MicroBitcoin (MBC) ทำการปรับปรุงเครือข่ายในเดือนตุลาคม 2562 ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงครั้งสำคัญในการทำลายวอลลุ่มที่ไม่มีการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่การทำ Bitcoin Hard Fork การปรับปรุงนี้จะช่วยขจัดความคลุมเครือของการดำเนินการ และทำให้ชุมชนผู้ใช้สามารถรับรู้ได้ถึงปริมาณเหรียญและการหมุนเวียนได้อย่างแท้จริง
MBC ประสบความสำเร็จในการทำ Hard Fork ที่บล็อกเชนบิตคอยน์ลำดับที่ 525,000 ซึ่งเป็นโปรโตคอลการชำระเงินแบบเพียร์ทูเพียร์ที่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมน้อยมากเพียง 0.0001% เมื่อเทียบกับบิตคอยน์และมาพร้อมอัตราการทำธุรกรรมต่อวินาทีมากยิ่งขึ้น ในเดือนพฤษภาคม 2561 และหลังจากที่การทำ Hard Fork เสร็จสิ้นลง MBC ก็ได้รับเสียงตอบรับในแง่ดีเข้ามาอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสถียรภาพการขุด หรือความรวดเร็วในการทำงานของเครือข่าย จนมาถึงการอัพเกรดครั้งล่าสุดนี้ ซึ่งทีมพัฒนาหลักของ MBC ระบุว่า จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในหมู่ผู้มีส่วนร่วมและผู้สนับสนุนให้มากขึ้นไปอีก
เครือข่ายใหม่นี้จะถูกเปิดตัวบนบล็อกเชนลำดับที่ 1,137,200 ของเครือข่าย MBC ในเวลาประมาณ 11.00 ตามเวลาสากลเชิงพิกัด (UTC) ของวันที่ 9 ตุลาคม 2562 โดยทีมพัฒนาแนะนำให้สมาชิกทั้งหมดของ MBC ละเว้นการดำเนินการหรือทำธุรกรรมใด ๆ ในบล็อกที่อยู่ก่อนหน้าและถัดจากบล็อกดังกล่าวไป 100 บล็อก
การอัพเกรดครั้งใหญ่ของ MBC ประกอบด้วยฟีเจอร์สำคัญ ดังต่อไปนี้
[ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคของ MicroBitcoin]
* การทำลายเหรียญ MBC ประมาณ 80% จากทั้งหมด 1.7 แสนล้านเหรียญ ซึ่งจะถูกเปิดออกในระหว่างการทำ Bitcoin Hard Fork แต่ไม่มีการใช้งานจริง
ระหว่างการทำ Hard Fork ด้วยการสุ่มยิงบิตคอยน์บนบล็อกเชนลำดับที่ 525,000 ผู้ถือบิตคอยน์จะสามารถทำการแลกเปลี่ยน MicroBitcoins (MBCs) ได้ในอัตราส่วน 1: 10,000 ขณะที่ MBC ซึ่งไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ บนบล็อกอันดับที่ 525,001 จนกระทั่งมีการเปิดตัวเครือข่ายจะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปและถูกทำลายในที่สุด โดยปัจจุบันพบว่า มี MBC ที่มีการเคลื่อนไหวให้เห็นอยู่ราว 2.7 หมื่นล้านเหรียญจากที่มีอยู่ทั้งสิ้น 2.7 ล้านบิตคอยน์ จึงเท่ากับว่า MBC จำนวน 1.4 แสนล้านเหรียญที่ไม่มีการเคลื่อนไหวจะถูกทำลายลง หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 2 ใน 3 ของ MBC ที่มีอยู่ทั้งหมด 2.1 แสนล้านเหรียญที่จะหายไป
* ลดรางวัลตอบแทนและการสร้างมลภาวะจากการขุดตามสูตรการมอบรางวัลสำหรับการร่วมขุด
