KIAT รุกตลาดขนส่งก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) พลังงานยุค 4.0
ด้วยฟลีทขนส่ง LNG ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
29 สิงหาคม 2560: บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ผู้นำด้านการให้บริการการขนส่งวัตถุอันตราย และสินค้าพิเศษในประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) เดินหน้าขยายธุรกิจขนส่งเข้าสู่ตลาดการขนส่งก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG (Liquefied Natural Gas) รับเทรนด์การใช้พลังงานใหม่ในอนาคต โดยสามารถคว้างานประมูลการขนส่ง LNG จาก บมจ. ปตท. 5 ปี มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท นับเป็นฟลีทขนส่ง LNG ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในขณะนี้ พร้อมเปิดเผยผลดำเนินงานไตรมาส 2/2560 โดยมีรายได้รวม 222.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.48% จากไตรมาส 2/2559
นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT เปิดเผยว่า ล่าสุด บริษัทฯ ได้ชนะการประมูลงานขนส่งก๊าซ LNG หรือ ก๊าซธรรมชาติเหลวจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นงานขนส่ง LNG จากมาบตาพุดไปยังสถานีแม่ที่จังหวัดราชบุรี เป็นระยะเวลา 5 ปี รวมมูลค่าสัญญาการขนส่งรวมกว่า 100 ล้านบาท ขณะนี้ KIAT กำลังเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามสัญญา ซึ่งจะเริ่มการขนส่งดังกล่าวในเดือนตุลาคมที่จะถึง
นายคีรินทร์ กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจของ KIAT ในปี 2560 คือการเติบโตในธุรกิจขนส่งซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ ควบคู่กับการเพิ่มรายได้จากธุรกิจใหม่ การได้ขยายงานขนส่งในธุรกิจ LNG นอกจากจะเป็นหนึ่งในการดำเนินงานตามแผนงานแล้ว ยังเป็นการเตรียมความพร้อมของ KIAT ในการก้าวเข้าสู่การขนส่งพลังงานรูปแบบใหม่ ๆ ในยุค Thailand 4.0 และพลังทางเลือกอื่น ๆ ในอนาคต ตามนโยบายภาครัฐที่ต้องการยกระดับคุณภาพพลังงาน โดยเฉพาะคุณภาพก๊าซที่นำมาใช้ในประเทศ
“KIAT มีความพร้อม มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการขนส่งวัตถุอันตรายและสินค้าพิเศษมากว่า 20 ปี สำหรับงานขนส่งก๊าซ LNG ให้กับ ปตท. ซึ่งเป็น องค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยสูงสุด ต้องใช้รถขนส่งที่ออกแบบและสร้างตามมาตรฐานสากล และ ผ่านการตรวจสอบจากกรมธุรกิจพลังงานและกรมการขนส่งทางบก รวมทั้งใช้พนักงานขับรถที่มีใบอนุญาตขับขี่รถประเภท 4 ซึ่งเป็นใบอนุญาตขับขี่เฉพาะสำหรับภาคการขนส่งสินค้าวัตถุอันตราย นอกจากนี้ การจัดหารถจะพนักงานขับขี่ตามมาตรฐานแล้ว ทาง KIAT ยังได้เพิ่มอุปกรณ์พิเศษ ด้วยการติดตั้ง Guardian System ระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถ เพื่อยกมาตรฐานความปลอดภัยในการขนส่งก๊าซ LNGให้มีความปลอดภัยสูงสุด” นายคีรินทร์กล่าว
– 2 –
อนึ่ง นายคีรินทร์ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2560 ว่า บริษัทฯ และบริษัทในกลุ่มเกียรติ ธนาขนส่ง มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 13.48% หรือเพิ่มขึ้น 26.40 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2559 โดยมีรายได้รวม 222.31 ล้านบาท รายได้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวมาจากรายได้จากการบริการ-ขนส่งสินค้า และการขายสินค้าซึ่งเป็นรายได้หลัก ในส่วนของต้นทุนร่วม ในไตรมาส 2/2160 บริษัทมีต้นทุนรวมเพิ่มขึ้น 24.98% หรือเพิ่มขึ้น 31.36 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2559 เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับงานสัญญารับจ้างขนส่งเพิ่มขึ้น จึงทำให้มีการเพิ่มจำนวนรถขนส่ง และพนักงาน
“สำหรับไตรมาส 2/2560 บริษัทฯ ยังคงมีกำไรสุทธิ 22.15 ล้านบาท ถึงแม้จะมีกำไรลดลง 6.26 ล้านบาท จากไตรมาส 2/2559 แต่เป็นเพราะเราได้รับสัญญาจ้างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้เราต้องมีการเพิ่มหน่วยงานสนับสนุนการทำงานเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมีการควบคุมต้นทุนรวมในการดำเนินธุรกิจ ควบคู่กับการเพิ่มรายได้จากการรุกตลาดขนส่งใหม่ อย่างการขนส่งก๊าซ LNG ให้ ปตท. และการเพิ่มรายได้จากธุรกิจใหม่อย่าง Guardian System ระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าองค์กรเป็นอย่างดี” นายคีรินทร์กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ ก๊าซ LNG เป็นก๊าซธรรมชาติที่ถูกทำให้กลายเป็นของเหลว โดยมีความแตกต่างกับ CNG ที่สถานะ โดยที่ LNG มีสถานะเป็นของเหลว แต่ CNG นั้นมีสถานะเป็นก๊าซ ประโยชน์ของการแปลงสภาพของก๊าซธรรมชาติให้เป็นของเหลวอย่างก๊าซ LNG นั้น เพื่อประโยชน์ในการขนส่งก๊าซธรรมชาติจำนวนมากไปยังที่ต่าง ๆ ทั้งนี้ ก๊าซ LNG จะถูกให้ระเหยกลับมาสู่สถานะก๊าซอีกครั้ง ก่อนถูกนำไปใช้ประโยชน์ด้านพลังงาน เช่น นำไปผลิตไฟฟ้า นำไปเป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม หรือนำไปเป็นเชื้อเพลิงในยานพาหนะ LNG นับเป็นอีกทางเลือกของพลังงานในอนาคตของประเทศ