คุณจะเลือกทำงานแบบไหน Work Hard หรือ Work Smart
คุณจะเลือกทำงานแบบไหน Work Hard หรือ Work Smart
บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด
ปัจจุบันหนุ่มสาวออฟฟิศนิยมทำงานแบบ Work Smart เพราะช่วยให้คนทำงานมีความคิดสร้างสรรค์ไม่เคร่งเครียดกับงานมากเกินไป ในขณะเดียวกันก็มีบางส่วนมองว่า การทำงานแบบ Work Hard คือความตั้งใจทุ่มเทให้งาน ทำให้งานที่ออกมามีประสิทธิภาพ ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณอยากรู้ไหมว่าคนทำงานส่วนใหญ่ควรจะทำงานแบบไหนถึงจะก้าวไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงาน วันนี้ jobsDB.com มีคำตอบ
เช็คลิสต์คุณทำงานแบบ Work Hard หรือเปล่า
• มาทำงานเช้าตรู่และมักจะกลับบ้านดึก ๆ หรืออยู่เป็นคนสุดท้ายของออฟฟิศ
ในขณะที่คนทำงานคนอื่นๆ ทยอยกันกลับบ้าน แต่คนทำงานแบบ Work Hard จะยังคงนั่งปั่นงานต่อไป เพราะคนทำงานประเภทนี้จะมีงานเยอะอยู่ตลอดเวลา ทำงานชิ้นหนึ่งเสร็จ ก็จะมีงานชิ้นอื่นๆ ต่อคิวให้ทำอีกหลายต่อหลายชิ้น จนทำให้คนทำงานแบบ Work Hard ต้องอยู่ทำงานต่อที่ออฟฟิศจนดึก หรือ ประเภทมาเช้ากลับดึก
• ชอบเอางานกลับไปทำต่อที่บ้านอย่างวันเสาร์ – อาทิตย์
ถึงแม้จะอยู่ทำงานที่ออฟฟิศจนดึก แต่งานก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จ คนทำงานแบบ Work Hard จึงต้องหอบงานกลับไปทำต่อที่บ้านด้วย ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางคืนหลังจากที่กลับมาจากออฟฟิศแล้ว หรือแม่แต่วันหยุดสุดสัปดาห์อย่างวันเสาร์-อาทิตย์ คนทำงานแบบ Work Hard ก็ยังคงเคลียร์งานต่อไปอย่างขะมักเขม้น
• ให้ความสำคัญกับงานเหนือสิ่งอื่นใด
การทำงานนี่แหละใช่ที่สุด สำหรับคนทำงานแบบ Work Hard ไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่างานแล้วอีกแล้ว ใครจะไปไหน ทำอะไรก็ตาม แต่คนทำงานประเภทนี้ทำงานดีกว่า ไม่ค่อยให้เวลากับ แฟน ครอบครัว หรือคนรอบตัว
• ตั้งใจ ใส่ใจ ทุ่มเทแรงกายอย่างเต็มที่เพื่อให้งานออกมาสำเร็จตามเป้าหมาย
คนทำงานแบบ Work Hard จะทุ่มเทกับการทำงานอย่างเต็มที่ ถ้างานยังไม่สำเร็จตามเป้าหมาย ก็จะยังคงทำงานต่อไป เพื่อให้งานลุล่วงไปได้
ผลจากการทำงานแบบ Work Hard
• งานสำเร็จตามเป้าหมาย – เมื่อคุณทำงานอย่าง Work Hard แล้ว งานของคุณสำเร็จตามเป้าหมายแน่นอน
• ได้รับคำชื่นชมจากหัวหน้างาน – เมื่อผลงานสำเร็จ หัวหน้างานเห็นผลงานของคุณเป็นที่น่าพอใจ คุณก็จะได้รับคำชมจากหัวหน้างาน
• ได้รับการประเมินผลงานเป็นที่น่าพอใจ – เมื่อผลงานที่คุณทำด้วยความทุ่มเทอย่างเต็มที่ สำเร็จตามเป้าหมาย หรือเกินเป้ามายที่วางไว้ การประเมินผลงานก็จะเป็นที่น่าพอใจตามไปด้วย
• ได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้างาน – คุณจะได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้างาน และคุณอาจได้รับมอบหมายงานที่ท้าทาย และสนุกกว่าเดิม
