PRP หรือ PLATELET RICH PLASMA

0
587
image_pdfimage_printPrint

PRP หรือ PLATELET RICH PLASMA คือ การสกัดเอาเกล็ดเลือดส่วนที่เป็นของเหลวหรือน้ำเลือด ( Plasma ) ซึ่งอุดมไปด้วยเกร็ดเลือด ( Platelet ) มีโปรตีนและเซลล์จากกระแสเลือดเข้มข้น ใช้ในการรักษา ซ่อมแซมข้อต่อ เนื้อเยื่ออ่อน เอ็น หรือกล้ามเนื้อ ที่มีอาการบาดเจ็บและอักเสบ เสื่อม เรื้อรัง รวมไปถึงการบาดเจ็บของระบบโครงสร้างมนุษย์ อาทิ เอ็น กล้ามเนื้อ กระดูก กระดูกอ่อน โดยวิธีฉีด PRP เข้าสู่จุดที่มีการบาดเจ็บ จะช่วยลดอาการบาดเจ็บ กระตุ้นกระบวนการในสมานแผลของร่างกายมนุษย์เร็วขึ้น และยังช่วยให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ข้อสำคัญ คือ ไม่อันตรายเนื่องจากเป็นส่วนประกอบจากเลือดของผู้ป่วยเอง

อาการบาดเจ็บที่รักษาโดยการฉีด PRP

1. บาดเจ็บเรื้อรัง Chronic Tendon Injuries เช่น เอ็นข้อศอกด้านนอก , เอ็นหน้าเข่า , เอ็นร้อยหวาย , รองช้ำ , เอ็นขาหนีบ , เอ็นสะโพก

2. การบาดเจ็บของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ แบบฉับพลัน เช่น กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง ( มักพบในนักกีฬาฟุตบอล กล้ามเนื้อน่อง , กล้ามเนื้อต้นขานอก )

3. กระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกเสื่อม

4. ข้อเข่าเสื่อม

5. การผ่าตัดบางชนิด เช่น การผ่าตัดซ่อมเอ็นหัวไหล่ เป็นต้น

การบาดเจ็บส่วนเอ็น ที่สามารถรักษาโดยการฉีด PRP

– เอ็นอักเสบ ที่ข้อศอกด้านนอก Tennis Elbow ( Common Extensor Tendinosis )

– เอ็นหน้าเข่าอักเสบ Jumper’s Knee ( Patellar Tendinosis )

– เอ็นร้อยหวายอักเสบ Achilles Tendinosis

– รองช้ำ Plantar Fasciitis

– เอ็นอักเสบ ที่ข้อศอกด้านนอก Tennis Elbow ( Common Extensor Tendinosis )

– เอ็นอักเสบ ที่ข้อศอก

– เอ็นอักเสบข้อพับเข่าด้านหลัง Hamstring Tendons

– เอ็นอักเสบขาหนีบ Adductor Tendons

– เอ็นอักเสบสะโพก Gluteal Tendons

ข้อจำกัดในการฉีด PRP

– ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง, ติดเชื้อ, โรคผิวหนังบางประเภท

– โรคการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ

– คนไข้ที่กินยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาละลายลิ่มเลือด

– โลหิตจาง

– ตั้งครรภ์

ขั้นตอนในการเตรียมตัวการเตรียมตัวมาฉีดคือ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ผลข้างเคียงค่อนข้างน้อยถึงแทบจะไม่มีเลย เนื่องจากเป็นเลือดของตัวเอง ซึ่งมีข้อระวังอยู่ว่าถ้าเกิดอาการป่วยอยู่ขอให้รักษาหายดีก่อนเพราะอาจจะมีเชื้อโรคอยู่ในกระแสเลือดเนื่องจากเป็นเลือดของเราเอง

ทั้งนี้การฉีดเกร็ดเลือดกับการฉีดยามีความแตกต่างกัน คือหากเป็นการรักษาโดยฉีดยาจะเป็นการรักษาแบบปลายเหตุ ช่วยลดแค่อาการหรือบรรเทาลง แต่ถ้าเป็นการฉีดเกร็ดเลือดจะเป็นการรักษาแบบต้นเหตุเพราะเนื่องจากเกร็ดเลือดนั้นจะช่วยไปสมานแผลและซ่อมแซมกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นที่บาดเจ็บได้

บทความโดย : นายแพทย์ วรายศ ตราฐิติพันธุ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมกระดูกและข้อ โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ถนนแจ้งวัฒนะ