บุคลากรภาครัฐได้รับการพัฒนา โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี พ.ศ. 2575 ภาครัฐจะก้าวสู่ระบบราชการใสสะอาด มีประสิทธิภาพสูงสามารถสร้างความเติบโตให้แก่ภาคธุรกิจ ทั้งภาคเอกชนและประชาสังคม
ในส่วนของการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม จำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ พร้อมงบประมาณ เชิงพื้นที่ มีการวิจัยและนวัตกรรมแก้ปัญหาเฉพาะพื้นที่ โดยกระจายอำนาจและสร้างความเข้มแข็งภาคพลเมือง มีการจัดการระบบสวัสดิการ ระบบบริการสาธารณสุข ปฏิรูปคุณภาพการศึกษา มีการสร้างงาน พัฒนาอาชีพบนฐานทุนทั้งทางด้านทรัพยากร ทุนทางสังคม และทุนทางวัฒนธรรม
คานงัดสำคัญที่จะขับเคลื่อนการปฏิรูปนี้ได้อย่างมีประสิทธิผล จะต้องตรากฎหมายเพื่อรองรับการปฏิรูป และจัดสรรงบประมาณเพื่อการปฏิรูปนี้ โดยภาคประชาชนจะสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบป้องกันการทุจริต และเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาระดับต่าง ๆ ตลอดจนร่วมกันนำพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
___________________________
ฝ่ายประชาสัมพันธ์/คณะกรรมาธิการวิสามัญประชาสัมพันธ์เพื่อการปฏิรูป สภาปฏิรูปแห่งชาติ
ประภาพรรณ โทร.081-899-3599, กรรญพร 084-667-6911,พันธ์นิฉาย 086-341-6567
E-mail :brainasiapr@hotmail.com