Sigfox ผู้ให้บริการชั้นนำของโลกด้านการเชื่อมต่อ Internet of Things ประกาศระดมทุนรอบใหม่

0
211
image_pdfimage_printPrint

ลาเบช, ฝรั่งเศส—21 พ.ย.—พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

Sigfox ผู้ให้บริการชั้นนำของโลกด้านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (Internet of Things หรือIoT) ประกาศว่า บริษัทกำลังปิดการระดมทุนรอบ Series E ในวงเงิน 150 ล้านยูโร โดยมีจุดประสงค์เพื่อเร่งการขยายเครือข่ายของบริษัทให้ครอบคลุมทั่วโลกในเร็ววันนี้

Salesforce, Total, Henri Seydoux, Alto Invest, Swen CP และ Tamer Group จะร่วมระดมทุนกับ Sigfox ในฐานะนักลงทุนรายใหม่ ส่วนกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมอย่าง Bpifrance, Elliott, Intel Capital, Air Liquide, Idinvest Partners และ IXO จะกลับมาลงทุนกับทางบริษัทเช่นกัน นอกจากนี้ การระดมทุนครั้งนี้ยังเตรียมให้การต้อนรับบรรดานักลงทุนรายใหม่เพิ่มอีกในเร็วๆนี้ด้วย เพื่อบรรลุวงเงิน 150 ล้านยูโรตามเป้าหมาย

แวดวง IoT นั้นมาพร้อมกับโอกาสใหม่ๆที่น่าตื่นเต้นมากมาย ด้วยการเชื่อมต่อโลกทางกายภาพเข้ากับอินเทอร์เน็ต โดย Sigfox ซึ่งมีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับวัตถุสิ่งของหลายพันล้านชิ้น เพื่อเปิดโอกาสให้วัตถุสิ่งของเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในความก้าวหน้าทางสังคมและเศรษฐกิจของเรา

ในเวลาเพียง 5 ปี Sigfox ได้สร้างเครือข่ายไร้สายระดับโลกที่มีความโดดเด่น ซึ่งนำเสนอโซลูชั่นการเชื่อมต่อที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ เปิดโอกาสให้อุปกรณ์ทั้งหลายสามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบคลาวด์ได้โดยใช้ต้นทุนและพลังงานเพียงน้อยนิด เครือข่ายของ Sigfox มีความครอบคลุมทั่วโลกอย่างที่หาไม่ได้จากผู้ให้บริการเครือข่ายรายอื่น ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เก็บเกี่ยวพลังงานที่สามารถทำงานด้วยตนเองอย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย Sigfox เปิดโอกาสให้อุปกรณ์ต่างๆเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ได้แม้มีต้นทุนไม่มาก โดยอาศัยการใช้แหล่งพลังงานที่รายล้อมอยู่ คำมั่นสัญญานี้ ตลอดจนความก้าวหน้าสำคัญที่ทางบริษัทได้ทุ่มเทตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้การระดมทุนครั้งนี้ปิดฉากลงด้วยความสำเร็จ

ด้วยจำนวนวัตถุมากกว่า 10 ล้านชิ้นที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายของบริษัท ครอบคลุมพื้นที่มากถึง 26 ประเทศ ขณะนี้ Sigfox กำลังตอกย้ำตำแหน่งผู้นำระดับโลกในแวดวง IoT การระดมทุนครั้งใหม่นี้จะเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถขยายเครือข่ายระดับโลกให้ครอบคลุมพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 60 ประเทศภายในปี 2561 และบรรลุจุดคุ้มทุนทางการเงินต่อไป

บริษัทมองว่า Industry 4.0 เป็นช่องทางสำคัญประการหนึ่งในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าของ IoT โดยความจำเป็นในเรื่องของการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (predictive maintenance) เช่นเดียวกับการมุ่งพัฒนาโมเดลธุรกิจโดยเน้นภาคบริการนั้น อาจเป็นเหตุผลเบื้องหลังที่ทำให้ Total ตัดสินใจเข้าร่วมกับผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ในการสนับสนุนแผนพัฒนาธุรกิจระดับโลกของ Sigfox

