MJD ส่งมอบ “มาเอสโตร 19 รัชดา19-วิภา” มูลค่า 1,700 ลบ. ให้ลูกค้าเข้าอยู่อาศัยแล้ววันนี้ พร้อมเตรียมจ่อโอนอีก 7 โครงการ มั่นใจยอดขายปีนี้เป็นไปตามเป้าที่ 11,000 ลบ.แน่นอน

0
507
image_pdfimage_printPrint

เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เตรียมส่งมอบโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ “มาเอสโตร 19 รัชดา19-วิภา” (MAESTRO 19 RATCHADA 19 – VIPHA) จำนวนทั้งสิ้น 560 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท ให้ลูกค้าเข้าอยู่อาศัยแล้ววันนี้ คาดภายในสิ้นปีนี้ปิดยอดโอนเต็ม 100% ชี้โครงการลูกค้าตอบรับดี ปัจจุบันมียอดขายแล้วถึง 70% ปลื้มปิดโควต้าลูกค้าต่างชาติสูงถึง 95% โกยยอดต่างชาติได้ถึง 1,000 ล้านบาท พร้อมจ่อทยอยส่งมอบอีก 7 โครงการในปีนี้ มั่นใจปีนี้ยอดขายเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ที่ 11,000 ล้านบาท

คุณเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมส่งมอบโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ตกแต่งครบพร้อมอยู่ “มาเอสโตร 19 รัชดา19-วิภา” (MAESTRO 19 RATCHADA 19 – VIPHA) จำนวนทั้งสิ้น 560 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท ให้ลูกค้าเข้าอยู่อาศัยแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดของแบรนด์ มาเอสโตร เรสซิเดนซ์ (MAESTRO RESIDENCES) ตั้งอยู่บนทำเลใจกลางรัชดา ใกล้ MRT รัชดาภิเษก 650 เมตร เข้าออกได้ 3 เส้นทางหลัก ถนนรัชดาภิเษก,ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนลาดพร้าว ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมโครงการแรกของปีนี้ที่ได้ทำการส่งมอบห้องพักอาศัยให้ลูกค้า คาดว่าภายในสิ้นปีนี้โครงการจะสามารถปิดการโอนได้ 100% ทั้งนี้ในช่วงที่ส่งมอบโครงการ บริษัทฯ ยังได้จัดโปรโมชั่น ฟรี! ทุกค่าใช้จ่ายวันโอน เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าและเร่งการโอนอีกด้วย

“มาเอสโตร 19 รัชดา19-วิภา ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ปัจจุบันโกยยอดขายได้แล้วถึง 70% แบ่งเป็นสัดส่วนซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและปล่อยเช่า 90% และ 10% ตามลำดับ โดยโครงการได้รับความนิยมทั้งจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยและกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ กลุ่มลูกค้าชาวไทยที่ซื้อคือกลุ่มพนักงานออฟฟิศ และผู้บริหาร ที่ทำงานที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตึก AIA Capital Center ตึกเมืองไทย-ภัทร ขณะที่ลูกค้าชาวต่างชาติปิดการขายโควต้าได้สูงถึง 95% หรือคิดเป็นยอดขายตลาดต่างชาติได้ถึง 1,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ที่ซื้อเป็นชาวจีน ที่ทำงานอยู่ที่สถานทูตจีน” คุณเพชรลดา กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับศักยภาพทำเลรัชดาภิเษกคาดว่าอนาคตจะมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดให้บริการ รถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ในปี 2563 และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว–สำโรง ที่จะเปิดให้บริการปี 2564 คาดว่าราคาที่ดินจะสูงขึ้นตามอัตราการเติบโตของทำเล โดยมีราคาที่ดินขึ้นเฉลี่ย 10-15% ต่อปี ปัจจุบันอยู่ที่ 400,000 – 700,000 บาท/ตร.ว. และจากศักยภาพทำเลนี้ จึงส่งผลให้ปัจจุบันราคาขายของโครงการมาเอสโตร 19 รัชดา 19-วิภา อยู่ที่ 110,000 บาท/ตร.ม. เพิ่มสูงขึ้น 10% จากราคาขายพรีเซลส์ที่ 100,000 บาท/ตร.ม.

คุณเพชรลดา กล่าวปิดท้ายว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวมประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป โดยในปีนี้มีโครงการคอนโดมิเนียมที่เตรียมส่งมอบให้ลูกค้าอีกจำนวน 7 โครงการ ได้แก่ มีลเลอร์ สุขุมวิท 40 (MIELER Sukhumvit 40), มิวนีค สุขุมวิท 23 (MUNIQ Sukhumvit 23), มาร์เวสท์ หัวหิน (Marvest Hua-Hin), เมทริส พระราม 9-รามคำแหง (Metris Rama 9-Ramkhamheang), เมทริส ลาดพร้าว (Metris Ladprao), มารุ เอกมัย 2 (MARU Ekkamai 2) และ มารุ ลาดพร้าว 15 (Maru Ladprao 15) ตามลำดับ โดยโครงการทั้งหมดจะส่งมอบห้องพักอาศัยให้ลูกค้าได้เข้าอยู่ตรงตามกำหนดเวลา เพื่อให้ลูกค้าได้รับโครงการที่ดีตรงตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ยึดมั่นเสมอมา ส่งผลให้ลูกค้าเชื่อมั่นและไว้วางใจในแบรนด์ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าปีนี้ยอดขายจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ที่ 11,000 ล้านบาทแน่นอน