jobsDB เผย 4 แนวโน้มที่มีผลต่อการจ้างงาน ที่มาแรงที่สุดในปัจจุบัน
jobsDB เผย 4 แนวโน้มที่มีผลต่อการจ้างงาน ที่มาแรงที่สุดในปัจจุบัน
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย 18 กุมภาพันธ์ 2559 – บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด เผยแนวคิด “หลัก 4Ms ของการจ้างงาน: สร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่งในตลาดของการเฟ้นหาบุคลากรแนะองค์กรควรเลือกใช้โซลูชั่นที่เหมาะสมเพื่อช่วยสรรหาบุคลากรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมจัดงานสัมมนาระดับองค์กรประจำปี 2559 ยุคใหม่ของการค้นหาบุคลากรที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่องค์กรให้เล็งเห็นถึงพลังของการศึกษาที่จะช่วยต่อยอดผู้ว่าจ้างและอุตสาหกรรมการจ้างงานให้พัฒนาศักยภาพในสภาพแวดล้อมของตลาดแรงงานที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
มร.เจค แอนดรู หัวหน้าผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท Seek Asia ระบุว่า จากผลการศึกษาและสำรวจพบว่ามี 4 แนวโน้มซึ่งส่งผลและเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดการจ้างงานของตลาดงานในประเทศไทย ที่ทั้งนายจ้างและผู้สมัครงานควรให้ความสนใจและติดตามอย่างใกล้ชิด แนวโน้มดังกล่าวเรียกว่า “4 Ms – The Four Ms of Hiring” ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมตลาดงานไทยที่แสนท้าทายในปีนี้
สำหรับปัจจัยทั้ง 4 อย่างที่กล่าวมานั้นได้แก่ 1. Monitoring (อัตราการเติบโตของผู้สมัครงานที่จับตาดูตลาดงานและโอกาสงานใหม่ๆ) จากผลการสำรวจที่จัดทำโดยบริษัท Seek Asia เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 กับผู้ที่เปลี่ยนงานใหม่พบว่า 58% คือผู้สมัครงานที่มองหางานและเฝ้าติดตามงานใหม่ๆ ที่ลงประกาศงาน ยิ่งเป็นงานที่ตนเองสนใจตลอดเวลา เป็นกลุ่มของผู้หางานที่ตั้งใจสมัครงานทันที ในขณะที่อีก 42%[1] เป็นผู้สมัครงานกลุ่มที่ไม่ได้ติดตามหรือมองหางานเป็นประจำแต่พร้อมสมัครงานถ้าโอกาสมาถึง หรือหากมีงานที่น่าสนใจและเปิดโอกาสให้กับตัวเอง ผลสำรวจยังระบุอีกว่ากลุ่มที่ไม่ติดตามโอกาสงานจะปรับตัวเองไปตามสภาวะตลาดแรงงาน ทั้งนี้ผลการสำรวจนี้ทำให้เราเห็นว่ายังมีตลาดแรงงานกลุ่มใหญ่ที่หลายๆ บริษัทยังไม่มีการเข้าถึง กลยุทธ์การจ้างงานที่ถูกต้องคือคำนึงถึงตลาดการสรรหาบุคลากรที่เข้าถึงผู้สมัครงานที่ตั้งใจหางาน (active candidates) และผู้สมัครงานที่ไม่ได้ตั้งใจหางานแต่ก็พร้อมเปลี่ยนงานและให้โอกาสตนเองเมื่อเจองานที่น่าสนใจ (passive candidates) การที่นายจ้างผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงผู้หางานทั้งสองกลุ่มจะนี้ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานคุณภาพในประเทศไทย
2. Mobile (โลกของมือถือ) ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนประมาณ 20 ล้านคน[2] โดย 82% ใช้เวลาออนไลน์จากสมาร์ทโฟนเฉลี่ย 5.5 ชั่วโมงต่อวัน[3] นั่นแสดงให้เห็นว่าผู้คนส่วนใหญ่ใช้อุปกรณ์มือถือในการค้นหาข้อมูล แนวโน้มนี้ยังส่งผลตลาดโฆษณาตำแหน่งงานบนอุปกรณ์มือถือ และแอพพลิเคชั่นจัดหางานบนสมาร์ทโฟนก็ยังได้รับความนิยมพุ่งสูงขึ้นอีกด้วย การหางาน สมัครงาน ก็เช่นกัน ดังนั้นนายจ้างจึงต้องสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์และองค์กรผ่านมือถือและต้องจัดทำอย่างต่อเนื่องแบบมืออาชีพ รวมถึงผู้สมัครงานเองต้องเข้าถึงและทันต่อเทคโนโลยีด้วยการใช้โมบายแอพในการสมัครงาน