“เรามีความยินดีที่ได้ร่วมเดินหน้าไปกับ Sigfox เนื่องจากเทคโนโลยีของบริษัทมีศักยภาพที่จะเร่งผลักดันการใช้เทคโนโลยี Internet of things โดยความก้าวหน้าที่ทางบริษัทได้จากตลาดในช่วงเวลาอันสั้น ประกอบกับศักยภาพในการเร่งให้เกิดการใช้โซลูชั่น IoT เป็นวงกว้างนี้ เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เราเข้าลงทุน” Patrick Pouyanne ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Total กล่าว “โซลูชั่นประเภทนี้จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการดำเนินงานของภาคอุตสาหกรรม ลดต้นทุนการดำเนินงาน และยังสามารถนำไปให้บริการกับลูกค้าได้อีกด้วย”

อีกหนึ่งโอกาสสำคัญคือ การปรับกระบวนการด้านอุตสาหรรมเพื่อใช้งานบิ๊กดาต้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยเหตุผลดังกล่าว Sigfox จึงวางแผนผนวกรวมกับ IoT Cloud ของ Salesforce เพื่อปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกจากโลกที่เชื่อมต่อถึงกันที่ช่วยให้ทุกธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นกรณีการใช้งานเพื่อธุรกิจหรือผู้บริโภคทั่วโลก ด้วยการเชื่อมต่อวัตถุและเหตุการณ์สำคัญหลายพันล้านรายการ Sigfox และ Salesforce IoT Cloud สามารถสนับสนุนการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ลึกซึ้งและมีความหมายผ่านเครือข่ายระดับโลกที่เป็นหนึ่งเดียวและสามารถปรับขนาดได้

Intel Capital, Idinvest Partners และ IXO PE ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นดั้งเดิมของ Sigfox ได้เข้าร่วมการระดมทุนในรอบนี้ด้วย

Franck Tuil ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนอาวุโสของ Elliott กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า Sigfox ได้ไขปัญหาด้านการเชื่อมต่อ IoT และจะนำวัตถุหลายพันล้านรายการเข้าสู่โลกออนไลน์ได้ในอนาคตอันใกล้ โซลูชั่นแพลตฟอร์มที่คุ้มค่า ใช้งานง่าย และเปิดกว้างของ Sigfox เตรียมพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นมาตรฐานสำหรับการเชื่อมต่อวัตถุโดยใช้พลังงานต่ำ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลิตภาพมหาศาลแก่โลกธุรกิจ และสร้างประโยชน์ในชีวิตประจำวันสำหรับลูกค้า”

Henri Seydoux ซีอีโอของ Parrot กล่าวว่า “ผมสร้าง Parrot ขึ้นมาเมื่อ 22 ปีที่แล้ว ผมรู้ว่าต้องใช้งบประมาณมากเท่าใดจึงจะสามารถดำเนินโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ความพยายามอย่างสูง ผมประทับใจในความก้าวหน้าอย่างมากของ Sigfox ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผมดำรงตำแหน่งกรรมการของ Sigfox ผมเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ของตลาดที่ Sigfox ได้เข้าไปแก้ไขปัญหาจนประสบความสำเร็จ นอกจากการลงทุนด้านการเงินที่ผมมอบให้แก่บริษัทแล้ว ผมยังตั้งใจที่จะให้การสนับสนุนฝ่ายบริหารของ Sigfox ในฐานะผู้ประกอบการอีกด้วย”

Paul Francois Fournier กรรมการบริหาร Bpifrance กล่าวว่า “Internet of Things คือหนึ่งในเทคโนโลยีพลิกโฉมที่สำคัญ และเราภูมิใจที่ได้สนับสนุน Sigfox ในฐานะผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน เรายินดีที่จะได้เห็นระบบนิเวศสตาร์ทอัพพัฒนาขึ้นอย่างแข็งแกร่งโดยอาศัยเทคโนโลยีระดับเวิลด์คลาส”

