งานประชุม East Tech West ครั้งที่ 2 ในเขตหนานซา นครกว่างโจว ปิดฉากพร้อมความสำเร็จ

ผู้ทรงอิทธิพลด้านนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากทั่วโลกมารวมตัวกัน เพื่อแบ่งปันโอกาสจากโครงการเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Greater Bay Area )

ผู้นำอุตสาหกรรมโลกที่ทรงอิทธิพลที่สุดกว่า 300 คนมาประชุมร่วมกันที่งาน East Tech West ซึ่งจัดขึ้นในเขตหนานซา นครกวางตุ้ง ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน งานนี้เป็นงานประชุมระดับโลกที่จัดโดย CNBC เพื่อมุ่งหารือเกี่ยวกับนวัตกรรมและการพัฒนาอุตสาหกรรม 5G และเมืองอัจฉริยะ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การขนส่ง ฟินเทค และเฮลธ์แคร์ ซึ่งบรรดาผู้บริหารและนวัตกรด้านวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีจากบริษัท IBM, NASDAQ, Huawei, JD.com, Ant Financial และอีกหลายบริษัทได้ร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกในการเสวนา การอภิปรายแบบคณะ และเวิร์กชอป ที่จัดขึ้นภายในงานรวมกว่า 35 เวที โดยการแบ่งปันไม่เพียงทำให้ทุกคนสามารถจินตนาการถึงอนาคตและเทคโนโลยีระดับโลกที่จะเกิดขึ้น แต่ยังทำให้หนานซาเป็นที่จับตามองของทั่วโลกด้วย เนื่องจากหนานซาเป็นแหล่งรวมทรัพยากรสำหรับระบบนิเวศนวัตกรรมและการพัฒนาที่มีคุณภาพ

องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ได้เผยแพร่ดัชนีนวัตกรรมโลกประจำปี 2562 ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า จีนอยู่ในอันดับที่ 14 หลังไต่อันดับขึ้นเรื่อย ๆ มาสี่ปี และจากการวิเคราะห์ของ WIPO พบว่า นวัตกรรมก้าวขึ้นมามีอิทธิพลมากขึ้นทั่วโลก และประเทศเศรษฐกิจชั้นนำอย่างเช่น จีน ซึ่งมีอันดับที่สูงขึ้นในดัชนี มีส่วนทำให้เกิดภูมิทัศน์ใหม่ด้านนวัตกรรมโลก แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวก็ตาม

ในฐานะผู้บุกเบิกการเปิดกว้างและนวัตกรรมของจีน นครกว่างโจวกำลังสร้างสภาวะแวดล้อมที่มั่นคงสำหรับแวดวงนวัตกรรม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายปัจจัยนวัตกรรมได้อย่างเสรี และรวบรวมองค์ประกอบด้านเทคโนโลยีไฮเอนด์จากทั่วโลกไว้ด้วยกัน นอกจากนั้น กว่างโจวยังผงาดขึ้นมาเป็นแหล่งสร้างนวัตกรรมระดับชั้นนำแห่งหนึ่งของโลก ด้วยการใช้โอกาสต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างโครงการเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า

นอกจากการประชุมแล้ว ภายในงานยังมีการเปิดพื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น ชิป LED, หุ่นยนต์อัจฉริยะ และสินค้าอื่น ๆ ที่ได้รับการส่งเสริมจากบริษัทไฮเทคที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเขตหนานซา อาทิ APT Electronics, Dorabot และ Bona Robot ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน

“เราได้เห็นทรัพยากรนวัตกรรมมารวมตัวกันเร็วขึ้น โดยแพลตฟอร์มนวัตกรรมวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีชั้นนำ 2 แห่ง ได้แก่ เมืองวิทยาศาสตร์หนานซา และ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง (กว่างโจว) เริ่มก่อสร้างไปเมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา นอกจากนั้น บริษัท AI กว่า 170 แห่ง บริษัทด้านสุขภาพชีวิตกว่า 140 แห่ง และโครงการ NEV โดย Toyota และ Evergrande ก็เริ่มเปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการแล้วในหนานซา ขณะเดียวกัน หนานซายังเป็นที่ตั้งของสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นอย่าง CloudWalk และ pony.ai ด้วย” ไฉ่ เฉาหลิน เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเขตหนานซา กล่าวในพิธีเปิด

