หัวเว่ยเปิดตัวยุทธศาสตร์ผลิตภัณฑ์อัจฉริยะ Next Gen และผลิตภัณฑ์ +AI ใหม่
อัดฉีดความอัจฉริยะให้ผลิตภัณฑ์และโซลูชัน
ช่วยองค์กรก้าวสู่ความสำเร็จในการทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัล
นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน/ 23 กันยายน 2562 – ที่งาน HUAWEI CONNECT 2019 หัวเว่ยได้เผยกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์อัจฉริยะเจเนอเรชันใหม่ พร้อมผลิตภัณฑ์ +AI ใหม่สำหรับตลาดเอ็นเตอร์ไพรส์ ได้แก่ สถาปัตยกรรม AI 3 เลเยอร์ซึ่งขับเคลื่อนโดยชุดผลิตภัณฑ์ Engine AI Turbo, ระบบควบคุมและจัดการเครือข่ายการขับขี่อัตโนมัติ iMaster NCE, แพลตฟอร์ม AI เครือข่ายอัจฉริยะตัวแรกของอุตสาหกรรม iMaster NAIE, สตอเรจ All-flash อัจฉริยะ OceanStor Dorado รุ่นใหม่ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์ Kunpeng และ Ascend, OptiXtrans DC908 ผลิตภัณฑ์ DCI (Data Center Interconnect) เชิงอัจฉริยะตัวแรกของอุตสาหกรรม และอีกมากมาย
ระดับการเชื่อมต่อที่เพิ่มมากขึ้นและเทคโนโลยีอัจฉริยะที่กำลังพัฒนาเติบโตขึ้น ได้นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่องค์กรทั่วโลก หัวเว่ยได้เพิ่มความสามารถด้าน AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ไอซีทีรุ่นใหม่และมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำนวัตกรรม และช่วยลูกค้ารับมือกับความท้าทายด้านการทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัลรอบใหม่เพื่อความสำเร็จของธุรกิจ
มร. ซุน ฝูโหย่ว รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย กล่าวว่า “กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์เจเนอเรชันใหม่ของหัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรส์ มีชื่อเล่นว่า 123456 ซึ่งหมายความว่า เราหวังที่จะสร้างโลกที่เชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด 1 ใบ เน้นสถานการณ์บริการ 2 อย่าง คือ แคมปัส และดาต้าเซ็นเตอร์ จัดหาชุดผลิตภัณฑ์เครือข่ายอัจฉริยะ OptiX 3 ชุด นำเสนอผลิตภัณฑ์ IP Network Engine อัจฉริยะ 4 ชุด และใช้ประโยชน์จาก 5G, Wi-Fi 6 และ OceanStor Dorado V6 ของหัวเว่ย รวมไปถึงผลิตภัณฑ์และโซลูชันอื่น ๆ ที่หัวเว่ยพัฒนาขึ้น
“นอกจากการเจาะลึกลงในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เจาะจงแล้ว หัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรส์ ยังได้ผสานเทคโนโลยีหลัก ๆ เข้าไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ด้วย ตัวอย่างเช่น เน็ตเวิร์ก IP และเน็ตเวิร์กออปติก, 5G และ Wi-Fi 6, IP และสตอเรจ และเครือข่าย Soft/Hard SDN เรามุ่งเน้นที่จะพัฒนาแคมปัสและดาต้าเซ็นเตอร์ และทำให้นวัตกรรมใหม่ ๆ ของเรามีความอัจฉริยะก้าวล้ำขึ้นไปอีก เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันอัจฉริยะแบบ Next-gen ที่สามารถแข่งขันได้ในอนาคต”
หัวเว่ยเปิดตัวสถาปัตยกรรม AI แบบ 3 เลเยอร์ เพื่อสร้างเครือข่าย IP อัจฉริยะสำหรับยุค AI
ถือเป็นครั้งแรกที่หัวเว่ยได้เปิดตัวสถาปัตยกรรม AI แบบ 3 เลเยอร์ เพื่อสร้างเครือข่าย IP อัจฉริยะ ที่ผสานการเชื่อมต่ออัจฉริยะ การปฎิบัติการและการดูแลรักษาอัจฉริยะ และการเรียนรู้อัจฉริยะสำหรับยุค AI เข้ามาไว้ด้วยกัน สถาปัตยกรรมนี้มีชุดผลิตภัณฑ์ Engine AI Turbo, ระบบควบคุมและจัดการเครือข่ายการขับขี่อัตโนมัติ iMaster NCE และแพลตฟอร์ม AI เน็ตเวิร์ก iMaster NAIE ตัวแรกของอุตสาหกรรม หัวเว่ยได้ผสานความสามารถของ AI เข้าไว้ในหลาย ๆ เลเยอร์ของเน็ตเวิร์ก IP ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับความอัจฉริยะให้แก่เน็ตเวิร์กIP และเร่งการพัฒนาเครือข่ายเพื่อรองรับการขับขี่อัตโนมัติ
