Risen Energy มุ่งมั่นขยายธุรกิจรุกตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลก
เมื่อไม่นานมานี้ Greener บริษัทวิจัยตลาดจากบราซิล ได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับตลาดการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 โดย Greener ได้ทำการสำรวจผู้ให้บริการโซลูชั่นพลังงานแสงอาทิตย์ทุกขนาดอย่างครอบคลุมทั่วโลกตลอดหนึ่งเดือน และมีบริษัท 768 แห่งให้ความร่วมมือ
หนึ่งในข้อมูลสำคัญจากรายงานฉบับนี้คือ บริษัท Risen Energy ผู้ผลิตเซลล์แสงอาทิตย์จากจีน ครองอันดับ 3 ในแง่ของการเจาะตลาดบราซิล ด้วยคะแนน 24.6% ในดัชนีการเข้าถึงตลาด ขณะเดียวกัน รายงานระบุว่าคุณภาพของโมดูลเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกค้าพิจารณาเมื่อเลือกแบรนด์สินค้า และซัพพลายเออร์ในบราซิล 9.79% ก็เลือก Risen Energy
นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งข่าวดี นั่นคือ Risen Energy ได้เซ็นสัญญาจัดหาโมดูล 50 เมกะวัตต์ให้แก่บริษัท PNPHANOI ในเวียดนามเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งสอดรับกับโครงการ One Belt, One Road ของรัฐบาลจีน รวมถึงแผน Two Corridors and One Economic Circle ของรัฐบาลเวียดนาม ภายใต้สัญญาดังกล่าว Risen Energy จะจัดหาโมดูล 50 เมกะวัตต์ให้แก่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Long Thanh 1 ของ PNPHANOI
Risen Energy เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตเซลล์แสงอาทิตย์สัญชาติจีนหลายแห่งที่ให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจในต่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆตลอดหลายปีที่ผ่านมา และตลาดอเมริกาใต้ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบราซิล ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพมหาศาล ขณะเดียวกันก็มีการแข่งขันอย่างดุเดือดเช่นเดียวกัน
คุณจ้าว เจ้อหลิน รองประธานฝ่ายขายของ Risen Energy กล่าวว่า “เพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้นเกี่ยวกับความคาดหวังของตลาดบราซิล เมื่อเดือนสิงหาคม 2561 เราจึงนำโมดูลคุณภาพสูงทั้งโมดูลโพลีคริสตัลไลน์ 72 เซลล์ โมดูล PERC ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ 72 เซลล์ และโมดูล PERC ชนิดโมโนคริสตัลไลน์แบบออฟกริด 72 เซลล์ มาจัดแสดงในงาน Enersolar + Brasil มหกรรมเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์นานาชาติครั้งที่ 5 และสาธิตการใช้งานให้ลูกค้าได้ชม เราได้โปรโมทแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นผ่านการจัดกิจกรรมและแคมเปญมากมาย ซึ่งเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสู่การสร้างความร่วมมือในภายหลัง ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากเป้าหมายการส่งมอบโมดูลมากกว่า 100 เมกะวัตต์ให้แก่บราซิลในปี 2561 ประกอบกับคำสั่งซื้อที่มีอยู่ในมือตอนนี้ เราคาดว่าจะสามารถส่งมอบโมดูลได้มากกว่า 260 เมกะวัตต์ทั่วบราซิลในปีนี้ และคาดว่าจะครองส่วนแบ่งในตลาดราว 15-20%”