KTAM แนะผู้ลงทุนกระจายความเสี่ยง เลือกกองทุน “มั่งมีศรีสุข” รับสถานการณ์ตลาดผันผวน
KTAM แนะนักลงทุนปรับตัวเน้นกระจายความเสี่ยง รับสถานการณ์การลงทุนที่ผันผวน เลือกกองทุน “มั่งมีศรีสุข” ช่วยจัดสรรเงินลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก มั่นใจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์การลงทุน
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์ที่ตลาดหุ้นทั้งของไทยและต่างประเทศ เช่น จีน สหรัฐฯ ยุโรป ลาตินอเมริกา มีความผันผวนจากปัจจัยผลกระทบสงครามการค้า ค่าเงิน น้ำมัน รวมถึงการประท้วงที่เกิดขึ้น KTAM ขอแนะนำรูปแบบการลงทุนของกองทุนรวมแบบ Asset Allocation เนื่องจากจะช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถจัดสรรการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อที่จะทำให้พอร์ตการลงทุนไม่กระจุกตัวอยู่ที่ใดที่หนึ่งมากเกินไป
ภายใต้การดำเนินงานของ KTAM ในปัจจุบัน กองทุนรวม “มั่งมีศรีสุข” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการการลงทุนที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าในวงกว้างเป็นอย่างมาก เพราะเป็นกองทุนที่เน้นการจัดสรรเงินลงทุน (Asset Allocation) กระจายในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก และเป็นการลงทุนแบบ Fund of Funds ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท ซึ่งจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
นอกจากนี้ ยังมีผู้จัดการกองทุนที่คอยติดตามดูวัฏจักรเศรษฐกิจในระยะยาว เพื่อคอยเพิ่มหรือลดน้ำหนักสินทรัพย์ให้สอดคล้องกับภาวะตลาดให้กับลูกค้าซึ่งอาจมีข้อจำกัดไม่มีเวลาลงทุนด้วยตนเอง โดยการกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน อยู่บนหลักการ 5 ขั้นตอน ประกอบด้วย การศึกษาภาพใหญ่ของเศรษฐกิจโลกและนโยบายต่างๆ ที่จะมีผลต่อสินทรัพย์ การประเมินปัจจัยพื้นฐาน การคำนวณ Valuation และความสัมพันธ์ของสินทรัพย์ต่างๆ รวมถึงการติดตามแนวโน้มราคาสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อดูจังหวะที่เหมาะสม
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการตรวจสอบกองทุนปลายทาง โดยเฉพาะกองทุน FIF ถึงการเปลี่ยนแปลง Master Fund และรวบรวมการวิเคราะห์ต่างๆ เพื่อนำมาจัดน้ำหนักการลงทุนให้เหมาะสมมากที่สุด
“การลงทุนในช่วงนี้ต้องเลือกกองทุนที่มั่นคง เชื่อถือได้ มีผลงานเป็นที่ยอมรับ และสามารถกระจายการลงทุนไปทั่วทั้งโลก ซึ่งกองทุน “มั่งมีศรีสุข” เป็นพอร์ตการลงทุนสำเร็จรูป ที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ สร้างโอกาสและเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่หวังได้ผลตอบแทนที่เติบโตในระยะยาว ที่สำคัญยังเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาติดตาม และไม่ต้องการปรับพอร์ตบ่อย ๆ อีกด้วย” นางชวินดา กล่าว
นางชวินดา กล่าวว่า กองทุน “มั่งมีศรีสุข” มี 4 กองทุน แบ่งตามรูปแบบและความต้องการกระจายความเสี่ยงของนักลงทุน ได้แก่
1. กองทุนเปิดกรุงไทยมั่งคั่ง (KTMUNG) เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง เข้าใจและยอมรับในความผันผวนของสินทรัพย์ต่างๆ ในระยะยาวได้ มีสัดส่วนการลงทุนเน้นตราสารทุน 75% ตราสารหนี้สัดส่วน 15% ตราสารทางเลือก 10% ผลการดำเนินงานล่าสุด (YTD) ตั้งแต่ มกราคม-กรกฎาคม 2562 อยู่ที่ 8.94%
2.กองทุนเปิดกรุงไทยมีทรัพย์ (KTMEE) เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ตั้งแต่ปานกลางถึงสูง มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน 50% ตราสารหนี้สัดส่วน 40% ตราสารทางเลือก 10% ผลการดำเนินงานล่าสุด (YTD) ตั้งแต่ มกราคม-กรกฎาคม 2562 อยู่ที่ 6.64%
3.กองทุนเปิดกรงไทยศรีสิริ (KTSRI) เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้มากที่สุด 65% ตราสารทุน 25% ตราสารทางเลือก 10% ผลการดำเนินงานล่าสุด (YTD) ตั้งแต่ มกราคม-กรกฎาคม 2562 อยู่ที่ 4.96%
4.กองทุนเปิดกรุงไทยสุขใจ (KTSUK) เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ ความผันผวนน้อย มีสัดส่วนการลงทุนกับตราสารหนี้มากที่สุด 80% ตราสารทุน 10% และตราสารทางเลือก 10% ผลการดำเนินงานล่าสุด (YTD) ตั้งแต่ มกราคม-กรกฎาคม 2562 อยู่ที่ 3.66%
อย่างไรก็ตามรูปแบบการลงทุนทุกประเภท ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และกองทุนนี้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน โดยสามารถศึกษารายละเอียด ได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร 0-2686-6100 กด 9