SAM โชว์ผลงาน Q3 ไปได้สวย หลังรุกประมูลซื้อหนี้แบงก์
นายนิยต มาศะวิสุทธิ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผย “ผลการดำเนินงานของ SAM ณ สิ้นสุดไตรมาส 3 ปี 2561 ผลการดำเนินงานโดยรวมเป็นไปตามเป้าหมาย โดย SAM ได้รับชำระเงินสด รวมจำนวนทั้งสิ้น 6,998.77 ล้านบาท หรือร้อยละ 82.23 ของเป้าหมาย ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 9 เดือนที่ตั้งไว้ ปัจจุบัน SAM มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการมูลค่ารวมทั้งสิ้น 343,162.21 ล้านบาท และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) 22,008.41 ล้านบาท เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่องค์กรตามแผนระยะยาว SAM ในฐานะหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่บริหารจัดการหนี้เสียของประเทศ และเป็นเครื่องมือของภาครัฐในการดูดซับ NPL จากระบบสถาบันการเงิน จึงมีการวางกลยุทธ์เพิ่มขนาดพอร์ต NPL โดยเข้าร่วมประมูลซื้อจากสถาบันการเงินต่างๆ ที่ประกาศขายในตลาดมาอย่างต่อเนื่อง และสามารถชนะการประมูล คิดเป็นภาระหนี้รวม 10,086.85 ล้านบาท หรือร้อยละ 50.09 ของเป้าหมายที่กำหนดในปี 2561
ด้านการบริหารจัดการ NPA สามารถจำหน่ายทรัพย์สินได้เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 2,482.39 ล้านบาท นับว่า SAM ประสบความสำเร็จสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าค่าเฉลี่ย 4 ปีย้อนหลัง (ปี 2557-2560) ทั้งนี้เป็นผลมาจากการวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งโปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่ตอบโจทย์และโดนใจลูกค้า มีการจัดกิจกรรมการขายและลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอดปี ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและตรงกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ SAM ในพอร์ตส่วนใหญ่เป็นทรัพย์มีศักยภาพสูงและตั้งอยู่ในทำเลดี โดยเฉพาะในทำเลที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาโครงการของภาครัฐ
ด้านการบริหารจัดการ NPL มุ่งเน้นการให้โอกาสและคำปรึกษาแก่ลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ให้สามารถกลับไปดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพได้ตามปกติ ในช่วงที่ผ่านมา SAM ได้จัดโครงการพิเศษและกิจกรรมการตลาดเชิงรุก อาทิ โครงการลดหนี้มีสุข สามารถช่วยเหลือลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้รายย่อยบรรลุข้อตกลงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น คิดเป็นมูลหนี้รวมมากกว่า 200 ล้านบาท รวมทั้งการจัดกิจกรรมเปิดบ้านทำงานวันหยุด และการเดินสายลงพื้นที่พบปะลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ทั่วประเทศ
สำหรับโครงการคลินิกแก้หนี้ ภายหลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ได้มากยิ่งขึ้น ทำให้ปัจจุบันมีลูกค้าลงนามในสัญญากับโครงการคลินิกแก้หนี้คิดเป็นมูลหนี้เงินต้นสะสมรวมประมาณ 224 ล้านบาท หรือร้อยละ 51.57 ของเป้าหมาย และมีลูกค้าส่วนหนึ่งสามารถชำระหนี้ได้สำเร็จตามแผนของโครงการแล้ว นอกจากนี้ SAM ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ไม่สะดวกเข้ามาติดต่อในวันทำการ โดยเพิ่มการให้บริการในวันเสาร์ ครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม ครั้งที่ 2 ในเดือนสิงหาคม และครั้งที่ 3 ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ณ สำนักงานคลินิกแก้หนี้ ชั้น 12 อาคารเล้าเป้งง้วน ถ.วิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร รวมทั้งจัดกิจกรรมเดินสายให้ความรู้ทางการเงินแก่ลูกหนี้และผู้ที่สนใจ เพื่อสร้างวินัยทางการเงินและปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายและการออม ในฐานะที่เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของรัฐที่สนับสนุนนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนของประเทศอย่างยั่งยืน”