Xavier Drilhon รองซีอีโอของ Sigfox ได้แสดงความคิดเห็นในโอกาสการประกาศปิดรอบระดมทุนครั้งนี้ว่า “ผมเข้าร่วมงานกับ Sigfox เมื่อ 18 เดือนก่อน เนื่องด้วยวิสัยทัศน์อันทรงพลังของเหล่าผู้ก่อตั้ง และการกำหนดตำแหน่งของบริษัทอย่างแตกต่างในฐานะผู้ช่วยปฏิวัติ IoT เราสามารถขยายเครือข่ายไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว เพราะได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการในแต่ละพื้นที่ ตลอดจนการเติบโตของระบบนิเวศของเรา ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของการระดมทุนครั้งใหม่นี้ ซึ่งจะเปิดทางให้ Sigfox สามารถเร่งเดินหน้าขยายเครือข่ายของบริษัทจากที่ครอบคลุม 26 ประเทศในปัจจุบัน เป็นกว่า 60 ประเทศภายในอีก 2 ปี ซึ่งคิดเป็น 90% ของ GDP ทั่วโลก”

Ludovic Le Moan และ Christophe Fourtet ผู้ร่วมก่อตั้ง Sigfox กล่าวว่า “ตอนที่พวกเราพบกันในปี 2553 เราต่างเห็นพ้องกันว่า Sigfox จะพลิกโฉมโลกด้วยการทำให้โลกเสมือนจริงเป็นโลกที่จับต้องได้ โดยผ่านกระบวนทัศน์ใหม่ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีดาราศาสตร์ฟิสิกส์ ในปัจจุบันเราได้สร้างกล้องโทรทรรศน์วิทยุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อรองรับ IoT โดยเฉพาะ โดยเครือข่ายของเราสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายพันล้านชิ้นเข้ากับอินเทอร์เน็ตผ่านทางเทคโนโลยีคลื่นวิทยุอันทันสมัย”

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมจะเสนอขายหลักทรัพย์แบบ “greenshoe” ซึ่งจะอนุญาตให้หุ้นส่วนธุรกิจและการเงินรายใหม่ๆสามารถเข้าซื้อหุ้นของ Sigfox ได้ในเร็วๆนี้

โดย Lazard และ Goldman Sachs จะทำหน้าที่ที่ปรึกษาทางการเงินของ Sigfox ขณะที่ Skadden จะเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และ Callisto รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับฝ่ายบริหาร

สามารถรับชมรูปภาพของ Sigfox ได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Sigfox

Sigfox ผู้ให้บริการชั้นนำของโลกด้านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (Internet of Things หรือIoT) บริษัทได้สร้างเครือข่ายระดับโลกที่เชื่อมต่ออุปกรณ์นับหลายพันล้านชิ้นเข้ากับอินเทอร์เน็ตด้วยการใช้พลังงานน้อยที่สุดและด้วยวิธีการเรียบง่ายที่สุด

แนวทางเฉพาะตัวของ Sigfox ในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์บนคลาวด์นั้น สามารถก้าวข้ามอุปสรรคสำคัญในการปรับตัวเข้าสู่ยุค IoT ใน 3 ด้านใหญ่ๆ ได้แก่ ต้นทุน การบริโภคพลังงาน และการปรับขยายขนาด ปัจจุบันบริษัทได้วางโครงข่ายใน 26 ประเทศ และมีแผนจะสร้างให้ครอบคลุม 60 ประเทศภายในปี 2561 ซึ่งครอบคลุมประชากร 397 ล้านคนทั่วโลก โดย Sigfox ได้เพิ่มขีดความสามารถให้แก่บริษัทต่างๆในการสร้างนวัตกรรมบน IoT ด้วยอุปกรณ์จำนวนหลายล้านชิ้นที่เชื่อมต่อถึงกัน และด้วยระบบนิเวศพันธมิตรที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว Sigfox ก่อตั้งโดย Ludovic Le Moan และ Christophe Fourtet ในปี 2553 มีสำนักงานใหญ่อยู่ใน “IoT Valley” เมืองลาเบช ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีสำนักงานอยู่ในปารีส มาดริด มิวนิค บอสตัน ซานฟรานซิสโก ดูไบ และสิงคโปร์

