สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์มหาชน) หรือ สนช. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับเอจีดับเบิลยู กรุ๊ป (AGW Group) ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนจากประเทศอิสราเอล ดำเนินโครงการบ่มเพาะและเร่งสร้างวิสาหกิจเริ่มต้น “Global Accelerator Program” ภายใต้ชื่อ “สปาร์ค (SPARK)” เพื่อเร่งสร้างและพัฒนาสตาร์ทอัพให้มีความพร้อมและมีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ จัดประกวดแผนธุรกิจรอบสุดท้าย ได้ผู้ชนะเลิศแล้ว โดยรางวัลตกเป็นของบริษัทเอเชียวัน คลิก จำกัด ผู้ผลิต Mobile Application ในชื่อ “PenguinT”
ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สนช. เปิดเผยภายหลังจากการเป็นกรรมการตัดสินแผนธุรกิจในงาน “SPARK Demo Day ว่า “กิจกรรมวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. ได้ร่วมมือกับ เอจีดับเบิลยู กรุ๊ป (AGW Group) ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนจากประเทศอิสราเอลพัฒนา Accelator ที่ริเริ่มโครงการบ่มเพาะและเร่งสร้างวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ “Global Accelerator Program” ขึ้นภายใต้ชื่อ “SPARK” ที่มุ่งเน้นให้กับกลุ่ม Startup ได้มีการพัฒนาและเติบโตไปในตลาดต่างประเทศ เพราะฉะนั้น เราจะมุ่งเน้นด้านภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งความเชี่ยวชาญด้านการบริหารงานของบริษัทต่างๆต้องไปเชื่อมโยง กับ Start up nation ของอิสราเอล ซึ่งผู้ชนะก็จะได้มีโอกาสไปเรียนรู้ ร่วมฝึกอบรมกับ Google Launchpad Tel Aviv หรือ Barclays Accelerator ซึ่งสนับสนุนโดย TechStars ที่เหมาะกับบริษัทสาย Fintech และยังได้พบปะนักลงทุนและบริษัทชั้นนำ ที่ประเทศอิสราเอล ดังนั้นจึงเป็นการยกระดับ startup ของไทย ไปสู่ตลาดโลกอีกทางหนึ่ง และเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตของสตาร์ทอัพไทยต่อไปในอนาคต สำหรับเกณฑ์ในการตัดสินนั้นเราจะมีการพิจารณาในหลายมิติ ซึ่งมิติสำคัญก็คือจะพิจารณารูปแบบของธุรกิจ หรือ Business Model ของบริษัทว่าเป็นอย่างไร มีโอกาสเติบโตในระดับโลกหรือไม่ รวมทั้งศักยภาพ ในการขยายตัวในระดับภูมิภาคเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเราเน้นว่าคุณจะเติบโตไปข้างนอกอย่างไรนี่เป็นสิ่งสำคัญที่เราใช้ในการตัดสิน”
นายกิตติกร กรรณเลขา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียวัน คลิก จำกัด ผู้ผลิต Mobile Application ในชื่อ “PenguinT” ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดครั้งนี้ เปิดเผยว่า “ปัจจุบัน เทคโนโลยีกับการท่องเที่ยวเป็นของที่คู่กัน เพราะว่าถ้าเราพัฒนาเทคโนโลยีให้เทียบกับระดับโลก ก็จะทำให้เราสามารถแข่งขันในตลาดโลก หรือ Global Market ได้ ดังนั้น บริษัทเราจึงได้นำประเด็นนี้มาคิดและทำแผนธุรกิจ โดยใช้ระบบปฏิบัติการในการบริหารจัดการหาตั๋วเครื่องบินราคาดีจากบริษัททัวร์ต่างๆ และนำไปขายในตลาดผ่าน mobile application ที่ชื่อ PenguinT ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา สำหรับกิจกรรมการประกวดแผนธุรกิจในวันนี้ เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมาก การแพ้ชนะ ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ แต่สิ่งที่ได้คือ ความร่วมมือร่วมใจกันของกลุ่มของสตาร์ทอัพที่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกันได้ จอยโปรดักซ์ร่วมกันได้ ขายโปรดักซ์ร่วมกันได้ สามารถที่จะทำงานกันและรวมกลุ่มกันได้ อันนี้คือสิ่งสำคัญมากที่สุด สำหรับแผนต่อไปในอนาคต ผมตั้งเป้าไว้ว่า จะทำอย่างไร ให้โปรดักซ์ สามารถเข้าไปยังตลาดต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว มีโมเดลธุรกิจที่ดี สามารถขยายธุรกิจไปต่างประเทศได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำ โดยเฉพาะในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ เซาท์อีสอาเซียน ผมมองว่ามีโอกาสในการขยายตัวได้สูงมาก เนื่องจากตัวแทนด้านการท่องเที่ยวของเราส่วนใหญ่เป็นระบบออฟไลน์เกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ ผมมองว่าอนาคต จะมีการพัฒนาเป็นออนไลน์ ดังนั้น ผู้ประกอบการในภูมิภาคของเรา ยังขาดเครื่องมือคือ เทคโนโลยีในการทำการตลาด เทคโนโลยีในการขาย ในการจอง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับสตาร์ทอัพ ที่จะช่วยกันสร้างตลาดในภูมิภาคอาเซียนด้วยกันอีกด้วย”