Lampe Berger Paris จัดปาร์ตี้ Ladies Night หอมกรุ่นกลิ่นรัญจวนใจ ลิ้มรสสุนทรียะเครื่องดื่มอาหารสุดวิเศษ
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้วสำหรับสาวกเครื่องดื่มชั้นเลิศและอาหารสุดอร่อยว่าต้องไม่พลาดมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลก (World Gourmet Festival) ซึ่งจัดขึ้นทุกปีโดยโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ โดยเฉพาะโอกาสพิเศษสุดที่แบรนด์ ลอมป์ เบอร์ชเย่ ปารีส (Lampe Berger Paris) ได้จัดงาน “Ladies Night” ภายใต้ธีม Lampe Berger Cocktail Discovery เพื่อรังสรรค์รสชาติค็อกเทลและ CANAPE ทั้ง 5 เมนู โดยได้รับแรงบันดาลใจจากกลิ่นน้ำหอมถึง 5 กลิ่น จาก ICONIC EXPLORATION DREAM COLLECTION สร้างสรรค์ผ่านมิกซ์โซโลจิสต์ระดับเวิลด์คลาส ร่วมมือกับ Anantara Executive Chef พร้อมออกแบบให้มื้อค่ำอันแสนวิเศษนี้ตราตรึงใจหนุ่มสาวสังคมที่มีสไตล์ เซเลบริตี้และผู้ร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์หรูหรา อบอุ่น และสนุกสนานในสไตล์ Paris Chic
เรียกได้ว่าทุกพื้นที่ในโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยกลุ่มนักชิมจากไทยและนานาชาติที่เดินทางมาร่วมงานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลก (World Gourmet Festival) ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 19 เพื่อลิ้มรสเมนูอาหารและเครื่องดื่มสุดพิเศษ และเมื่อเดินไปยัง The Aqua ก็พบการจัดงานที่น่าตื่นตาตื่นใจจากเจ้าภาพอย่าง บริษัท เบอร์เจอร์ โพรดักส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท Produits Berger SAS บริษัทผู้ผลิตและต้นกำเนิดตะเกียงน้ำหอมแบรนด์ ลอมป์ เบอร์ชเย่ ปารีส (Lampe Berger Paris) ประเทศฝรั่งเศส ออกไอเดียจัดงาน “Ladies Night” ภายใต้ธีม Lampe Berger Cocktail Discovery ให้ความรู้สึกพิเศษและแปลกใหม่ทุกอณู เหมือนอยู่ในงานสังสรรค์สุดชิคของชาวปารีเซียง
สำหรับเมนูค็อกเทลและคานาเป้ (CANAPE) มื้อค่ำภายในงานปาร์ตี้ครั้งนี้ ยังคงผสมผสานความร่วมมือของนักผสมเครื่องดื่ม หรือ มิกซ์โซโลจิสต์ (Mixologist) และอนันตรา เอ็กเซคคูซีฟ เชฟ (Anantara Executive Chef) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกลิ่นน้ำหอมลอมป์ เบอช์เย่ ปารีส ในตระกูล ICONIC EXPLORATION DREAMS ที่มีกลิ่นหอมรัญจวนใจ ช่วยเติมเต็มความสุข และบันทึกประสบการณ์นักดื่มให้สมบูรณ์แบบ สร้างสุนทรียรสแห่งความเริงร่า หวานซึ้ง นุ่มละมุนได้อย่างน่าอัศจรรย์
เมื่อแขกเหรื่อมากันพร้อมแล้ว เครื่องดื่มต้อนรับเพื่อกระตุ้นต่อมรับรสทั่วลิ้นเรียกความสดชื่นก็เริ่มถูกจัดแจงเสิร์ฟไว้ตรงหน้า ค็อกเทลแก้วแรกคือ Seasons Change เครื่องดื่มสีสันดึงดูดตาจาก JW Gold ผสมชาพีช ลิ้นจี่ มะนาว อ้อย ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากกลิ่น Fresh Mint at The Riad ให้กลิ่นตั้งต้นของมะนาว กระวานเทศ ตามด้วยใบมิ้นต์ ชาเขียว และมะลิ ไม้รมควัน ช่วยให้จิตใจสงบ แต่กระตือรือร้นอยู่ในที และกระตุ้นการทำงานของระบบทางเดินอาหาร มา