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.sigfox.com และติดตามเราได้ทาง Twitter, Facebook และ Youtube

เกี่ยวกับ Total Energy Ventures

Total Energy Ventures เป็นธุรกิจร่วมทุนของ Total สำหรับการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพด้านพลังงาน โดยการลงทุนมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาของธุรกิจเชิงนวัตกรรมในหลายสาขา เช่น พลังงานทดแทน ประสิทธิภาพพลังงาน การกักเก็บพลังงาน พลังงานดิจิทัล และระบบการขนส่งที่ยั่งยืน

เกี่ยวกับ ALIAD

Air Liquide Venture Capital หรือ ALIAD ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 ในฐานะธุรกิจร่วมทุนของ Air Liquide Group บทบาทของ ALIAD คือการถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี โดย ALIAD ให้การสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยอาศัยความรู้จากลูกค้า ประกอบกับความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของบริษัทเอง นอกจากนี้ยังมีส่วนเกี่ยวข้องในด้าน R&D และข้อตกลงทางธุรกิจระหว่างบริษัทสตาร์ทอัพต่างๆ กับภาคส่วนอื่นๆ ในกลุ่มบริษัท

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.airliquide.com/connected-innovation/aliad-venture-capital

เกี่ยวกับ Alto Invest

Alto Invest เป็นบริษัทบริหารจัดการเงินทุน ซึ่งเน้นลงทุนในบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่เติบโตอย่างรวดเร็วเป็นหลัก ทีมงานของ Alto Invest มีประสบการณ์สูงในการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนในหุ้นนอกตลาดให้กับลูกค้าสถาบันและลูกค้าบุคคล โดยลงทุนในหุ้นนอกตลาดในยุโรปมากกว่า 90 โครงการ Alto Invest ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของฝรั่งเศส (Autorite des Marches Financiers) และเป็นสมาชิกของสมาคมบริหารสินทรัพย์ของฝรั่งเศส (Association Francaise de la Gestion Financiere)

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.altoinvest.fr

เกี่ยวกับ Bpifrance

Bpifrance Investissement ทำการลงทุนในหุ้น Bpifrance เป็นบริษัทของรัฐบาลฝรั่งเศสและบริษัทในเครือของ Caisse des Depots ตลอดจนเป็นหุ้นส่วนที่ได้รับความไว้วางใจของเหล่าผู้ประกอบการ Bpifrance จัดหาเงินทุนให้กับธุรกิจต่างๆ ผ่านทางการออกหุ้น IPO การให้เงินกู้ยืม การรับประกัน และการลงทุนในหุ้น นอกจากนี้ Bpifrance ยังจัดหาบริการและให้การสนับสนุนในเรื่องนวัตกรรม การส่งออก และการเติบโตจากภายนอกด้วยการเป็นพันธมิตรกับ Business France และ Coface ทั้งนี้ Bpifrance นำเสนอโอกาสที่หลากหลายในการจัดหาเงินทุนให้กับธุรกิจต่างๆ ในแต่ละขั้นตอนที่สำคัญต่อความก้าวหน้าของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงข้อเสนอที่ปรับให้เข้ากับภูมิภาคโดยเฉพาะ ด้วยสำนักงานประจำภูมิภาคจำนวน 47 แห่ง (90% ของการตัดสินใจดำเนินการโดยสาขาในภูมิภาค) Bpifrance ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือกลยุทธ์เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้ นอกจากนี้ Bpifrance ยังรับบทบาทเป็นผู้สนับสนุนความคิดริเริ่มที่ได้รับการผลักดันโดยรัฐบาลฝรั่งเศสและภูมิภาค เพื่อบรรลุเป้าหมาย 3 ประการ ได้แก่

