QNB หนึ่งในธนาคารชั้นนำของภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (MEASEA) แถลงผลประกอบการประจำไตรมาส สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562
กำไรสุทธิในรอบสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 อยู่ที่ 3.6 พันล้านกาตาร์ริยาล (0.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ได้รับผลกระทบจากการลดค่าเงินลีราของตุรกี ขณะที่สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 882 พันล้านกาตาร์ริยาล (242 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 6% จากเดือนมีนาคม 2561 ซี่งเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของ QNB Group
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น มาจากสินเชื่อและเงินทดรองจ่าย ซึ่งเพิ่มขึ้น 5% สู่ระดับ 623 พันล้านกาตาร์ริยาล (171 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยเงินทุนสนับสนุนส่วนใหญ่มาจากเงินฝากลูกค้า ที่เพิ่มขึ้น 5% สู่ระดับ 634 พันล้านกาตาร์ริยาล (174 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 ขณะเดียวกัน การเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์และหนี้สินของบริษัทได้รับผลกระทบบางส่วนจากการลดค่าเงินลีราของตุรกี แต่ถึงแม้จะได้รับผลกระทบดังกล่าว ความสามารถที่แข็งแกร่งของ QNB ในการบริหารสินทรัพย์และหนี้สิน ช่วยให้ QNB Group ปรับปรุงอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก เป็น 98.3% ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562
มาตรการควบคุมต้นทุนที่เข้มงวดของ QNB Group ช่วยปรับปรุงอัตราส่วนประสิทธิภาพในการดำเนินงาน (อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้) เป็น 25.9% จาก 27.8% ในปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอัตราส่วนที่ดีที่สุดในบรรดาสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในภูมิภาค MEA
อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม อยู่ที่ 1.9% ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นหนึ่งในระดับที่ต่ำที่สุดในบรรดาสถาบันการเงินในภูมิภาค MEA สะท้อนถึงสินเชื่อที่มีคุณภาพสูงของ QNB Group รวมทั้งการบริหารความเสี่ยงจากสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพของทางกลุ่มฯ นโยบายการกันสำรองแบบระมัดระวังของทางกลุ่มฯ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ที่ 106% ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562
อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) ของบริษัท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 อยู่ที่ 18.5% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนขั้นต่ำของธนาคารกลางกาตาร์ และคณะกรรมการบาเซิล
ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ QNB ประสบความสำเร็จในการปิดการขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันอายุ 3 ปีมูลค่า 2.0 พันล้านยูโร ซึ่งแสดงถึงสถานะทางเครดิตที่แข็งแกร่งของ QNB นอกจากนี้ ทางกลุ่มฯ ยังประกาศความสำเร็จในการออกหุ้นกู้มูลค่า 1.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้โครงการหุ้นกู้ Euro Medium Term Note (EMTN) ในตลาดทุนระหว่างประเทศ โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีอายุไม่เกิน 5 ปี และอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.5% ต่อปี
การออกหุ้นกู้เหล่านี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนรายสำคัญระดับโลก ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งทางการเงินของ QNB Group รวมทั้งสถานะการเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาของทางกลุ่มฯ ทั้งยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในระดับสูงของนักลงทุนต่อแผนกลยุทธ์ของ QNB Group ในช่วงหลายปีข้างหน้าด้วย
QNB Group ให้บริการฐานลูกค้า 24 ล้านราย โดยมีทรัพยากรบุคคล 30,000 คนปฏิบัติงานจากสาขาต่าง ๆ กว่า 1,100 แห่ง และมีตู้เอทีเอ็มให้บริการ 4,400 เครื่อง
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/808498/QNB_Group_Head_Office.jpg
