Keppel Urban Solutions Pte. Ltd. บริษัทในเครือของ Keppel Corporation Limited ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) แบบไม่มีผลผูกพันธ์กับ Envision บริษัทจัดการพลังงานอัจฉริยะชั้นนำระดับโลก โดยทั้งสองบริษัทจะนำความเชี่ยวชาญและทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์ร่วมกัน เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้พลังงานใหม่และสะอาด รวมถึงการสร้างเมืองอัจฉริยะทั่วโลก
(รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/635816/Keppel_Urban_Solutions_Envision.jpg )
Keppel Urban Solutions ตั้งใจที่จะใช้เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้าน Internet of Things (IoT) ตลอดจนระบบนิเวศการให้บริการและโซลูชั่นพลังงานของ Envision เพื่อพัฒนาธุรกิจและนำเสนอบริการพัฒนาชุมชนเมืองครบวงจร และสำหรับ Envision ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความเป็นผู้นำในด้านแพลตฟอร์ม IoT อัจฉริยะ รวมถึงโซลูชั่นเมืองอัจฉริยะและพลังงานอัจฉริยะที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรม โดยอาศัยความชำนาญในอุตสาหกรรมของ Keppel Group
คุณซินดี้ ลิ้ม กรรมการผู้จัดการ Keppel Urban Solutions กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบพันธมิตรที่มีเป้าหมายเดียวกันอย่าง Envision ซึ่งเป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์ม IoT อัจฉริยะและพลังงานหมุนเวียน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพใหม่ๆ และคว้าโอกาสการเติบโตในตลาดที่มีอนาคตสดใส เราตั้งตารอความร่วมมือที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย โดยเราได้ผนวกความเชี่ยวชาญทางธุรกิจของ Keppel Group เข้ากับเทคโนโลยีของ Envision เพื่อสร้างสรรค์โซลูชั่นสำหรับชุมชนเมืองที่มีความยั่งยืน”
คุณไมเคิล ติง กรรมการบริหารกลุ่มบริษัท Envision กล่าวว่า “เราเชื่อว่าพลังงานมีความสวยงาม เราสามารถสร้างสรรค์พลังงานที่สะอาด ปลอดภัย และมีเหลือเฟือ ซึ่งจะเข้ามาแก้ปัญหาใหญ่ของโลก แต่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Keppel เรารอคอยที่จะได้แบ่งปันผลลัพธ์อันน่าตื่นเต้นร่วมกัน และหวังว่าจะสามารถนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาช่วยพัฒนาโซลูชั่นให้ดียิ่งขึ้น เพื่อผลักดันการพัฒนาพลังงานสะอาดไปอีกขั้นหนึ่ง”
ความร่วมมือครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ Keppel Urban Solutions สามารถนำ EnOS(TM) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม IoT ด้านพลังงานแบบโอเพนซอร์สแพลตฟอร์มแรกและใหญ่ที่สุดในโลกของ Envision มาใช้พัฒนาโครงการต่างๆทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในสิงคโปร์เท่านั้น EnOS(TM) ครอบคลุมการใช้งานหลากหลาย ทั้งการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม เครือข่ายและการจัดเก็บพลังงาน อาคารอัจฉริยะ ตลอดจนการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า แพลตฟอร์มนี้ช่วยจับคู่อุปสงค์ลูกค้าปลายน้ำกับอุปทานพลังงานหมุนเวียนต้นน้ำ ด้วยการผสานหน่วยผลิตพลังงานตั้งแต่ระดับครัวเรือน ชุมชน ไปจนถึงเมือง โดยใช้เซ็นเซอร์ แอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูล
ทั้งนี้ คาดว่า MOU ที่กล่าวถึงข้างต้นจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกำไรต่อหุ้น รวมถึงสินทรัพย์จับต้องได้สุทธิต่อหุ้นของ Keppel Corporation Limited ในปีงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561
เกี่ยวกับ Keppel Urban Solutions
เพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายของ Keppel Group ในการเป็นผู้จัดหาโซลูชั่นพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนในดวงใจของลูกค้า Keppel Urban Solutions จึงได้ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทพัฒนาเขตเมืองครบวงจร โดยอาศัยประสบการณ์และผลงานอันยอดเยี่ยมด้านการวางแผนและการพัฒนาโปรเจคขนาดใหญ่ในเอเชียแปซิฟิกที่สั่งสมมานานกว่า 20 ปี Keppel Urban Solutions ผสมผสานศักยภาพอันหลากหลายของกลุ่มบริษัททั้งในด้านพลังงาน อสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน และการเชื่อมต่อ เพื่อสร้างชุมชนอัจฉริยะที่น่าอยู่และยั่งยืน
โซลูชั่นของ Keppel Urban Solutions ประกอบด้วยการออกแบบและวางแผนแม่บท การพัฒนาและดำเนินการโครงสร้างพื้นฐานในแนวนอนที่มีประสิทธิภาพ เช่น สาธารณูปโภคอัจฉริยะ ระบบทำความร้อนและความเย็นระดับเขต การเชื่อมต่อและโลจิสติกส์เขตเมือง รวมถึงการจัดการสถานที่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อสร้างชุมชนที่กระฉับกระเฉงและมีส่วนร่วมสูง บริษัทให้บริการแพลตฟอร์มแบบเปิดที่เปิดรับความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำเพื่อสร้างระบบนิเวศโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ
เกี่ยวกับ Envision
Envision เป็นบริษัทจัดการพลังงานอัจฉริยะชั้นนำระดับโลก ซึ่งเป็นเจ้าของ EnOS(TM) แพลตฟอร์ม IoT ด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดโลก ซึ่งจัดการพลังงานมากถึง 100 กิกะวัตต์ ขณะเดียวกัน Envision ยังเป็นบริษัทกังหันลมอัจฉริยะชั้นนำของโลก เป็นผู้ผลิตกังหันลมรายใหญ่อันดับสองของโลก และเป็นผู้จัดหาโซลูชั่นพลังงานลมนอกชายฝั่งรายใหญ่ที่สุดในจีน ทั้งนี้ ด้วยการเข้าไปลงทุนครั้งสำคัญในบริษัทเทคโนโลยีพลังงานชั้นแนวหน้า อาทิ Sonnen, ChargePoint, AutoGrid, Bazefield และอื่นๆ จึงส่งผลให้ Envision ก้าวสู่การเป็นผู้นำการผสมผสานเทคโนโลยี IoT ด้านพลังงานและระบบนิเวศเมืองอัจฉริยะระดับโลก
Envision มีสำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ และมีสำนักงานสาขากระจายอยู่ทั่วเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ ขณะเดียวกัน บริษัทได้ตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา รวมถึงศูนย์วิศวกรรมในเดนมาร์ก เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา พันธกิจของ Envision คือ “การเอาชนะความท้าทายเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน” บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงพลังงานที่สะอาด ปลอดภัย และราคาย่อมเยา และนั่นคือโลกแห่ง “พลังงานที่สวยงาม”
ที่มา: Envision