– ส่งเสริมการเติบโตของ SME
– เตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันในอนาคต
– สนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศผู้ประกอบการ

Bpifrance ช่วยให้ธุรกิจได้รับผลประโยชน์จากตัวแทนที่มีความใกล้ชิด มีประสิทธิภาพ และทรงพลัง ที่สามารถช่วยตอบทุกความต้องการในเรื่องของการจัดหาเงินทุน นวัตกรรม และการลงทุน

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bpifrance.fr และติดตามเราบนทวิตเตอร์ @bpifrance

เกี่ยวกับ Elliott Management Corporation

Elliott Management Corporation เป็นบริษัทด้านการลงทุนที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2520 และปัจจุบันบริหารเงินทุนราว 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย Elliott ใช้กลยุทธ์การลงทุนหลายรูปแบบ ผ่านทางสำนักงานในนิวยอร์ก ลอนดอน ฮ่องกง โตเกียว และเมนโลปารค์ บริษัทลงทุนเชิงรุกในหนี้สิน หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ อัตราแลกเปลี่ยน และสินทรัพย์ประเภทอื่นๆในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย วัตถุประสงค์หลักของบริษัทคือการสร้างผลตอบแทนในระดับสูงอย่างต่อเนื่องและจำกัดการขาดทุนในช่วงที่ตลาดการเงินซบเซา

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.elliottmgmt.com

เกี่ยวกับ Idinvest Partners

Idinvest Partners เป็นผู้จัดการการลงทุนชั้นนำในยุโรปซึ่งเน้นไปที่ตลาดระดับกลาง โดยมีพนักงาน 80 คนและสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 7 พันล้านยูโร Idinvest Partners ได้พัฒนาความเชี่ยวชาญในหลายด้าน ซึ่งรวมถึงการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมของยุโรป การลงทุนแบบ primary, secondary และ mezzanine ในบริษัทของยุโรปที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหุ้น ตลอดจนการเป็นที่ปรึกษาด้านไพรเวทอิควิตี้ Idinvest Partners ก่อตั้งขึ้นภายใต้ชื่อ AGF Private Equity ในปี 2540 บริษัทเคยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท Allianz ก่อนจะแยกตัวออกเป็นบริษัทอิสระในปี 2553

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.idinvest.com

เกี่ยวกับ Intel Capital

Intel Capital เป็นบริษัทด้านการลงทุนและการควบรวมกิจการของ Intel โดย Intel Capital ให้การสนับสนุนบริษัทสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรม โดยพุ่งเป้าไปที่อุปกรณ์ประมวลผลและสมาร์ทดีไวซ์, คลาวด์, ศูนย์ข้อมูล, ระบบความปลอดภัย, Internet of Things, เทคโนโลยีแวร์เอเบิลและวิทยาการหุ่นยนต์ และการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ทั้งนี้ Intel Capital ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2534 และได้ลงทุน 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์ในบริษัท 1,470 แห่งทั่วโลก โดยบริษัท 617 แห่งในพอร์ตการลงทุนได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นหลายแห่งทั่วโลกหรือมีการควบรวมกิจการ ทั้งนี้ Intel Capital ได้คัดสรรและดูแลผู้บริหารพอร์ต ลูกค้า และพันธมิตรของ Intel ที่มีรายชื่อในทำเนียบ Global 2000 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมว่าอะไรทำให้ Intel Capital ขึ้นแท่นบริษัทร่วมลงทุนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก กรุณาเข้าชมที่เว็บไซต์ http://www.intelcapital.com หรือติดตามผ่านทางทวิตเตอร์ได้ที่ @Intelcapital

