1

ซาอุดีอาระเบียรับตำแหน่งประธาน G20 ปี 2563

– ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียรับตำแหน่งประธาน G20 ปี 2563 ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562

– ในฐานะประธาน G20 ซาอุดีอาระเบียจะให้ความสำคัญกับ “การบรรลุโอกาสแห่งศตวรรษที่ 21 เพื่อทุกฝ่าย”

– ซาอุดีอาระเบียชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของญี่ปุ่นในฐานะประธาน G20 ปี 2562 พร้อมเดินหน้าส่งเสริมความพยายามในการสร้างความร่วมมือทั่วโลกต่อไป

ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียรับตำแหน่งประธาน G20 ปี 2563 เมื่อวานนี้ และจะจัดการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่กรุงริยาด ระหว่างวันที่ 21-22 พฤศจิกายน 2563 ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของญี่ปุ่นในฐานะประธาน G20 ปี 2562 และจะเดินหน้าส่งเสริมความพยายามของ G20 ในการสร้างความร่วมมือทั่วโลกต่อไป

ในโอกาสนี้ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน บิน อับดุลลาซิซ อัล ซาอุด มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย และรองนายกรัฐมนตรี ตรัสว่า

“ซาอุดีอาระเบียจะสานต่องานของญี่ปุ่นและจะส่งเสริมการบรรลุฉันทามติในระดับพหุภาคี เราจะทำงานร่วมกับสมาชิก G20 เพื่อปฏิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรมและบรรลุโอกาสต่าง ๆ ที่จะช่วยให้เราสามารถรับมือกับความท้าทายในอนาคต”

มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียตรัสด้วยว่า

“ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเป็นจุดตัดของสามทวีป ได้แก่ เอเชีย แอฟริกา และยุโรป ในฐานะประธาน G20 ซาอุดีอาระเบียจะมีบทบาทสำคัญในการแบ่งปันมุมมองของภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ เราเชื่อว่านี่จะเป็นโอกาสอันดีในการบรรลุฉันทามติในประเด็นต่างๆ ในระดับนานาชาติ และเราพร้อมต้อนรับทั่วโลกสู่ราชอาณาจักรของเรา”

ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียจะเป็นผู้นำ G20 ภายใต้แนวคิด “การบรรลุโอกาสแห่งศตวรรษที่ 21 เพื่อทุกฝ่าย” โดยมีเป้าหมายหลักสามประการ ได้แก่

– การมอบพลังให้ผู้คน ด้วยการสร้างปัจจัยแวดล้อมที่ทุกคน โดยเฉพาะเยาวชนและสตรี สามารถอยู่อาศัย ทำงาน และเจริญรุ่งเรืองได้
– การปกป้องโลก ด้วยการส่งเสริมความพยายามร่วมกันด้านความมั่นคงทางอาหารและน้ำ สภาพภูมิอากาศ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม
– การกำหนดขอบเขตใหม่ ด้วยการใช้กลยุทธ์ที่ชัดเจนในระยะยาวเพื่อแบ่งปันประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ในฐานะประธาน G20 ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียจะสร้างความเชื่อมั่นว่า G20 จะยังคงสะท้อนมุมมองของนานาประเทศอย่างกว้างขวางและครอบคลุม เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียได้เชิญราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน สาธารณรัฐสิงคโปร์ ราชอาณาจักรสเปน และสมาพันธรัฐสวิส เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 นอกจากนั้นยังเชิญองค์กรระดับภูมิภาค ได้แก่ กองทุนการเงินอาหรับ (AMF) และธนาคารเพื่อการพัฒนาอิสลาม (IsDB) รวมถึงสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในฐานะประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN), สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ในฐานะประธานสหภาพแอฟริกา (AU), สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในฐานะประธานคณะมนตรีความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับ (GCC) และสาธารณรัฐเซเนกัล ในฐานะประธานกลุ่มหุ้นส่วนใหม่เพื่อการพัฒนาแอฟริกา (NEPAD)

องค์การระหว่างประเทศมีบทบาทสำคัญในการกำหนดวาระของ G20 มาโดยตลอด สำหรับองค์การระหว่างประเทศที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ในปี 2563 ประกอบด้วย องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO), คณะกรรมการดูแลเสถียรภาพทางการเงิน (FSB), องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO), กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF), องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD), องค์การสหประชาชาติ (UN), ธนาคารโลก (WBG), องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การการค้าโลก (WTO)

ก่อนถึงการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียจะจัดกิจกรรมและการประชุมกว่า 100 รายการ เช่น การประชุมระดับรัฐมนตรี รวมถึงการประชุมของเจ้าหน้าที่และตัวแทนจากภาคประชาสังคม ได้แก่ Business 20, Youth 20, Labour 20, Think 20, Civil 20, Women 20, Science 20 และ Urban 20

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวาระการประชุมและโปรแกรมทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ www.g20.org

โลโก้ – https://mma.prnewswire.com/media/1037650/G20_Saudi_Arabia_2020_Logo.jpg

สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ
อีเมล: G20Media@saudisecretariat.gov.sa
โทร: +966-11-829-6129