ผ่ากลยุทธ์ขับเคลื่อนคลองท่อม เมืองสปาน้ำพุร้อนแห่งแรกของประเทศไทย
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจับมือหน่วยงานภาครัฐ –ภาคเอกชน-ท้องถิ่น ผลักดันเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสปาน้ำพุร้อน Hot Spring Economy เพื่อสร้างแม่เหล็กทางการท่องเที่ยวใหม่ โดยวางกลยุทธ์ให้อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่เป็นต้นแบบเมืองสปาน้ำพุร้อนแห่งแรกของประเทศไทย
นายอารัญ บุญชัย ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าจังหวัดกระบี่นอกจากจะมีทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลกแล้ว ยังมีน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีคุณสมบัติที่โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำพุร้อนเค็มซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งในโลก จะเป็นแม่เหล็กทางการท่องเที่ยวที่จะสร้างสรรเศรษฐกิจของท้องถิ่นเชื่อมโยงไปยังทุกตำบล โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ร่วมกับสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(ISMED) ทำการวางกลยุทธ์การพัฒนาอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ให้เป็นเมืองสปาต้นแบบ ภายใต้แคมเปญ “คลองท่อม เมืองสปาน้ำพุร้อน 2020” โดยก้าวสู่เป้าหมายใน 3 ปี โดยใช้ BIG 3 เป็นกลไกขับเคลื่อนหลัก ประกอบด้วย น้ำตกร้อน น้ำพุร้อนเค็ม และสระมรกต เป็นแม่ข่ายเชื่อมโยงไปสู่ตำบลต่างๆ เกิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ เชื่อมโยงทั้งทางทะเล ทางน้ำผ่านลำคลองและทางบก ที่จะเต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจให้ท้องถิ่นและผู้ประกอบการSMEs รวมทั้ง การท่องเที่ยวชุมชนวิถีชีวิต” โดยจะกลายเป็น Hot Spring Economy ตอบโจทย์วิถีชีวิตการมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างสุขภาพดี Longevity
ปักหมุด รัฐ- ชุมชน- เอกชนร่วมขับเคลื่อน..ประกาศโรดแมพชู กลยุทธ์การพัฒนาคลองท่อมให้เป็นเมืองสปาครั้งแรก ของประเทศไทย ในการเปิดตัวครั้งนี้ มีเวทีพบปะ กางแผนลงทุนภาครัฐ ชี้เป้าโอกาสใหม่ทางธุรกิจ เสวนากับกูรูการพัฒนาการท่องเที่ยวน้ำพุร้อน เชื่อมโยงสถาบันการเงินกับ ภาคเอกชน รวมทั้งวิสาหกิจชุมชน เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการชู เมืองสปาน้ำพุร้อนไทยต้นแบบของไทย เมื่อ วันที่ 22-23 พฤศจิกายน พ.ศ 2560 ณ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานรัฐและเอกชนต่างๆ มากมายเข้าร่วมงาน ได้แก่ คุณจาดุร อภิชาตบุตร ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย คุณอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คุณกรด โรจนเสถียร รองประธานฝ่ายท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คุณธเนศ วรศรัณย์ หอการค้าไทย คุณปรีดา ตั้งตรงจิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) คุณภูวดิท ปรีชานนท์ เลขาธิการหอการค้าภาคใต้ คุณอภิชัย อรัญญิก ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกระบี่ คุณไพศาล ศรีเทพ นายอำเภอคลองท่อม ผู้แทนองค์การบริหารตำบลทั้ง 7 ตำบล คุณปรีชา พูลโภคผล ประธานสโมสรน้ำพุร้อนไทย คณะทำงานคลองท่อมเมืองสปาน้ำพุร้อนและผู้เกี่ยวข้อง
ดร.ธนันธน์ อภิวันทนาพร ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจต่างประเทศและการตลาด (ISMED) เผยว่า จากภารกิจที่ได้รับมอบหมายจาก กระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬา เราได้ศึกษา วางกลยุทธ์ทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว และวางโมเดลการพัฒนาคลองท่อมเมืองสปาน้ำพุร้อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนของภาครัฐให้เกิดการพัฒนาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน และปัจจัยเอื้อให้เกิดนวัตกรรมการพัฒนาสินค้า-บริการทางการท่องเที่ยว เพื่อเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันของภาคธุรกิจให้เหนือคู่แข่งขันได้ มีกลไกการขับเคลื่อนกลยุทธ์แบบ 3 ประสาน ตั้งแต่ ภาครัฐ ภาคท้องถิ่น และภาคเอกชน
จากการดำเนินโครงการนี้มากว่า 7 เดือน ได้มีการวิเคราะห์ตรวจแร่ธาตุน้ำพุร้อน การวิจัยทางการตลาด การออกแบบภูมิสถาปัตย์ของเมืองคลองท่อมและออกแบบที่อาบน้ำสาธารณะ (Public Bath) ของน้ำตกร้อน การวาง Business Model โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในทุกระดับ ส่งผลให้เกิดเชื่อมั่น และ นำไปสู่การลงทุนสร้างสรรค์พื้นที่ท่องเที่ยวใหม่ New Tourism Space โดยเห็นได้จากสัญญาณการลงทุนของภาคเอกชนรายใหญ่ในท้องถิ่น คาดว่าภายใน 3 ปี จะมีมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ทำให้เกิดเศรษฐกิจขับเคลื่อนในท้องถิ่นและการนำเข้าเงินตราจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
นอกจากนี้แล้ว “โครงการฯยังบูรณการความเชื่อมโยงกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ในด้านการวิจัยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการเชิงสร้างสรรค์ เพื่อสนับสนุนให้เกิด New Production ในการตอบสนอง New Consumption เพื่อกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคโดยพัฒนาสินค้า/บริการเชิงสร้างสรรค์ของท้องถิ่น เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์จากน้ำพุร้อนที่มีแร่ธาตุสูง กลุ่มของฝาก/ของที่ระลึก กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และบริการใหม่ของสปาน้ำพุร้อน เป็นต้น ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนา ยกระดับการท่องเที่ยว กระจายรายได้ไปยังท้องถิ่น” คุณสุทธิวรรณ อมาตยกุล ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสฯ ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยกล่าวเสริม
นายปรีชา พูลโภคผล ประธานสโมสรน้ำพุร้อนไทย ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ภาคเอกชนผนึกำลังและมีความพร้อมสูง โดยต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนนโยบายและการปฏิบัติการระยะต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพราะสโมสรน้ำพุร้อนไทยร่วมจังหวัดกระบี่และจังหวัดระนองได้รุกเปิดตลาดไปยังประเทศญี่ปุ่น จะส่งผลให้เกิดการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว ความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกันอย่างแน่นแฟ้น และจะขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวต่อไป โดย Hot Spring Tourism จะเชื่อมทั้ง Wellness Tourism ต่อยอดไปยัง Medical Tourism ที่ประเทศไทยมีความได้เปรียบเหนือประเทศคู่แข่งได้
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ : สถาบันพัฒนา SMEs (ISMED) โทร 02 564-4000 ต่อ 6203