ยิปรอค ให้การสนับสนุนงานประกาศผลรางวัล BCI Asia Awards 2017 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตนวัตกรรมยิปซัมคุณภาพสูงแบรนด์ “ยิปรอค” และผู้ให้บริการโซลูชั่นส์ระบบผนังและฝ้าเพดานครบวงจรมานานกว่า 45 ปี ร่วมเป็นผู้สนับสนุนการจัดงานประกาศผลรางวัล BCI Asia Awards 2017 โดยนับเป็นการสนับสนุนงานปีที่ 3 ติดต่อกัน งาน BCI Asia Awards ในปีนี้จัดขึ้นที่เซ็นทาราแกรนด์แอนด์บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีนักออกแบบ สถาปนิก ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างชั้นนำ และบุคคลสำคัญเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ภายในงาน ยิปรอคจัดบูธกิจกรรมนำเสนอนวัตกรรมใหม่ล่าสุด โดยมีผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ ยิปรอค ฮาบิโต้ (Gyproc® HabitoTM) แผ่นยิปซัมแผ่นแรกของไทยที่สามารถรับน้ำหนักสิ่งของได้มากเป็นพิเศษถึง 15 กิโลกรัมต่อจุด มาร่วมแสดง อีกทั้งยังนำเสนอรูปแบบการใช้งานผลิตภัณฑ์ยิปซัมคุณภาพสูง ในการก่อสร้างและตกแต่งแบบไร้ข้อจำกัด

BCI Asia Awards คืองานประกาศผลรางวัลด้านสถาปัตยกรรมที่ได้รับการยอมรับสูงสุดในเอเชียและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องขึ้นทุกปี มีวัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของวงการสถาปัตยกรรม การก่อสร้างอาคาร และงานก่อสร้างในภูมิภาคเอเชีย ตลอดจนให้การยกย่องบริษัทสถาปนิก ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และนักพัฒนาผู้วางแผนโครงการที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อแวดวงการออกแบบและการก่อสร้างของเอเชีย โดยในแต่ละปีจะมีการมอบรางวัลให้แก่นักออกแบบและบริษัทผู้ประกอบการจำนวน 10 รายที่มีผลงานโดดเด่นที่สุด

มร. ริชาร์ด จูเชรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ยิปรอคถือเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ยิปซัมและปูนฉาบคุณภาพระดับสูงของเมืองไทย เราเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจนี้ในประเทศไทยมานานกว่า 49 ปีแล้วและในปีหน้าจะครบรอบ 50 ปีของการดำเนินงานของเรา ผลิตภัณฑ์ของยิปรอคยังเป็นที่ยอมรับไปทั่วภูมิภาคและได้รับความเชื่อถือจากหุ้นส่วนธุรกิจและผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน ปัจจุบัน เรามุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ด้านการออกแบบแห่งอนาคต เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีส่วนช่วยเสริมสร้างการพัฒนาอนาคตของเอเชียต่อไป”

“เราขอขอบคุณ BCI Asia Awards ที่ให้เกียรติยิปรอคได้เป็นพันธมิตรการจัดงานอีกครั้งในปีนี้ การเข้าร่วมงานอันทรงเกียรตินี้ทำให้เราสามารถสร้างเครือข่ายธุรกิจกับผู้มีอำนาจตัดสินใจจากบริษัทนักออกแบบและบริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากนานาประเทศมากกว่า 300 ราย ทั้งยังทำให้เราสมารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ล่าสุดของยิปรอคแก่ผู้เข้าร่วมงานได้ ทั้ง ยิปรอค ฮาบิโต้ (Gyproc® HabitoTM), ยิปรอค แอคทีฟ แอร์ (Gyproc® Activ’ Air), ปูนยิปรอค แม็กเนติค (Gyproc® Magnetic Plaster), ยิปรอค กลาสรอค เอช โอเชียน (Gyproc® Glasroc H Ocean), และ ยิปรอค ยิปโทน (Gyproc Gyptone®)” มร. ริชาร์ด จูเชรี กล่าวเสริม

ยิปรอคจัดบูธกิจกรรมภายในงาน BCI Asia Awards 2017 เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์เพื่อการออกแบบและการก่อสร้างแบบบูรณาการใหม่ล่าสุด โดยมีผลิตภัณฑ์เด่นได้แก่ ยิปรอค ฮาบิโต้ (Gyproc® HabitoTM) ผนังยิปซัมบอร์ดที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยยุคใหม่ด้วยความแข็งแกร่งและความสามารถในการรับน้ำหนักได้มากเป็นพิเศษถึง 15 กิโลกรัมต่อจุด มีความแข็งแรงกว่ายิปซัมบอร์ดทั่วไปถึง 5 เท่า, ยิปรอค แอคทีฟ แอร์ (Gyproc® Activ’ Air) นำเสนอนวัตกรรมอากาศสะอาดด้วยแผ่นยิปซัมฟอกอากาศ ช่วยปรับคุณภาพอากาศภายในอาคารโดยการดักจับและเปลี่ยนสารอินทรีย์ไอระเหยให้เป็นสารประกอบเฉื่อยที่ไม่เป็นอันตราย, ปูนยิปรอค แม็กเนติค (Gyproc® Magnetic Plaster) ปูนฉาบตกแต่งภายในสูตรพิเศษที่ทำให้ผนังทั่วไปสามารถยึดเกาะกับแถบแม่เหล็กได้ พร้อมคุณสมบัติการปกปิดรอยแตกร้าวได้เนียนสนิท เหมาะสำหรับใช้ตกแต่งห้องเล่นเด็กและมุมทำงานของโฮมออฟฟิศได้อย่างดีเยี่ยม, ยิปรอค กลาสรอค เอช โอเชียน (Gyproc® Glasroc H Ocean) แผ่นยิปซัมสำหรับพื้นที่เปียก ด้วยคุณสมบัติป้องกันความชื้นและเชื้อรามากกว่าแผ่นยิปซัมทั่วไป และ ยิปรอค ยิปโทน (Gyproc Gyptone®) แผ่นยิปซัมคุณภาพสูงมีประสิทธิภาพในการดูดซับเสียงสะท้อน และปรับปรุงคุณภาพการสื่อสารภายในห้องได้เป็นอย่างดี มาพร้อมดีไซน์สวยงามด้วยการฉลุลายรูปทรงเรขาคณิต สร้างความกลมกลืนเข้ากับแนวความคิดสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว

ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดของยิปรอคผลิตขึ้นภายใต้แนวคิดเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม Gyproc Go Green หรือ Gyproc 3G ในรูปแบบของกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจต่อสุขภาพแบบครบวงจร ซึ่งได้แก่ Green Products คือการผลิตสินค้าด้วยวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถรีไซเคิลได้ และปราศจากสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ, Green Solutions โซลูชั่นส์การก่อสร้างที่ประหยัดพลังงานและปล่อยมลภาวะน้อยที่สุด และ Green Manufacturing กระบวนการผลิตที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าทั้งแก่พนักงานในสายการผลิต ลูกค้า ผู้ติดตั้ง และผู้บริโภคทั่วไป