เกี่ยวกับ IXO Private Equity

IXO Private Equity เป็นบริษัทอิสระที่ทีมบริหารเป็นผู้ถือหุ้นทั้ง 100% บริษัทบริหารสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนเป็นมูลค่า 570 ล้านยูโร และได้จัดการเงินกองทุน FIP/FCPI มูลค่า 220 ล้านยูโร สำหรับกองทุน FPCI (ex FCPR) ได้ลงนามโดยนักลงทุนสถาบัน คิดเป็นมูลค่า 350 ล้านยูโร นอกจากนี้ IXO Private Equity ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่เมืองตูลูส มาร์กเซย และลียง ยังได้ร่วมลงทุนในกองทุนรวมตราสารทุนตั้งแต่ 1 ล้านยูโร จนถึง 15 ล้านยูโรต่อโครงการ ในธุรกิจขนาดเล็ก (PME) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส (ตั้งแต่ตะวันออกเฉียงใต้ไปจนถึงตะวันตกเฉียงใต้)

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ http://www.ixope.fr

เกี่ยวกับ Salesforce Ventures

Salesforce Ventures เป็นบริษัทด้านการบริหารเงินลงทุนในเครือ Salesforce ที่มุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีระดับองค์กรยุคใหม่ เพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าได้ในช่องทางใหม่ๆ โดยบริษัทในพอร์ตการลงทุนจะได้รับเงินทุน รวมถึงสิทธิในการเข้าถึงระบบนิเวศคลาวด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมด้วยคำแนะนำจากนักนวัตกรรมและผู้บริหารของ Salesforce ทั้งนี้ บริษัทในพอร์ตการลงทุนของ Salesforce Ventures จะสามารถใช้ประโยชน์จากทักษะความเชี่ยวชาญของ Salesforce Foundation เพื่อผสานรูปแบบการตอบแทนเพื่อสังคมในสัดส่วน 1-1-1 ของทางมูลนิธิเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการดำเนินธุรกิจ นับตั้งแต่ปี 2552 Salesforce ได้สนับสนุนเงินทุนให้กับบริษัทสตาร์ทอัพด้านคลาวด์ระดับองค์กรแล้วกว่า 150 แห่ง

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.salesforce.com/ventures

เกี่ยวกับ Swen Capital Partners

Swen Capital Partners เป็นบริษัทจัดการลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านหุ้นนอกตลาด โครงสร้างพื้นฐานเอกชน และหุ้นกู้ภาคเอกชน ด้วยการบริหารสินทรัพย์มูลค่ากว่า 3.2 พันล้านยูโร Swen Capital Partners ได้มอบสิทธิประโยชน์ต่างๆให้กับลูกค้า ดังนี้

– โปรแกรมการลงทุนเต็มรูปแบบสำหรับลูกค้าสถาบันและลูกค้าบุคคล
– ทักษะความสามารถในการติดตามพอร์ตการลงทุน

Swen Capital Partners เป็นบริษัทในเครือ OFI และ Arkea Investment Services

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.swen-cp.fr

เกี่ยวกับ Tamer Group

Tamer Group เป็นบริษัทชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและความงาม รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีอัตราการหมุนเวียนสูงและต้นทุนต่ำ รองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของกลุ่มผู้บริโภคในซาอุดิอาระเบียและประเทศแถบตะวันออกกลาง ธุรกิจหลักของบริษัทคือการนำเข้า จัดจำหน่าย จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ทำการตลาด และผลิตสินค้าชนิดต่างๆ

ปัจจุบัน Tamer Group ได้ขึ้นแท่นบริษัทที่ได้รับการยอมรับในซาอุดิอาระเบีย จากกลยุทธ์การเข้าถึงตลาด การบริการ และกลุ่มลูกค้าอย่างเหนือชั้น

Tamer Group มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเจดดาห์ ซาอุดิอาระเบีย และได้ให้บริการแก่บริษัทชั้นนำของโลกหลายแห่ง ผ่านการทำข้อตกลง การเป็นพันธมิตร และการทำกิจการร่วมค้า

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tamergroup.com

ติดต่อ:
Laurence Collet
media relations Sigfox
laurence.collet@sigfox.com
+33-7-86-27-36-43

Simon Chan
Edelman for Sigfox
simon.chan@edelman.com
+44(0)7875-198-091

ที่มา: Sigfox