• ไม่มีเวลาพักผ่อน เพราะเวลาทั้งหมดทุ่มเทให้กับการทำงาน – คนทำงานแบบ Work Hard ทุ่มเทกับการทำงานอย่างเต็มที่ จึงไม่ค่อยมีเวลาให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ถ้าหาเวลาพักผ่อนได้ไม่ว่าจะเป็นพักผ่อนทางกาย หรือพักผ่อนทางใจก็ควรหาเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อนบ้าง
• สุขภาพเสื่อมโทรมจากการนอนน้อย นอนดึก และทานอาหารไม่เป็นเวลา – เมื่อทำงานแบบ Work Hard ไปเรื่อยๆ สุขภาพจะโทรมจากการนอนน้อย นอนดึก และทานอาหารไม่เป็นเวลา เพื่อสุขภาพที่ดีสำหรับคนทำงาน ควรทานอาหาร พักผ่อนให้เป็นเพียงพอ และเป็นเวลา เพื่อสุขภาพที่ดี และสามารถทำงานที่คุณรักได้อย่างมีความสุข
• ไม่มีเวลาเหลือสำหรับการดูแลตัวเอง ครอบครัว และคนรอบข้าง – คนทำงานแบบ Work Hard เห็นว่างานสำคัญที่สุด เวลาทั้งหมดจึงทุ่มให้กับการทำงาน ไม่มีเวลาสำหรับการดูแลตัวเอง ครอบครัว และคนรอบข้าง ลองหาเวลาว่างในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์เพื่อดูแลสุขภาพตัวคุณเอง หรือพาคนในครอบครัวไปรับประทานอาหารร่วมกัน อย่างน้อยก็ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพลังในการทำงานให้กับตัวคุณเองได้เป็นอย่างดี
แล้วแบบไหนถึงจะเรียกว่าทำงานแบบ Work Smart
• เข้างาน เลิกงานตามเวลาออฟฟิศ
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน คนทำงานแบบ Work Smart จะเก็บของกลับบ้านทันที แต่อย่าเพิ่งมองว่าคนประเภทนี้ไม่ใส่ใจการทำงาน แต่พวกเขารู้จักจัดสรร บริหารเวลาระหว่างเวลาการทำงาน และเวลาส่วนตัวได้อย่างสมดุล
• วิเคราะห์ จัดเรียงตามลำดับความสำคัญของงาน และวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบ
คนทำงานแบบ Work Smart มีความสามารถในการจัดสมดุลชีวิตกับงานของตัวเองได้ เนื่องจากพวกเขามีการวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบ เมื่อได้รับมอบหมายงานมาก็จะนำมาวิเคราะห์ จัดเรียงลำดับความสำคัญของงาน กำหนด Timeline และ Deadline เพื่อให้ได้ทราบว่างานอะไรที่ต้องทำก่อนหรือทำหลัง
• รู้จักบริหารจัดการงานต่าง ๆ ได้อย่างมีระเบียบ
เมื่อมีการวางแผนการทำงานแล้ว คนทำงานแบบ Work Smart ก็จะสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายมาได้อย่างเป็นระเบียบ ตามขั้นตอน งานที่สำเร็จออกมาก็จะเป็นผลงานที่สมบูรณ์
• ในเวลาทำงานจะเต็มที่กับงานอย่างมาก
ในเวลางานคนทำงานแบบ Work Smart จะเต็มที่กับการทำงาน เพื่อให้งานแต่ละชิ้นสำเร็จตาม Timeline และ Deadline ที่ได้กำหนดไว้ และถ้าหากงานเสร็จก่อนกำหนด คนทำงานพวกนี้ก็ยังสามารถกลับมาตรวจทานงานได้อีกด้วย
ข้อดีของการทำงานแบบ Work Smart
• งานสำเร็จตามเป้าหมาย – ผลจากการที่คุณทำงานแบบ Work Smart งานที่ออกมาก็จะสำเร็จตามเป้าหมาย
• ได้คำชมจากหัวหน้างาน – คุณจะได้รับคำชมจากหัวหน้างาน เพราะงานที่คุณทำนั้นออกมาสมบูรณ์เป็นระบบ ระเบียบ
