1

Michael Kors เข้าซื้อธุรกิจของผู้ถือลิขสิทธิ์แบรนด์ในประเทศจีน

นิวยอร์ก–(บิสิเนส ไวร์)–1 มิ.ย. 2016

Michael Kors มีความยินดีที่จะประกาศว่า เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2016 บริษัทได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการเข้าซื้อธุรกิจ Michael Kors (HK) Limited ซึ่งเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์แบรนด์ Michael Kors แต่เพียงผู้เดียวในประเทศจีนและบางประเทศในเอเชีย โดยเป็นการซื้อด้วยเงินสด 500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลง

การเข้าซื้อธุรกิจครั้งนี้ได้รับการอนุมัติโดยสมาชิกอิสระในคณะกรรมการบริหารของบริษัท โดยได้รับคำชี้แนะจากคณะกรรมการพิเศษ (Special Committee) ซึ่งล้วนเป็นกรรมการบริหารอิสระที่รับผิดชอบการประเมินเงื่อนไขการซื้อกิจการ ทางคณะกรรมการพิเศษได้จ้างที่ปรึกษาด้านกฎหมายและการเงินอิสระเพื่อให้ความช่วยเหลือในการประเมินและเจรจาต่อรองเงื่อนไขการเข้าซื้อกิจการและข้อตกลงซื้อ (Purchase Agreement) ธุรกิจในเกรทเทอร์ไชน่าแห่งนี้ทำรายได้รวมทั้งสิ้น 197 ล้านดอลลาร์ในรอบปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2016 และมีร้านค้าปลีก 91 แห่งที่เปิดดำเนินการโดยบริษัท และร้านค้าปลีก 6 แห่งตามสถานที่ท่องเที่ยวในจีน ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน สำหรับในปีงบการเงิน 2017 คาดว่าธุรกิจดังกล่าวจะมียอดขายสุทธิจากการค้าปลีกประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นการสะท้อนยอดขายในช่วงเวลา 10 เดือนหลังเสร็จสิ้นการเข้าซื้อธุรกิจ ขณะเดียวกัน คาดว่าการเข้าซื้อธุรกิจจะไม่ส่งผลต่อกำไรต่อหุ้น เมื่อใช้หลักการวัดผลทางการเงินที่เป็นไปตามการบัญชีทั่วไป (GAAP) และคาดว่าจะส่งผลให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น เมื่อใช้หลักการวัดผลทางการเงินที่ไม่เป็นไปตามการบัญชีทั่วไป (Non-GAAP) ซึ่งยังไม่รวมค่าใช้จ่ายจากการซื้อกิจการที่เกิดครั้งเดียวรวมเป็นเงิน 15 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ คาดว่าการเข้าซื้อธุรกิจครั้งนี้จะส่งผลให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นในปีงบการเงิน 2018 เป็นต้นไป

“เราตื่นเต้นเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการเข้าซื้อผู้ถือลิขสิทธิ์แบรนด์ในเกรทเทอร์ไชน่า” จอห์น ดี ไอดอล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว “อย่างที่ท่านทราบ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราทำงานอย่างหนักร่วมกับหุ้นส่วนผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในภูมิภาคนี้ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน สร้างแบรนด์ และทำให้แบรนด์ Michael Kors เป็นที่ยอมรับมากขึ้นในตลาดจีน เราเชื่อว่าแบรนด์ของเรามีความแข็งแกร่งมากขึ้นในเกรทเทอร์ไชน่า จึงถึงเวลาอันเหมาะสมแล้วที่เราจะรวมดินแดนนี้เป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของเรา และใช้ประโยชน์ให้เต็มที่จากศักยภาพการเติบโตที่มีอยู่มากมายในภูมิภาคนี้”

การใช้หลักการวัดผลทางการเงินที่ไม่ได้เป็นไปตามการบัญชีทั่วไป (NON-GAAP FINANCIAL MEASURES)

เอกสารฉบับนี้มีการกล่าวถึงหลักการวัดผลทางการเงินที่ไม่ได้เป็นไปตามหลักการบัญชีทั่วไป ซึ่งเกี่ยวข้องกับต้นทุนที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการเข้าซื้อผู้ถือลิขสิทธิ์แบรนด์ในเกรทเทอร์ไชน่า บริษัทใช้หลักการวัดผลทางการเงินที่ไม่ได้เป็นไปตามหลักการบัญชีทั่วไป และวิธีการวัดผลอื่นๆ เพื่อประเมินประสิทธิภาพการดำเนินงาน และเพื่อให้สะท้อนแนวทางที่บริษัทปฏิบัติและพิจารณาธุรกิจของบริษัท บริษัทเชื่อว่าการแยกรายการที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำจะช่วยให้คณะบริหารและนักลงทุนได้เปรียบเทียบประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยยึดการดำเนินงาน ณ ปัจจุบัน ทั้งนี้ แม้บริษัทมองว่าการวัดผล non-GAAP จะเป็นเครื่องมือเสริมการวัดผลที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์ผล แต่การวัดผลดังกล่าวไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อแทนที่ หรือใช้แทนจำนวนๆใดที่แสดงอยู่ในงบการเงินรวมซึ่งมีการเตรียมไว้ให้สอดคล้องกับ GAAP ของสหรัฐ และอาจจะแตกต่างจากการวัดผล non-GAAP ที่บริษัทอื่นรายงาน

