MINT ประกาศเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 8.6 ในเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรม 382 แห่ง
บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“MINT”) ประกาศเซ็นสัญญาเข้าถือจำนวน 30,000,000 หุ้นในเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปซึ่งเป็นเครือโรงแรมใหญ่อันดับ 6 ของทวีปยุโรป ด้วยเงินลงทุนทั้งหมดจำนวน 192 ล้านยูโร ซึ่งเมื่อรวมกับการถือหุ้นเดิม เป็นผลให้ MINT ถือหุ้นทั้งสิ้นในสัดส่วนร้อยละ 8.6 ในเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปเมื่อรวมหุ้นสามัญทั้งหมด (fully diluted) การลงทุนในเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของ MINT ในขณะที่ MINT จะสามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจให้กับเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปได้ด้วยเช่นกัน ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหารของ MINT นอกจากนี้ การลงทุนดังกล่าวเป็นไปตามกลยุทธ์ของ MINT ในการหาโอกาสในการลงทุนทางการเงินที่มีความน่าดึงดูด เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัท ด้วยอัตราส่วนมูลค่าสุทธิของกิจการต่อกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EV/EBIDA) ที่ 10.6 เท่าในปี 2561 ทั้งนี้ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง ด้วยความสำเร็จในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของทั้งกลุ่มในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจในทวีปยุโรปที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งทั้งสองปัจจัยมีส่วนช่วยให้เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและมีค่าห้องเฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (ADR) ที่สูงขึ้น โดยตลาดหลักทั้ง 4 แห่งของเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ได้แก่ ประเทศสเปน สหภาพเศรษฐกิจเบเนลักซ์ ยุโรปกลาง และประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นแรงผลักดันในการเติบโตที่แข็งแกร่งในอดีต จะยังคงเป็นแรงผลักดันต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ การลงทุนดังกล่าวเป็นไปตามกลยุทธ์ของ MINT ในการต่อยอดธุรกิจในตลาดที่ MINT มีการดำเนินธุรกิจอยู่ในบัจจุบัน ซึ่งรวมถึงภูมิภาคเอเชีย ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และยุโรป โดยจะช่วยส่งเสริมธุรกิจในภูมิภาคยุโรป ด้วยเครือข่ายธุรกิจของเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปที่ไม่ซ้ำซ้อนกับเครือข่ายธุรกิจเดิมของ MINT ในประเทศโปรตุเกสและบราซิล จากการที่ MINT ได้เข้าซื้อกลุ่มโรงแรมทิโวลี โฮเทล แอนด์ รีสอร์ทในปี 2559
เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปมีโรงแรมและรีสอร์ทจำนวน 382 แห่ง ประกอบด้วยห้องพักรวม 59,350 ห้องใน 30 ประเทศทั่วทวีปยุโรป อเมริกา และแอฟริกา โดยบริษัทได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2521 และปัจจุบันได้กลายมาเป็นหนึ่งใน 25 เครือโรงแรมชั้นนำระดับโลก โดยมีความชำนาญในการดำเนินธุรกิจโรงแรมระดับกลางถึงระดับบน แบรนด์ NH และ NH Collection เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปยุโรป และมีศักยภาพในการเติบโตทั้งในด้านของตัวโรงแรมและชื่อเสียงของแบรนด์ไปทั่วโลก นอกจากนี้ กลุ่มโรงแรมภายใต้เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปมีความน่าดึงดูด ทั้งในแง่ของทำเลที่ตั้งและคุณภาพของโรงแรม ซึ่งยากที่จะสร้างเครือข่ายได้ใหม่ โดยภายหลังจากการลงทุน กลุ่มโรงแรมดังกล่าวจะยังคงดำเนินงานภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อเสียงของเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ได้แก่ NH Hotels, NH Collection Hotels, nhow Hotels และ Hesperia Resorts
นายดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ กล่าวว่า “การลงทุนครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของไมเนอร์ โฮเทลส์ ซึ่งช่วยให้บริษัทมีโอกาสในการเร่งขยายธุรกิจของเราในระดับโลก ผ่านการลงทุนในเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ซึ่งมีธุรกิจและกลุ่มโรงแรมที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจของเราได้เป็นอย่างดี โดยการลงทุนดังกล่าวมีผลตอบแทนที่น่าสนใจ และมีสภาพคล่องของหุ้นที่สูงในตลาดหลักทรัพย์มาดริด นอกจากนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทและทีมผู้บริหารของเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตตามแผน กลยุทธ์ 5 ปีที่ได้ตั้งไว้ ในฐานะหนึ่งในผู้ถือหุ้นหลัก เราจะช่วยสนับสนุนทีมผู้บริหารของเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องต่อไปและสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาวโดยรวมถึงเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปและผู้ถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งรวมถึง MINT นอกจากนี้ MINT ยังสามารถสนับสนุนโรงแรมในเครือเอ็นเอชด้วยความเชี่ยวชาญในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อสร้างผลการดำเนินงานและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า”
ทั้งนี้ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปจากการเข้าลงทุนของ MINT อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นหลักของเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ MINT มีความเชื่อมั่นในพื้นฐานทางธุรกิจของเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป และมีความยินดีที่จะร่วมงานกับทีมงานผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปจะสร้างผลตอบแทนที่แข็งแกร่งและยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป
ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท: บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจระดับสากล โดยประกอบ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่น บริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย โดยมีร้านอาหารกว่า 2,000 สาขา ใน 27 ประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้าเดอะ พิซซ่า คอมปะนี, สเวนเซ่นส์, ซิซซ์เลอร์, แดรี่ ควีน, เบอร์เกอร์ คิง, ไทย เอ็กซ์เพรส, เดอะ คอฟฟี่ คลับ, เบร็ดทอล์ค (ประเทศไทย) ริเวอร์ไซด์ และเบนิฮานา อีกทั้งยังเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจโรงแรมทั้งในรูปแบบเป็นเจ้าของเอง บริหารจัดการ และร่วมลงทุน โดยมีโรงแรมและเซอร์วิส สวีท ทั้งสิ้น 161 แห่ง ภายใต้เครื่องหมายการค้า อนันตรา, อวานี, โอ๊คส์, ทิโวลี, เอเลวาน่า, แมริออท, โฟร์ซีซั่นส์, เซ็นต์ รีจิส, เรดิสัน บลู, เดอะ โบมอนต์ และโรงแรมในกลุ่มไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ใน 26 ประเทศในในเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง แอฟริกา คาบสมุทรอินเดีย ยุโรป และอเมริกาใต้ นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์จากต่างประเทศ โดยเครื่องหมายการค้าที่บริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายในปัจจุบัน ได้แก่ แก๊ป, บานาน่า รีพับบลิค, บรูคส์ บราเธอร์ส, เอสปรี, บอสสินี่, เอแตม, โอวีเอส, แรทลีย์, อเนลโล่, ชาร์ล แอนด์ คีธ, เพโดร, สวิลลิ่ง เจ. เอ. เฮ็งเคิลส์, โจเซฟ โจเซฟ และไมเนอร์ สมาร์ท คิดส์ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.minorinternational.com
ข้อมูลเกี่ยวกับเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป: เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป เป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจโรงแรม โดยจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์มาดริด ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจโรงแรม 382 แห่งและมีจำนวนห้องพักรวมเกือบ 59,350 ห้องใน 30 ประเทศทั่วทวีปยุโรป อเมริกา และแอฟริกา รวมถึงเมืองสำคัญ เช่น อัมสเตอร์ดัม, บาร์เซโลนา, เบอร์ลิน, โบโกตา, บรัสเซลส์, บัวโนสไอเรส, ดึสเซลดอร์ฟ, แฟรงค์เฟิร์ต, ลอนดอน, มาดริด, เม็กซิโกซิตี้, มิลาน, มิวนิก, นิวยอร์ก, โรม และเวียนนา สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.nh-hotels.com