มร. เควิน หู ประธานบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์การสื่อสารดาต้าของหัวเว่ย กล่าวว่า “หัวเว่ยจะพัฒนาจุดแข็งของผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นให้เฉียบคมขึ้นเรื่อย ๆ โดยอาศัยโครงสร้างสถาปัตยกรรม AI 3 เลเยอร์ สำหรับเน็ตเวิร์ก IP อัจฉริยะ ที่พัฒนาต่อยอดจากชุดผลิตภัณฑ์ Engine AI Turbo รุ่น iMaster NCE และ iMaster NAIE เรามุ่งมั่นพัฒนาเพื่อให้บริการที่ดีกว่าแก่ลูกค้าและพันธมิตรของเราทั่วโลก และเป็นผู้นำในการพัฒนาเน็ตเวิร์ก IP อัจฉริยะ”
หัวเว่ยเปิดตัวสตอเรจ All-Flash อัจฉริยะ OceanStor Dorado เจเนอเรชันใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Kunpeng และ Ascend
สตอเรจ All-Flash อัจฉริยะ OceanStor Dorado (OceanStor C series) เจเนอเรชันใหม่ของหัวเว่ย เป็นแพลตฟอร์มความเร็วสูงแบบครบวงจร บนโปรเซสเซอร์ AI Kunpeng 920 และ Ascend 310 ทำให้ปริมาณการอ่านและเขียนไฟล์ต่อ 1 วินาที (I/O Operations per second – IOPS) ทำได้สูงถึง 20 ล้านครั้ง และลดความหน่วงเวลาเหลือไม่เกิน 0.1 มิลลิวินาที โครงสร้างสถาปัตยกรรม SmartMatrix ที่มีความน่าเชื่อถือสูงและเชื่อมโยงกันโดยสมบูรณ์ ทำให้ธุรกิจหลักดำเนินการได้อย่างราบรื่นแม้แต่ในช่วงที่คอนโทรลเลอร์มีปัญหา นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติด้านแมชชีนเลิร์นนิ่งของโปรเซสเซอร์ AI Ascend 310 ทำให้อัตราการอ่านแคชดีขึ้นถึง 50% อาศัยการเชื่อมต่อ AI ในคลาวด์ สตอเรจ OceanStor Dorado ช่วยให้การบริหารจัดการทำได้อย่างชาญฉลาดตลอดอายุการใช้งาน ประสบการณ์การใช้งานสตอเรจจึงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นโซลูชันสตอเรจ All-Flash ที่มีความเร็ว เสถียร และอัจฉริยะ พร้อมมีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย เชื่อถือได้ และบริหารจัดการโดยระบบอัตโนมัติ
มร. ปีเตอร์ โจว รองประธาน กลุ่มผลิตภัณฑ์ IT และประธานกลุ่มสตอเรจและ Intelligent Data ของหัวเว่ย กล่าวว่า “ในเศรษฐกิจดิจิทัล การเชื่อมต่อและแอปพลิเคชันจะยิ่งเร่งให้เกิดข้อมูลและการไหลเวียนของข้อมูลมากขึ้น และด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีอันล้ำสมัยอย่างรวดเร็ว อาทิ 5G, AI และอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) จะมีแอปพลิเคชันและดาต้าเกิดขึ้นจำนวนมหาศาล ทำให้ต้องการการประมวลผลดาต้าแบบเรียลไทม์ จึงต้องมีการอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเพื่อตอบรับความต้องการนี้ สตอเรจ OceanStor Dorado โซลูชันใหม่พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีสตอเรจ All-Flash ที่สั่งสมมายาวนาน และตั้งเป้าช่วยให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุดจากดาต้าของตน”
มร. โจว ยังได้ประกาศเปิดตัวโครงการสตอเรจ Flash แบบยูนิเวอร์ซอล ในชื่อ Flash Only Plus ที่ทำให้สตอเรจ All-Flash พร้อมให้บริการในราคาที่เอื้อมถึง ทำให้คนเข้าถึงบริการได้มากขึ้น และใช้งานได้ง่ายขึ้น