3. Multi-Tasking (HR ต้องจัดการงานที่หลากหลาย) นายจ้างในประเทศไทยมีความกดดันสูงในการสรรหาบุคลากร ทั้งในแง่ของปริมาณผู้สมัครที่ต้องการ คุณภาพและเวลาที่จำกัด อีกทั้งมีงานที่นอกเหนือจากการสรรหาบุคลากร ฝ่ายทรัพยากรบุคคลเองก็ต้องการตัวช่วย ที่จะมาช่วยจัดการให้การจ้างงานที่มีความหลากหลายให้คล่องตัวยิ่งขึ้น – ตั้งแต่การประกาศหางาน การรวบรวมใบสมัคร ไปจนถึงการคัดกรอง การให้คำปรึกษาไปถึงการว่าจ้าง – ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงอิทธิพลของแนวโน้มและเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญต่อการจ้างงานที่มีความซับซ้อน ดังนั้นฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องการหาเครื่องมือที่ช่วยจัดการกระบวนการสรรหาและเครื่องมือการคัดกรองที่ใหม่และเร็วยิ่งขึ้นจาก jobsDB จะช่วยให้นายจ้างประหยัดเวลาในการสรรหาบุคลากร และลดปัญหาการขาดแคลนในการจ้างงาน 4. Matching (ผู้สมัครงานได้งานที่ชอบ ผู้จ้างงานได้คนที่ใช่)
นอกเหนือจากการเปลี่ยนพฤติกรรมของฝ่ายทรัพยากรบุคคลให้มีความตื่นตัวมากขึ้น และผู้สมัครงานเองก็มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปโดยผู้สมัครงานในวันนี้มีความรอบรู้มากยิ่งขึ้น และเลือกศึกษารายละเอียดต่างๆ ขององค์กร ชื่อเสียงบริษัท วัฒนธรรมรวมถึงแผนการอนาคตหน้าที่การงานของผู้สมัครงานเองซึ่งเป็นปัจจัยที่พวกเขาใช้เป็นเครื่องมือในการพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจเลือกงานนั้นๆ นายจ้างแสดงความคิดเห็นว่า ผู้สมัครงานมักมองหานายจ้างที่มีศักยภาพและตรงกับความต้องการเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจสมัครงาน สำหรับในส่วนของผู้ว่าจ้างแนวโน้มนี้ยังหมายถึงการให้โอกาสเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมกับผู้สมัครที่ดีที่สุด ซึ่งทำได้ทั้งสองแนวทางด้วยการใช้โฆษณารับสมัครงานที่มีความเจาะจงและมีความคล่องตัวสูง
แนวโน้มเหล่านี้แสดงให้เห็นความท้าทายของฝ่ายทรัพยากรบุคคล แต่ท้ายที่สุดแล้วจะเป็นผลดีต่อนายจ้างและผู้สมัครงาน เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้คนทั้งสองกลุ่มจำเป็นต้องตีโจทย์แนวโน้มเหล่านี้ให้ออกและศึกษาถึงผลลัพธ์ว่าเป็นไปตามที่พวกเขาต้องการปรับหรือไม่ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับทั้งสองกลุ่มให้เข้าถึงแหล่งข้อมูลที่จะช่วยพวกเขาให้ชนะในการแข่งขัน… job hunting… สำหรับนายจ้าง นั่นคือการมีเครื่องมือและบริการที่ถูกต้องเหมาะสมเพื่อปรับปรุงกระบวนการสรรหาและว่าจ้าง เช่นเดียวกับผู้สมัครทั้งที่มีความตื่นตัวหรือกลุ่มผู้สมัครที่เพิกเฉยกับการหางานก็จำเป็นต้องมีผู้ช่วยที่จะเดินไปด้วยกันในทุกก้าวที่จะพาพวกเขาไปสู่เป้าหมายในหน้าที่การงาน
คุณนพวรรณ จุลกนิษฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า แนวโน้ม 4Ms นี้ แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่ดีของตลาดแรงงาน แม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นภายใต้โซลูชั่นที่ได้รับการพัฒนา แต่เราสามารถสร้างความแข็งแรงให้แก่อุตสาหกรรมเพื่อให้คนหางานเลือกงานที่ใช่และผู้ว่าจ้างเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน พร้อมกล่าวเสริมอีกว่า มั่นใจเลือก jobsDB ให้เป็นพันธมิตรด้านการหางาน มีโซลูชั่นหลากหลายช่วยแก้ปัญหาในการจ้างงาน
jobsDB รู้ถึงความจำเป็นและความต้องการของผู้สมัครงานและนายจ้างดีที่สุด ในเว็บไซต์ jobsDB จึงนำเสนอโซลูชั่นต่างๆ ที่จะช่วยแก้ปัญหาที่สำคัญระหว่างการค้นหางานและว่าจ้าง โดยมีเครื่องมือค้นหาและจับคู่งานที่ช่วยให้ผู้หางานได้ตัวเลือกงานที่เหมาะสมและเพิ่มการรับรู้ไปสู่ผู้ว่าจ้าง (แคมเปญ #Beserached ) และยังช่วยให้ผู้หางานได้รู้จักกับองค์กรต่างๆ มากขึ้น (“รีวิวองค์กร – Company Reviews”) ก่อนสมัคร สำหรับในส่วนของนายจ้างยังมีการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ให้มากขึ้น (“ค้นหาผู้สมัครงาน – Talent Search”) เพื่อช่วยนายจ้างสรรหาบุคลากรที่เหมาะสมอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มร.เจคกล่าว