ขณะที่ปัจจุบันมีการมอบรางวัลแก่นักขุดเหรียญเป็นค่าตอบแทน 12,500 MBC ต่อการขุดเหรียญหนึ่งบล็อกในหนึ่งนาที แต่เครือข่ายใหม่จะปรับลดรางวัลลงเหลือเพียง 5,500 MBC ต่อบล็อก เท่ากับว่าจะทำให้ปริมาณการขุดลดลงราว 44% โดยเปลี่ยนจากการกำหนดรางวัลเอาไว้ตายตัวในแต่ละบล็อกเหมือนบิตคอยน์ มาเป็นการค่อย ๆ ปล่อยรางวัลออกมาอย่างช้า ๆ เช่นเดียวกับการตอบรางวัลตอบแทนการขุดตามสูตรของ Monero (XMR)
* เปลี่ยนอัลกอริทึมฉันทามติมาเป็น YesPower PoW และลดข้อจำกัดด้านขนาดของบล็อกลง
ในขณะที่ rainforest v2 aka RFv2 ทำให้การตรวจสอบบล็อกช้าลงอย่างไร้ประสิทธิภาพ แต่ YesPower ได้ถูกออกแบบมาให้มีความเป็น CPU-friendly, GPU-unfriendly และ FPGA/ASIC-neutral หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ โปรโตคอลนี้จัดว่ามีประสิทธิภาพในการคำนวณเมื่อใช้งานกับ CPU ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แต่จะไม่มีประสิทธิภาพมากนักเมื่อต้องทำงานร่วมกับ GPU ที่มีใช้กันอยู่ตอนนี้ ขณะเดียวกัน ขนาดของบล็อกยังถูกลดไซส์ลงเหลือเพียง 300kb เพื่อให้เครือข่ายมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ป้องกันการเกิดบล็อกสแปมมิ่ง และเพิ่มความสามารถการแข่งขันด้านค่าธรรมเนียมในตลาด
* ล็อคปริมาณการออกเหรียญ MBC แบบ pre-mined ในเชิงเทคนิคไว้ที่ 50% และอีก 50% จะถูกเก็บสำรองไว้
เหรียญ MBC จำนวน 5 พันล้านเหรียญ หรือ 50% ของเหรียญที่ถูกปล่อยออกมาในแบบ pre-minded ทั้งหมด 1.05 หมื่นล้านเหรียญภายใต้การดำเนินการของมูลนิธิ ทีมพัฒนา และผู้สนับสนุนบล็อกเชนลำดับที่ 535,000 จะถูกล็อคปริมาณไว้ในเชิงเทคนิคไปจนถึงปี 2564 ขณะที่เหรียญอีก 50% ที่เหลืออยู่จะไม่มีการนำออกมาขาย แต่เก็บสำรองไว้เผื่อกรณีที่ตลาดถูกแทรกแซงหรือเกิดการบิดเบือนมูลค่า
* เหรียญ MBC มีหมุนเวียนอยู่ในเครือข่ายใหม่จำนวน 4.6 หมื่นล้านเหรียญ และลดลงจากเหรียญที่มีอยู่ทั้งหมด 2.1 แสนล้านเหรียญเหลือเพียง 6.1 หมื่นล้านเหรียญ
ปัจจุบัน มีเหรียญ MBC ที่เห็นว่ามีความเคลื่อนไหวในระหว่างการทำ Hard-Forking อยู่จำนวน 2.7 หมื่นล้านเหรียญ โดยมีเหรียญที่ถูกขุดออกไปแล้วราว 8.8 พันล้านเหรียญ และเหรียญที่ถูกปล่อยออกมาแบบ pre-minded อีก 1.05 หมื่นล้านเหรียญ โดยเมื่อพิจารณาจากจำนวนเหรียญทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 4.6 หมื่นล้านเหรียญ และหักออกจากเหรียญที่จะถูกล็อคไว้จำนวน 1.05 หมื่นล้านเหรียญแล้ว จะพบว่ามีเหรียญเหลือหมุนเวียนอยู่ในระบบราว 3.6 หมื่นล้านเหรียญ เท่ากับว่าเหรียญ MBC จำนวน 1.5 แสนล้านเหรียญจากที่มีอยู่ทั้งหมด 2.1 แสนล้านเหรียญจะหายไปจากระบบในเครือข่ายใหม่ของ MBC นี้ หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 70% ของปริมาณเหรียญที่มีอยู่
เครือข่ายใหม่นี้จะเปิดตัวออกมาพร้อมกับการปรับปรุงครั้งใหญ่ เพื่อมอบแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพเพื่อการใช้งานคริปโตเคอเรนซี่ในสถานการณ์จริง และ MBC ก็จะกลายมาเป็นรากฐานสำคัญสำหรับลูกค้าและบริษัททั้งหลายในการทำธุรกรรมแบบ P2P
รูปภาพ – https://photos.prnasia.com/prnh/20191008/2602340-1