พร้อมกับคานาเป้ พาร์มาแฮม เฟต้าชีส มิ้นต์แกรโมลาตา ครอสตินี่ ขนมปังทาหน้าด้วยปลาแองโชวี่ ตับบด มะกอกบด ซึ่งถูกจัดแจงอยู่บนภาชนะไอเดียเลิศที่นำร่มกระดาษจับคว่ำลงแล้วจัดดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์โทนชมพู อย่างกล้วยไม้ กุหลาบ วางไว้ภายในปิดด้วยกระจกใส สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับหนุ่มสาวสังคมที่มีสไตล์ เซเลบริตี้และผู้ร่วมงานหลากหลายแวดวงสังคมอย่างที่สุด
เมนูที่สองสร้างความเซอร์ไพรส์ด้วยการปรุงขณะเสิร์ฟ กลายเป็น 7th Heaven ค็อกเทลจาก Tres Magueys น้ำมะม่วงสด น้ำมะนาว น้ำเชื่อม เซเว่นอัพ แก้วมังกร ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกลิ่น Water Fruit รู้สึกถึงกลิ่นผลไม้ต่างประเทศ ลูกแพร์ แก้วมังกร บัว วานิลลา ไวท์มัสก์ ช่วยให้การหายใจดีขึ้น และมีส่วนช่วยย่อยอาหาร รับประทานคู่กับซัลซ่าแก้วมังกร เมื่อรับประทานคู่กันแล้วรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดจริงๆ เพราะมีทั้งความนุ่มชุ่มคอและหวานหอมปิดท้ายด้วยความสดชื่น ไม่รอช้าก็มาถึงเมนูที่สามซึ่งถูกโหวตให้เป็นขวัญใจนักชิม นั่นคือ Call Up ค็อกเทลที่พรีเซ็นต์อย่างแปลกใหม่ นำขวดคว่ำลงในแก้ว Absolut Vodka เป็นภาชนะรองรับการรังสรรค์ค็อกเทลสีชมพูหวาน ที่มีส่วนผสมจาก Bombay Gin น้ำลิ้นจี่ น้ำมะนาว น้ำเชื่อมกุหลาบ น้ำมะนาวกุหลาบ โดยแรงบันดาลใจจากกลิ่น Paris Chic กลิ่นน้ำหอมยอดนิยมที่ได้จากเบอร์กามอท น้ำค้างยามเช้า นุ่มนวล ละมุนด้วยออริส กุหลาบ ไวโอเล็ต ตามด้วยมะลิ ลิ้นจี่ มัสก์พาวเดอร์ แสดงออกซึ่งความรัก ช่วยให้จิตใจเบิกบานแจ่มใส ไร้ซึมเศร้า เข้ากันได้ดีกับ Finger Food เป็ดรมควัน ปรุงจากเป็ดกงฟีซอสเชอร์รี่ มัสตาร์ดแบบเมล็ด และหัวไชเท้าดอง
อิ่มหนำสำราญกับเมนูของคาวกันแล้วก็มาถึงกลุ่มของหวาน ซึ่งมีความเท่เก๋ไก๋สุดๆ ด้วยการจัดสรรเครื่องดื่มและคานาเป้สำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีให้มีความแตกต่างกัน สำหรับคุณผู้ชายนั้น เสิร์ฟด้วยเมนู Old Fashion ค็อกเทลรสแรงเข้มขรึมจาก Maker’s Mark น้ำตาลทรายแดง แองโกสตูราบิตเตอร์ สารสกัดจากส้ม ได้แรงบันดาลใจจากกลิ่น Orange Blossom สดชื่นด้วยกลิ่นส้ม เนโรลีหรือดอกจากต้นส้ม และมะลิ รับประทานคู่กับมูสส้มไวท์ช็อกโกแลต กลิ่นดอกส้ม พร้อมเสิร์ฟด้วยเม็ดกาแฟด้านล่าง กินไปสูดกลิ่นกาแฟไปด้วย ช่วยบรรเทาความรู้สึกเหนื่อยล้า ผ่อนคลายความเครียดได้เป็นอย่างดี ส่วนคุณผู้หญิงนั้น มีโอกาสได้ลิ้มรสเมนู Maracuja Del Basil ค็อกเทลจาก Ketel One vodka ฟรานเจลิโค น้ำสับปะรด โหระพา เสาวรส น้ำเชื่อมมะพร้าว คิดค้นจากกลิ่น Lemon Bubble สดชื่นเต็มพิกัดกับมะนาว ส้ม ส้มโอ ชา ดอกฟรีเซีย น้ำตาลวานิลลา ไวท์มัสก์ รับประทานคู่กับช็อกโกแลตที่มีรสชาติเหมือนไวน์ ราสเบอร์รี่ ให้รสชาติเหมือนลูกกวาด
หลังจากได้ลิ้มชิมรสอาหารและเครื่องดื่มทั้ง 5 เมนูแล้ว ต้องยอมรับและชื่นชมในความสร้างสรรค์ที่ดัดแปลงกลิ่นหอมจากแบรนด์น้ำหอมชื่อดังระดับโลกให้เป็นแรงบันดาลใจคิดค้นเมนูค็อกเทลแสนวิเศษ เสมือนเป็นศิลปะการดื่มที่ลงตัว ยากจะหารับประทานได้ง่ายๆ รวมทั้งเมนูคานาเป้ที่เข้ากันได้ดีกับแต่ละเมนูเหลือเกิน ตลอดจนธีมงานครั้งนี้ก็แปลกและแตกต่างทำให้งาน “Ladies Night” ภายใต้ธีม Lampe Berger Cocktail Discovery เติมเต็มความสุขและรอยยิ้มมากกว่าครั้งไหนๆ