ล่าสุด jobsDB ประกาศจัดงานสัมมนาระดับองค์กรประจำปี 2559: ยุคใหม่ของการค้นหาบุคลากรที่มีศักยภาพ ในแนวคิด “หลัก 4Ms ของการจ้างงาน: สร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่งในตลาดของการเฟ้นหาบุคลากร ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 ตั้งแต่เวลา 13:00 น. – 16:30 น. ที่ห้องเกรทรูม โรงแรม W กรุงเทพฯ โดยภายในงานจะนำเสนอแนวโน้มการจ้างงานของปี 2559 (The 4Ms of Hiring) และการสนทนาบนเวทีในหัวข้อ “สรรหาอย่างสร้างสรรค์ ทันทุกเทรนด์การจ้างงาน” โดยกล่าวเปิดงานโดย คุณ เจอราล์ดีน วอง หัวหน้าผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท Seek Asia และวิทยากรบนเวทีได้แก่ มร.เจค แอนดรู หัวหน้าผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท Seek Asia และคุณนพวรรณ จุลกนิษฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหารในวงการบริหารงานบุคคลจากองค์กรชั้นนำของประเทศ โดยจะมีผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรและบริษัทจัดหางานต่างๆ กว่า 300 แห่งมาร่วมงานที่จะแวดล้อมไปด้วยการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในมุมมองของวงการแรงงานของประเทศที่จะเพิ่มพูนความรู้ให้กับผู้ร่วมงาน
จ๊อบส์ดีบียังคงเป็นกำลังสำคัญในอุตสาหกรรมการจ้างงานในประเทศ ด้วยการสรรหาตำแหน่งงานให้เพียงพอต่อคนหางานและช่วยให้นายจ้างเลือกผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งงาน ภายใต้ความมุ่งมั่นที่นำเสนอบริการที่ดีที่สุดเพื่อทุกคน เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสได้จัดงานที่เป็นประโยชน์เช่นครั้งนี้ในอนาคต
[1] SEEK Asia Candidate Survey, พฤศจิกายน 2558
[2] Statista portal
[3] ผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2558 (ETDA)
เกี่ยวกับ SEEK Asia
JobStreet.com และ jobsDB เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท SEEK Asia ผู้นำด้านตลาดการสรรหาว่าจ้างบุคลากรออนไลน์ในทวีปเอเชีย SEEK Asia มีสาขาครอบคลุม 7 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย
SEEK Asia จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียในนาม SEEK โดยบริษัทมุ่งมั่นที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนด้วยการช่วยให้ผู้หางานเจองานที่ใช่ โดยขณะนี้ SEEK Asia มีจำนวนผู้ว่าจ้างในระบบมากกว่า 500,000 ราย และคนหางานมากกว่า 24 ล้านคน
เกี่ยวกับ jobsDB (www.jobsDB.com)
จ๊อบส์ดีบี เชื่อว่าในโลกที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน มีโอกาสและความเป็นไปได้อยู่มากมาย: การเริ่มต้นใหม่ อาชีพใหม่ การต้อนรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของอีกหลายสิ่งที่เราได้ช่วยผู้คนค้นหา
ในฐานะผู้นำด้านเว็บไซต์หางาน ที่มีตำแหน่งงานสำคัญในประเทศฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย เราเป็นเว็บไซต์ในดวงใจของผู้หางานในเอเชีย ด้วยทีมงานกว่า 1,000 คนที่มีความสามารถ และข้อมูลเชิงลึกที่เรามี ตลอดจนเทคโนโลยีของเรา จะช่วยให้ผู้หางานพบกับโอกาสที่ดีที่สุดซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ประกอบการ
เราสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา ล่าสุดได้เปิดตัวฟังก์ชั่นการค้นหาด้วยเงิน เดือนที่ให้ผู้หางานค้นหางานที่ตรงกับเงินช่วงเงินเดือนที่ต้องการ ผู้หางานจะได้เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งานเพื่อผลตอบแทนที่ต้องการ ซึ่งที่สุดแล้วจะเป็นการประหยัดเวลาทั้งของนายจ้างและผู้หางาน