ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่มีต่อเยาวชนราชอาณาจักรกัมพูชา และทรงให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (STC) ได้ถวายงานฯ ตามในโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการให้ทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี 4 ปี จำนวน 10 ทุนเป็นรุ่นที่ 2
“วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (STC) ก่อตั้งมาเมื่อปี 2549 จนวันนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 12 ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่มีต่อเยาวชนราชอาณาจักรกัมพูชา และทรงมุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษา ในโอกาสนี้ STC ถวายทุนการศึกษาจำนวน 10 ทุนให้กับโครงการพระราชทานฯ เป็นรุ่นที่ 2 เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษากัมพูชาได้เข้ามาศึกษาในระดับปริญญาตรี และศึกษาวัฒนธรรมไทย ภาษาไทย วิทยาลัยฯ พร้อมที่จะดูแลนักศึกษากัมพูชาเหมือนดั่งลูกหลานของเรา” อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช อธิการบดีวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (STC) กล่าวถึงความพร้อมในการดูแลนักศึกษากัมพูชาโครงการพระราชทานฯ
“ผมมั่นใจว่าองค์ความรู้ที่ทางคณาจารย์เราถ่ายทอดให้กับนักศึกษากัมพูชา เขาสามารถนำกลับไปพัฒนาประเทศของเขาได้ การให้ทุนการศึกษากับนักศึกษาต่างชาติ STC ทำมาหลายปีแล้ว ที่ผ่านมาเรามีให้ทุนกับนักศึกษาลาว พม่า ฯลฯ เพราะนโยบายของเราจะเน้นการเข้าไปพัฒนาการศึกษากับกลุ่ม CLMV” อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช กล่าว
โดยนักศึกษากัมพูชาที่ได้รับทุนจำนวน 10 ทุน จะเข้าศึกษาในคณะบัญชี สาขาบัญชี จำนวน 2 ทุน คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาการจัดการงานบริการและการท่องเที่ยว (ภาคอินเตอร์) จำนวน 2 ทุน คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ (ภาคอินเตอร์) จำนวน 2 ทุน คณะเทคโนโลยี สาขาวิชาวิศวกรรมพลังงาน จำนวน 3 ทุน และสาขาวิชาการซ่อมบำรุงรักษาอากาศยาน จำนวน 1 ทุน สำหรับการเตรียมความพร้อมเรื่องการเรียนการสอนของอาจารย์ วิทยาลัยฯ มีความพร้อมในการจัดการเรียนการสอนให้กับนักศึกษากัมพูชาผ่านการเรียนสอนเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาไทยในบางวิชา
สำหรับ Mr. Hocun Panhapich นักศึกษาทุนจากโครงการพระราชทานฯ รุ่นที่ 2 กล่าวว่า “ผมจบการศึกษาจาก Phsar Derm Tkov High School เมือง Phnom Penh ประเทศกัมพูชา ผมรู้จักกับโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาจากเพื่อนที่ได้รับทุนพระราชทานฯ เช่นกัน ที่ผมเลือกศึกษาต่อสาขาวิชาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ เพราะมีเป้าหมายที่อยากจะมีธุรกิจเป็นของตนเองตั้งแต่เด็ก และอยากจะนำความรู้ที่ได้กลับไปพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ผมเชื่อว่าการได้เข้าศึกษาต่อที่ STC จะทำให้ผมมีความรู้ด้านธุรกิจมากขึ้น เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีธุรกิจหลากหลาย มีความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างดี หลังจากจบการศึกษาแล้วผมจะหางานทำในประเทศไทยก่อนเพื่อหาประสบการณ์และนำความรู้กลับไปวางแผนสร้างธุรกิจต่อไป”
ด้าน Miss Samonn Ussah นักศึกษาทุนจากโครงการพระราชทานฯ รุ่นที่ 2 กล่าวว่า “ดิฉันจบจาก Hope Battambang School เมือง Battambang ประเทศกัมพูชา ดิฉันได้รู้จักกับโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาจากการออกบูธของวิทยาลัยฯ ทำให้ได้เจอพี่ๆ โครงการทุนพระราชทานฯ รุ่นที่ 1 ดิฉันเลือกเรียนสาขาวิชาการจัดการงานบริการและการท่องเที่ยว เพราะเป็นคนชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และอยากได้เห็นสิ่งใหม่ๆ การมาเรียนที่ STC ทำให้ดิฉันได้พัฒนาทางด้านภาษาอังกฤษ และภาษาไทย หลังจากจบการศึกษาจะนำความรู้ที่ได้จากการเรียนไปทำงานเกี่ยวกับท่องเที่ยวในประเทศ หรืองานด้านโรงแรม”
ทั้งสองคนยังได้พูดถึงการเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ว่า “เป็นครั้งแรกที่ผมได้การเดินทางมาประเทศไทย คนไทยมีความเป็นมิตรกับชาวต่างชาติและใจดีมาก วัฒนธรรมของเราก็ใกล้เคียงกัน ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการพัฒนาในด้านต่างๆ ที่ดีมาก เชื่อว่าการมาประเทศไทยครั้งนี้ผมจะได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากประเทศไทยกลับไป สำหรับสถานที่แรกที่ผมอยากไปคือพระบรมมหาราชวัง ผมอยากเห็นศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทย” Mr. Hocun Panhapich เล่าถึงความประทับใจที่ได้มาเมืองไทยครั้งแรก ส่วน Miss Samonn Ussah กล่าวว่า การเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเธอ ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่าประเทศไทยหรือกรุงเทพฯ มีอะไรที่น่าท่องเที่ยว คงจะค่อยๆ ศึกษาประเทศไทยและกรุงเทพฯ ต่อไป
Mr. Hocun Panhapich และ Miss Samonn Ussah ได้พูดถึงระบบการศึกษาไทยว่า การศึกษาไทยแตกต่างจากที่กัมพูชา ประเทศไทยมีมหาวิทยาลัยและโรงเรียนจำนวนมาก และการศึกษาพัฒนาไปไกลกว่าที่กัมพูชา การเรียนการสอนแบบอินเตอร์ก็มีมากกว่าที่ประเทศกัมพูชาและค่าเทอมถูกกว่าที่กัมพูชา (อ่านข่าวต่อ https://goo.gl/xxvngg)