• ได้รับการประเมินผลงานเป็นที่น่าพอใจ – เพราะคุณทำงานอย่างเป็นระบบ ระเบียบ และผลงานออกมาได้เป็นที่น่าพอใจ เมื่อได้รับการประเมินผลงานก็เป็นที่น่าพอใจด้วยเช่นกัน
• ได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้า – การทำอย่างเป็นระเบียบ และมีการวางแผนงานอย่างมีระบบ คุณจึงได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้า และคุณอาจได้รับมอบหมายงานที่ซับซ้อน และท้าทายมากกว่าเดิมจากหัวหน้างานของคุณ
• มีเวลาว่างเหลือเฟือสำหรับไปพักผ่อนหรือไปหากิจกรรมพัฒนาตนเองด้านอื่นๆ – มีเวลาว่างเหลือเฟือสำหรับไปพักผ่อนหรือไปหากิจกรรมพัฒนาตนเองด้านอื่น ๆ
• มีวิธีจัดการกับความเครียดได้ดี ไม่เครียดสะสม เพราะเมื่อเลิกงานก็จะไม่เอาเรื่องงานกลับมาคิด
• มีเวลาออกกำลังกาย และทานอาหารตรงตามเวลา
• บริหารงานเป็น ชีวิตดี มีความสุข
• รู้จักวิเคราะห์ปัญหา สามารถบริหารและจัดการปัญหาได้ดี
•
มาถึงตรงนี้เราจะเห็นได้ว่าการทำงานทั้งแบบ Work Hard และ Work Smart ต่างก็มีข้อดีด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้นหากต้องการทราบว่าแบบไหนที่เหมาะกับตัวคุณ ก็ควรเช็คตัวคุณเองก่อนว่ามีไลฟ์สไตล์แบบไหน และถ้าให้ดีก็ควรนำจุดเด่นของทั้งสองแบบมาผสมผสานกันโดยทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ เน้นการจัดสรรงานให้เป็นระบบ คิดวิเคราะห์ก่อนลงมือทำ โดยไม่ลืมที่จะใส่ใจสุขภาพของคุณด้วยน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
เกี่ยวกับ จ๊อบส์ดีบี (www.jobsDB.com)
จ๊อบส์ดีบี เชื่อว่าในโลกที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน มีโอกาสและความเป็นไปได้อยู่มากมาย: การเริ่มต้นใหม่ อาชีพใหม่ การต้อนรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของอีกหลายสิ่งที่เราได้ช่วยผู้คนค้นหา
ในฐานะผู้นำด้านเว็บไซต์หางาน ที่มีตำแหน่งงานสำคัญในประเทศฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย เราเป็นเว็บไซต์ในดวงใจของผู้หางานในเอเชีย ด้วยทีมงานกว่า 1,000 คนที่มีความสามารถ และข้อมูลเชิงลึกที่เรามี ตลอดจนเทคโนโลยีของเรา จะช่วยให้ผู้หางานพบกับโอกาสที่ดีที่สุดซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ประกอบการ
เราสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา ล่าสุดเราได้เปิดตัวฟังก์ชั่นการค้นหาด้วยเงิน เดือนที่ให้ผู้หางานค้นหางานที่ตรงกับเงินช่วงเงินเดือนที่คาดหวังได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้หางานเตรียมความพร้อมในการต่อรองเงินเดือนที่ต้องการได้ในระหว่างการสัมภาษณ์งานเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนตามที่ต้องการ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะช่วยประหยัดเวลาให้กับทั้งผู้ประกอบการและผู้หางาน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
สุชาย เฉลิมธนศักดิ์/สุมณี อินรักษา
โทรศัพท์: 02 971 3711
อีเมลล์: suchai@pc-a.co.th , sumanee@pc-a.co.th