มอบการเชื่อมต่อความหน่วงต่ำเป็นพิเศษจาก 1400 Federal ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ไปยังตลาดหลักทรัพย์ B3 ในเซาเปาโล
Seaborn Networks ผู้พัฒนา เจ้าของ และผู้ดำเนินการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้ทะเล ประกาศว่า บริษัทได้มอบบริการ SeaSpeed Tier 1 บนโครงข่าย Seabras-1 ให้แก่ลูกค้า โดย SeaSpeed Tier 1 เป็นเส้นทางเชื่อมต่อความหน่วงต่ำสุดระหว่าง 1400 Federal ในเมืองการ์เตอเรต รัฐนิวเจอร์ซีย์ กับตลาดหลักทรัพย์ B3 ในเซาเปาโล ด้วยค่าความหน่วงที่วัดได้จริง 105.05 ms RTD ระหว่างศูนย์ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ทั้งสองแห่ง นับเป็นบริการเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่มีการลดค่าความเร็ว ณ จุดขึ้นฝั่งที่สถานีภาคพื้นดิน
นอกจากนี้ Seaborn ยังให้บริการเชื่อมต่อความหน่วงต่ำ SeaSpeed Tier 2 (Carrier Class) จาก 1400 Federal ไปยัง B3 ด้วยค่าความหน่วงที่วัดได้จริง 106.54 ms RTD ช่วยให้บริษัทเทรดดิ้งสามารถเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างทั้งสองจุดได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่า ทั้ง SeaSpeed Tier 1 และ 2 ต่างมอบการเชื่อมต่อที่ไว้วางใจได้มากที่สุดระหว่างตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐและบราซิล
Seaborn เป็นผู้ดูแลเคเบิลใยแก้วนำแสงทั้ง 6 คู่สายบนโครงข่าย Seabras-1 ให้แก่ลูกค้า ผ่านศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายของ Seaborn ที่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด ซึ่งควบคุมโดยพนักงานและหน่วยกู้ระบบของ Seaborn ควบคู่ไปกับการควบคุม ณ สถานีภาคพื้นดินในเมืองปรายา กรันเด และการเป็นเจ้าของ (ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรในฐานะตัวแทนของลูกค้า) เคเบิลใยแก้วนำแสงทั้ง 6 คู่สายบนโครงข่าย Seabras-1 ทั้งนี้ Seaborn บริหารระบบทั้งหมดไม่ว่าลูกค้าจะใช้บริการ SeaSpeed, ซื้อหรือเช่าคู่สายใยแก้วนำแสง สเปกตรัม หรือสิทธิ์ใช้งานโครงข่ายเคเบิลผ่านบริการ Wholesale ของ Seaborn
Seaborn นำเสนอบริการ SeaSpeed และ Wholesale ที่มีคุณสมบัติเฉพาะดังนี้
– Seaborn ให้บริการ SeaSpeed Tier 1 และ 2 แก่ลูกค้าในอุตสาหกรรมการเงิน ผ่านพันธมิตรที่ได้รับอนุญาตแต่เพียงผู้เดียว นั่นคือ Spread Networks โดยไม่อนุญาตให้นำไปขายต่อหรือสลับกับบุคคลที่สาม และทั้งสองบริการเป็นไปตามข้อตกลงระดับการให้บริการ (SLA) ความหน่วง
– ลูกค้านอกภาคการเงิน (รวมถึงผู้ให้บริการเครือข่าย, OTT, ISP, ผู้ขายต่อ) สามารถรับบริการ Wholesale บนโครงข่าย Seabras-1 ซึ่งบริหารโดย Seaborn เช่นกัน บริษัทเชื่อว่าบริการนี้มอบการเชื่อมต่อความหน่วงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในเส้นทางระหว่างนิวเจอร์ซีย์/นิวยอร์ก กับเซาเปาโล และมีจุด POP ให้เลือกมากมายทั้งในสหรัฐและบราซิล แต่บริการนี้ไม่ครอบคลุมข้อตกลงระดับการให้บริการความหน่วง และไม่รวมเส้นทางตรงไปยัง B3
– ค่าความหน่วงที่วัดได้จริงระหว่าง POP กับ POP ภายใต้บริการ Wholesale นั้น ขึ้นอยู่กับจุด POP ที่ Seaborn เสนอให้ และเราเชื่อว่าทุกจุดมีค่าความหน่วงต่ำกว่าระบบเคเบิลอื่นๆที่เชื่อมสหรัฐ-บราซิล ตัวอย่างเช่น บริการ Wholesale ที่เชื่อมระหว่าง SP3 ในเซาเปาโล และ 800 Secaucus ในนิวเจอร์ซีย์ ได้รับประโยชน์จากความหน่วง 107.76 ms RTD อนึ่ง ค่าความหน่วงระหว่างสถานีภายใต้บริการ Wholesale ก็แตกต่างจากบริการ SeaSpeed เช่นกัน
ค่าความหน่วงและคุณภาพบริการที่ Seaborn มอบให้แก่ลูกค้า SeaSpeed มีความเป็นเลิศอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
โครงข่าย Seabras-1 ใช้เงินลงทุนกว่า 520 ล้านดอลลาร์ และเป็นโครงข่ายเคเบิลใต้ทะเลโครงข่ายแรกที่ออกแบบใหม่ตั้งแต่ต้น เพื่อมอบเส้นทางการเชื่อมต่อที่เร็วที่สุดระหว่างตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำของอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้
เกี่ยวกับ Seaborn Networks
Seaborn ( www.seabornnetworks.com ) เป็นผู้พัฒนา เจ้าของ และผู้ดำเนินการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้ทะเลอิสระ ได้แก่ Seabras-1 ที่เชื่อมระหว่างสหรัฐและบราซิล (เปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว), ARBR ที่เชื่อมระหว่างบราซิลและอาร์เจนตินา (พร้อมให้บริการในไตรมาส 4 ปี 2561) และ SABR ที่เชื่อมระหว่างบราซิลและแอฟริกาใต้ (พร้อมให้บริการปี 2562) Seaborn มีสำนักงานในสหรัฐ บราซิล และอังกฤษ รวมถึงศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายที่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด ทีมบริหารของ Seaborn มีประสบการณ์ในการออกแบบ สร้าง จัดหาเงินทุน และดำเนินการเครือข่ายใต้น้ำและเครือข่ายภาคพื้นดินที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.seabornnetworks.com
สื่อมวลชนติดต่อ
Kate Wilson
Seaborn Networks
โทร. +1 978 471 3169
อีเมล: kate.wilson@seabornnetworks.com
โลโก้ – https://mma.prnewswire.com/media/600844/Seaborn_Networks_Logo.jpg