หัวเว่ยประกาศกลยุทธ์ Intelligent OptiX Network สำหรับองค์กร พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 ชุดด้วยกัน ได้แก่ OptiXtrans, OptiXaccess และ OptiXstar เพื่อรับมือกับรูปแบบการใช้งานแคมปัส ดาต้าเซ็นเตอร์ และทรานสมิชชัน แบบ All-optical โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมีดังต่อไปนี้
OptiXtrans DC908 ของหัวเว่ย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ DCI อัจฉริยะตัวแรกของอุตสาหกรรม ได้รับการพัฒนาขึ้นมาสำหรับลูกค้าดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์ที่ราบรื่น ผลิตภัณฑ์ตัวนี้สร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรมที่เรียบง่าย และรองรับการจัดหาบริการแบบวันคลิกโดยไม่ต้องการปฏิบัติการแบบมืออาชีพ การติดตั้งใช้งานใช้เวลาไม่ถึง 8 นาที ด้วยประสิทธิภาพของทรานสมิชชัน 48T บนสายไฟเบอร์ออปติกหนึ่งเส้น OptiXtrans สามารถลดจำนวนการเชื่อมต่อสายไฟเบอร์ลงได้ราว 90% ต่อ 1 ไซต์ โดยเครือข่ายจะมาพร้อมชิปและอัลกอริธึม ทำให้สามารถบริหารเครือข่ายได้อย่างชาญฉลาด
OptiXtrans E9600 ของหัวเว่ย อุปกรณ์ทรานสมิชชันแบบ All-optical อัจฉริยะตัวแรกของอุตสาหกรรม ที่พัฒนาขึ้นสำหรับองค์กรโดยเฉพาะ สามารถใช้ได้ในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เช่น พลังงาน ไฟฟ้า การขนส่ง การศึกษา และการเงิน ด้วยความปลอดภัยระดับอุตสาหกรรมทำให้รับประกันได้ถึงความน่าเชื่อถือสูงในการส่งข้อมูลระยะไกล
OptiXaccess และ OptiXstar ของหัวเว่ย เป็นชุดผลิตภัณฑ์เทอร์มินัลและอุปกรณ์เพื่อการเข้าถึงแบบ Optical ที่ออกแบบมาสำหรับองค์กร ที่ต้องการปรับเปลี่ยนเครือข่ายแคมปัสของเดิมให้เป็นไฟเบอร์ออปติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการขององค์กร
มร. ริชาร์ด จิน ประธานบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์ Transmission & Access ของหัวเว่ย กล่าวว่า “การปรับโฉมโครงสร้างเครือข่ายแบบเดิมเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กรต่าง ๆ ที่กำลังทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัล จากข้อได้เปรียบของเทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติก ไม่ว่าจะเป็นแบนด์วิดธ์ที่สูงกว่า การใช้พลังงานต่ำ และความเสถียรในการส่งข้อมูล อุตสาหกรรมจำนวนมากขึ้นเริ่มใช้การเชื่อมต่อแบบออปติกในการผลิตและการดำเนินการเพื่อลดค่าใช้จ่ายการส่งข้อมูลของเครือข่าย เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการ และทำให้ประสบการณ์การดำเนินการธุรกิจดีขึ้น โดยสรุปแล้ว หัวเว่ย ในฐานะที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมออปติก ได้เปิดตัวกลยุทธ์ Intelligent OptiX Network และชุดผลิตภัณฑ์นวัตกรรม OptiX 3 ชุด สำหรับตลาดเอ็นเตอร์ไพรส์ ในการสร้างการเชื่อมต่อแบบออปติกในทุกหนทุกแห่ง ให้เป็นรากฐานแบบออปติกทั้งหมดสำหรับการทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัลขององค์กร”
งาน HUAWEI CONNECT เป็นงานใหญ่ประจำปีระดับโลกของหัวเว่ยสำหรับอุตสาหกรรมไอซีที และปีนี้จัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน 2562 ภายใต้ธีม “Advance Intelligence หัวเว่ยมุ่งหวังที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างและทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมได้ สำหรับลูกค้าและพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อสำรวจโอกาสใหม่ ๆ ให้โลกอัจฉริยะแห่งอนาคต หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://www.huawei.com/en/press-events/events/huaweiconnect2019