ด้วยการเร่งผลักดันความก้าวหน้าในการดึงทรัพยากรด้านนวัตกรรมจากทั่วโลก ส่งผลให้ปัจจุบันหนานซามีคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเกิดใหม่ที่กำลังเติบโต พร้อมปลดปล่อยพลังแห่งนวัตกรรมให้แก่โลกอย่างต่อเนื่อง

โฆษกจากรัฐบาลประชาชนแห่งเขตหนานซาเปิดเผยว่า นอกจากบริษัทนวัตกรรมวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีแล้ว เหล่าแพลตฟอร์มที่สนับสนุนการพัฒนาอย่างมีคุณภาพสำหรับองค์กรธุรกิจต่าง ๆ ก็มีส่วนสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นสำหรับนวัตกรรมและการพัฒนาที่มีการประสานงานกันระหว่างภาคอุตสาหกรรม แวดวงวิชาการและสถาบันวิจัยในหนานซาด้วยเช่นกัน โดยแพลตฟอร์มนวัตกรรมวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีหลัก ๆ อาทิ South Marine Science and Engineering Guangdong Laboratory, National-level Headquarters Base for Combustible Ice Research, IPV6 International Root Server, Guangzhou International Institute of Artificial Intelligence และ iFlytek South China Institute of Artificial Intelligence กำลังวางพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อการพัฒนานวัตกรรมวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีในหนานซา

หนานซามีศักยภาพมหาศาลที่จะเติบโต และมีสถานะที่สำคัญในโครงการ Greater Bay Area เนื่องจากตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ได้เปรียบ” แม็กซ์ ราเวน รองประธานอาวุโสของ CNBC Catalyst กล่าว โดยหนึ่งวันก่อนที่งาน East Tech West ปี 2562 จะเปิดฉากขึ้นนั้น ท่าเรือหลักของบริษัท Nansha International Cruise ได้เริ่มเปิดให้บริการแล้ว จึงกล่าวได้ว่า หนานซาเป็นศูนย์กลางของระบบขนส่งทางทะเล-บก-อากาศ

ด้วยการผสานทรัพยากรนวัตกรรมกับความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง สภาพแวดล้อมสำหรับการทำธุรกิจและการส่งเสริมนวัตกรรมในหนานซาจึงดีขึ้น โดยแพลตฟอร์ม AI แห่งใหม่ที่เปิดตัวในหนานซาเมื่อไม่นานมานี้ มีบริการสแกนใบหน้าในการให้บริการต่าง ๆ ของรัฐบาล การขนส่ง การเดินทางท่องเที่ยว การอุปโภคบริโภค และการศึกษา นอกจากนี้ หลังจากบุกเบิกการปฏิรูปการจดทะเบียนธุรกิจและระบบยืนยัน ส่งผลให้ปัจจุบัน การจดทะเบียนธุรกิจในหนานซานั้นเสร็จสมบูรณ์ได้โดยใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น ซึ่งเร็วกว่านิวซีแลนด์และอีกหลายประเทศที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในด้านนี้

นวัตกรรมมีบทบาทพื้นฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับการพัฒนาหนานซาในช่วงเวลาที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคตด้วย และจากการจัดอันดับโดยหน่วยงานอิสระ พบว่า หนานซาจะติด 25 อันดับแรกของโลกในปีนี้ ในแง่ของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ

การสร้างเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊ากำลังก้าวหน้าอย่างเต็มที่ในขณะนี้ โดยหนานซา ในฐานะเขตใหม่ระดับรัฐและเขตการค้าเสรีนำร่อง จึงมีภารกิจในการพัฒนาเขตสาธิตความร่วมมือแบบครบวงจรระหว่างกวางตุ้ง ฮ่องกง และมาเก๊า อันจะนำมาซึ่งโอกาสในการพัฒนาต่าง ๆ มากมาย

จากการเปิดเผยของเคซี ซัลลิแวน ประธาน CNBC International งานในปีนี้นอกจากจะสานต่อธรรมเนียมในการพูดคุยกันเรื่องฟินเทค, AI, 5G และเมืองอัจฉริยะแล้ว ยังให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการพัฒนาเขตอ่าว Greater Bay Area ด้วย และเขาหวังว่า บริษัทระดับโลกจำนวนมากขึ้นจะสามารถแบ่งปันโอกาสในการพัฒนาร่วมกันได้

ที่มา: รัฐบาลประชาชนเขตหนานซา

AsiaNet 81807