Panacea Biotec Ltd. (PBL) บริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ชั้นแนวหน้าและผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่เป็นอันดับต้นๆของอินเดีย ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระยะยาว 2 ฉบับกับ Serum Institute of India Pvt. Ltd. (SII) ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงบริษัทในเครือ SII อย่าง Bilthovan Biologicals B.V. (BBIO)
ข้อตกลงดังกล่าวให้สิทธิแก่ SII ในการผลิตและจัดจำหน่ายวัคซีนรวม 6 ชนิด (DTwP-HepB-Hib-IPV) ที่มีส่วนผสมของวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด (IPV) และวัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดมีเซลล์ (wP) ที่ PBL เป็นผู้พัฒนาและทำการค้า โดยถือเป็นวัคซีนตัวแรกในหมวดนี้
– SII จะจัดหา IPV อันเป็นตัวยาสำคัญในการผลิตวัคซีนรวม 6 ชนิดให้กับ PBL โดยจะผลิต ณ บริษัทในเครืออย่าง BBIO Netherlands ที่มีเทคโนโลยีการผลิต IPV ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ผลิตวัคซีนเพียง 3 รายทั่วโลกที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีดังกล่าว
– ในช่วง 2 ปีข้างหน้า SII และ PBL จะร่วมกันผลักดันวัคซีนรวม 6 ชนิดที่มีส่วนผสมของ wP-IPV เข้าสู่โครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแห่งชาติของรัฐบาลอินเดีย รวมถึงประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ผ่านการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น รัฐบาลของประเทศต่างๆ, องค์การอนามัยโลก (WHO), พันธมิตรทั่วโลกด้านวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันโรค (GAVI), มูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ (BMGF), หน่วยงานในสังกัดองค์การสหประชาชาติ (UN) และอื่นๆ
Dr. Rajesh Jain กรรมการผู้จัดการร่วมของ PBL กล่าวว่า เด็กๆหลายล้านคนในประเทศกำลังพัฒนาที่มีอัตราการเกิดปีละประมาณ 121 ล้านคน จะมีโอกาสเข้าถึงวัคซีนรวม 6 ชนิดแบบเหลวได้ง่ายยิ่งขึ้น วัคซีนดังกล่าวประกอบด้วยแอนติเจนที่สำคัญ 6 ชนิดที่สามารถป้องกันโรคร้ายแรง 6 โรค ได้แก่ โรคคอตีบ โรคบาดทะยัก โรคไอกรน โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคติดเชื้อฮิบ และโรคโปลิโอ
ความต้องการ IPV และวัคซีนที่มีส่วนผสมของ IPV ทั่วโลก มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากราว 100 ล้านโดสในปี 2563 เป็น 250-350 ล้านโดสต่อปีตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป ขึ้นอยู่กับว่าให้วัคซีน 2 หรือ 3 โดส ตามที่ Strategic Advisory Group of Experts (SAGE) on Immunization แนะนำไว้เมื่อเดือนเมษายน 2560 ว่าควรให้ IPV อย่างน้อย 2 โดส สำหรับประเทศที่เลิกใช้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน (OPV)
ทั่วโลกประสบปัญหาขาดแคลน IPV มาตั้งแต่ปี 2558 ส่งผลให้หน่วยงานของสหประชาชาติได้รับ IPV เพียง 52% ของทั้งหมดที่คาดว่าจะได้รับ ดังนั้น ประเทศต่างๆ 18 ประเทศจึงยังไม่สามารถบรรจุ IPV ไว้ในโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแห่งชาติ และอีก 15 ประเทศต้องประสบปัญหา จากทั้งหมด 70 ประเทศที่รับอนุญาตให้ใช้ IPV และได้รับการสนับสนุนจาก GAVI
Mr. Adar C. Poonawalla ซีอีโอและกรรมการบริหารของ SII กล่าวว่า “นี่คือเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่สองบริษัทวัคซีนยักษ์ใหญ่ของอินเดียได้จับมือกันแก้ปัญหาที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทั่วโลกต้องเผชิญ ความสะดวกสบายของวัคซีนแบบรวม 6 ชนิดในเข็มเดียวทำให้สามารถผลิตได้มากกว่า 250 ล้านโดสในอีก 3-4 ปีข้างหน้า ด้วยมูลค่าตลาดกว่า 1.25 พันล้านดอลลาร์ต่อปี”
Mr. R K Suri ที่ปรึกษาอาวุโสและผู้ประสานงานการลงนามครั้งสำคัญระหว่างสองบริษัท กล่าวว่า “นี่คือการเปิดศักราชใหม่ของวงการวัคซีน และเป็นการประกาศโมเดลธุรกิจใหม่ “Collaborate yet Compete” ที่เป็นการร่วมมือและแข่งขันไปพร้อมๆกัน”
รับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Panacea Biotec ได้ที่ www.panaceabiotec.com และรับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SII ได้ที่ www.seruminstitute.com
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Mr. P. D. Karan
รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กรและการพัฒนาธุรกิจ
โทร. +91-9312-693-040
อีเมล: pdkaran@panaceabiotec.com
ที่มา: Panacea Biotec Ltd.