เกี่ยวกับ MICHAEL KORS

Michael Kors คือดีไซเนอร์ผู้ออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องประดับหรูที่มีชื่อเสียงระดับโลกและกวาดรางวัลมาแล้วมากมาย เขาก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 1981 และปัจจุบันผลิตสินค้ามากมายภายใต้แบรนด์ Michael Kors Collection, MICHAEL Michael Kors และ Michael Kors Mens ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้า นาฬิกา เครื่องประดับ เสื้อผ้าพร้อมใส่ และน้ำหอม ทั้งนี้ Michael Kors เปิดร้านจำหน่ายสินค้าในเมืองใหญ่ทั่วโลกผ่านการบริหารเองโดยตรงและการให้สิทธิ์กับตัวแทนจำหน่าย ทั้งในนิวยอร์ก เบเวอร์ลีฮิลส์ ชิคาโก ลอนดอน มิลาน ปารีส มิวนิก อิสตันบูล ดูไบ โซล โตเกียว และฮ่องกง

ข้อความที่เป็นลักษณะการคาดการณ์ในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีข้อความที่เป็นลักษณะการคาดการณ์ในอนาคต ผู้อ่านไม่ควรยึดถือข้อความคาดการณ์มากเกินไป เพราะข้อความเหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากความไม่แน่นอนและปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ซึ่งล้วนคาดเดาได้ยากและอาจอยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ข้อความที่เป็นลักษณะการคาดการณ์ในอนาคตจะมีข้อมูลเกี่ยวกับคาดการณ์ผลลัพธ์และผลการดำเนินงานในอนาคตของบริษัท ซึ่งรวมถึงรายละเอียดของกลยุทธ์ทางธุรกิจ ข้อความคาดการณ์มักจะมีคำว่า “อาจจะ” “จะ” “น่าจะ” “เชื่อว่า” “คาดว่า” “คาดหมาย” “ตั้งใจ” “วางแผน” “คาดคะเน” หรือคำอื่นๆที่มีความหมายในทำนองเดียวกัน ข้อความที่เป็นลักษณะการคาดการณ์ในอนาคตในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้อ้างอิงจากสมมติฐานที่ได้จากประสบการณ์ของผู้บริหาร รวมถึงการรับรู้ข้อมูลในอดีต สภาพการณ์ในปัจจุบัน ความคาดหมายในอนาคต และปัจจัยอื่นๆที่ผู้บริหารคิดว่ามีความเหมาะสมตามสถานการณ์ ผู้อ่านควรทำความเข้าใจว่าข้อความเหล่านี้มิใช่เครื่องรับประกันผลลัพธ์หรือผลการดำเนินงานใดๆ เพราะข้อความเหล่านี้ประกอบด้วยสมมติฐาน ความเสี่ยง และความไม่แน่นอน ทั้งที่ทราบและไม่ทราบ แม้แต่ละบริษัทเชื่อว่าข้อความที่เป็นลักษณะการคาดการณ์ในอนาคตเหล่านี้อยู่บนพื้นฐานของสมมติฐานที่สมเหตุสมผล แต่ผู้อ่านก็ต้องตระหนักว่ามีปัจจัยอีกมากมายที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการทางการเงินหรือผลการดำเนินงานที่แท้จริง และอาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงออกมาแตกต่างอย่างมากจากที่คาดการณ์ไว้ สามารถอ่านปัจจัยทั้งหมดนี้ได้ในส่วน “ปัจจัยเสี่ยง” และในรายงานประจำปี Form 10-K สำหรับปีงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 28 มีนาคม 2015 (File No. 001-35368) ซึ่งได้มีการยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐ ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2015

รับชมข่าวต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: http://www.businesswire.com/news/home/20160601005614/en

ติดต่อ:
นักลงทุนสัมพันธ์:
Michael Kors Holdings Limited
Krystyna Lack, 201-691-6133
VP, Treasurer and Investor Relations
InvestorRelations@MichaelKors.com
หรือ
ICR, Inc.
Jean Fontana, 203-682-1214
jean.fontana@icrinc.com
หรือ
สื่อมวลชน:
ICR, Inc.
Alecia Pulman, 646-277-1231
KorsPR@icrinc.com