Huami เตรียมเปิดสายการผลิต Huangshan-2 ชิป AI รุ่นใหม่สำหรับสายรัดข้อมืออัจฉริยะที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น 50% พร้อมวัดการเต้นของหัวใจได้เร็วขึ้น ในไตรมาส 4 ปีนี้

0
272
image_pdfimage_printPrint

Ramesh Jain บิดาแห่งวงการคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็น Chief Technical Advisor ของ สถาบันวิจัยปัญญาประดิษฐ์ Huami AI Research Institute ประกาศข่าวดังกล่าวในงานประชุมนวัตกรรมครั้งแรกของ Huami ภายใต้ชื่อ “AI to Decode Future”

Huami (NYSE: HMI) สุดยอดแบรนด์สายรัดข้อมืออัจฉริยะที่ติด 1 ใน 5 ของโลก[1] และบริษัทแม่ของ Amazfit ประกาศเปิดตัว Huangshan-2 ชิปปัญญาประดิษฐ์รุ่นที่สองสำหรับสายรัดข้อมืออัจฉริยะในงานประชุมนวัตกรรม “AI to Decode Future” พร้อมกับการเปิดตัวอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ รวมถึงโซลูชั่นบิ๊กดาต้าและปัญญาประดิษฐ์ด้านสุขภาพหลากหลายรุ่น นอกจากนี้ ยังมีการประกาศแต่งตั้ง Ramesh Jain ผู้ที่ได้รับการขนานนามเป็นบิดาแห่งวงการคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เป็น Chief Technical Advisor หรือหัวหน้าที่ปรึกษาด้านเทคนิคของสถาบันวิจัยปัญญาประดิษฐ์ Huami AI Research Institute ภายในงานนี้ด้วย

Huangshan-2 (MHS002) ชิปปัญญาประดิษฐ์สำหรับสายรัดข้อมืออัจฉริยะ

Huami เป็นสมาชิกระดับแพลตตินัมของ RISC-V ทั้งยังมีคลังเทคโนโลยีและรูปแบบการลงทุนที่หลากหลายในด้านที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์ ในปี 2018 Huami ได้เปิดตัวชิปประมวลผลชุดคำสั่งสำหรับสายรัดข้อมืออัจฉริยะ RISC-V แบบโอเพนซอร์สเป็นครั้งแรกของโลก[2] ในชื่อ Huangshan No.1 (MHS001) ซึ่งประกอบไปด้วย ระบบปัญญาประดิษฐ์สี่ระบบหลัก ได้แก่ ระบบไบโอเมตริกหัวใจ (cardiac biometrics engine), ระบบคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG), ระบบคลื่นไฟฟ้าหัวใจรุ่นโปร (ECG Pro) และระบบตรวจวัดความผิดปกติของจังหวะหัวใจ (Heart Rhythm Abnormality Engine)

หลังการเปิดตัวชิปรุ่นแรกผ่านไป 450 วัน Huami ได้เปิดตัวชิปปัญญาประดิษฐ์รุ่นใหม่ ในชื่อ Huami Huangshan-2 (MHS002) ชิปดังกล่าวมีสถาปัตยกรรมแบบ RISC-V โดยมาพร้อมประสิทธิภาพในการประมวลผลระดับสูงและใช้พลังงานต่ำ และความสามารถในการวัดการเต้นของหัวใจได้เร็วกว่าชิป Huangshan-1 ถึงเจ็ดเท่า และเร็วกว่าระบบอัลกอริทึมที่คล้ายคลึงกันถึง 26 เท่า นอกจากนี้ ยังมีโหมดเซนเซอร์แบบ Always On (AON) และใช้พลังงานต่ำมาก เนื่องจากมีหน่วยประมวลผลโครงข่ายประสาท (Neural-network Processing Unit – NPU) และหน่วยประมวลผลร่วม C2 ซึ่งตามหลักการแล้ว หน่วยประมวลผลดังกล่าวสามารถลดการใช้พลังงานโดยรวมของชิป Huangshan-2 ได้ 50% ทำให้แบตเตอรี่ของผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้นานมากขึ้น

ชิป Huangshan-2 (MHS002) มีกำหนดเริ่มการผลิตปริมาณมากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 โดยคาดว่าอุปกรณ์สายรัดข้อมืออัจฉริยะรุ่นใหม่ของ Huami ที่ใช้ชิป Huangshan-2 จะวางขายได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 2021

BioTracker(TM)2 เซนเซอร์ PPG Bio-tracking แบบ optical รุ่นที่สองของ Huami

Huami ได้พัฒนาเซนเซอร์ PPG bio-tracking แบบ optical ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนขึ้นชื่อในเรื่องความแม่นยำสูง เมื่อเปรียบเทียบกับเซนเซอร์รุ่นก่อนหน้า เซนเซอร์ BioTracker 2 นี้รองรับระบบข้อมูลชีวภาพทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ RealBeats(TM), OxygenBeats(TM), SomnusCare(TM), ExerSense(TM) และ huami-PAI(TM)

ระบบข้อมูล 5 แบบ[3] ซึ่งทำงานร่วมกับ AI Health Management Platform แพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ด้านสุขภาพของ Huami

เพื่อช่วยมนุษย์ให้สามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดด้านสุขภาพ Systematic AI Health Management Platform แพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ด้านสุขภาพของ Huawei จะทำงานร่วมกับชิปปัญญาประดิษฐ์ Huangshan-2 (MHS0002), BioTracker(TM)2 เซนเซอร์ PPG รุ่นใหม่ และระบบข้อมูลทั้ง 5 แบบ ดังนี้

– RealBeats(TM) คือระบบข้อมูลชีวภาพแบบปัญญาประดิษฐ์สำหรับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งกำจัดเสียงรบกวนสัญญาณการเต้นของหัวใจระหว่างการออกกำลังกายและสามารถตรวจวัดการเต้นของหัวใจได้นานกว่ารุ่นเก่า 1.87 เท่าในตอนกลางคืนและ 6.64 เท่าในตอนกลางวัน นอกจากนี้ยังสามารถจัดเก็บข้อมูลการตรวจวัดภาวะหัวใจเต้นเร็วแบบ AVRT และภาวะหัวใจห้องล่างเต้นก่อนกำหนดหรือ PVC ด้วยโมเดลบิ๊กดาต้าสำหรับสุขภาพหัวใจ

– OxygenBeats(TM) คือระบบข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ด้านออกซิเจนที่ Huami พัฒนาขึ้นให้มีอัตราความแม่นยำ 100% ต่างจากผลิตภัณฑ์รุ่นใกล้เคียงที่มีอัตราความแม่นยำต่ำกว่า 90% เมื่อเปรียบเทียบกับผลที่ได้จากเครื่องวิเคราะห์ออกซิเจนระดับมืออาชีพ พบว่า ระบบดังกล่าวมีความผิดพลาดเฉลี่ยเพียง 1.67% ซึ่งถือว่ามีความแม่นยำในการตรวจวัดออกซิเจนในเลือดสูงกว่าอุปกรณ์สายรัดข้อมืออัจฉริยะส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีการนำ OxygenBeats(TM) มาใช้ในการติดตามดูอาการผู้ที่หายจากโรคโควิด-19 โดยทีมแพทย์ของ Nanshan Zhong คาดว่านาฬิกาอัจฉริยะที่ใช้ระบบ OxygenBeats(TM) จะวางขายในไตรมาสที่สามของปี 2020 นี้

– SomnusCare(TM) คือระบบข้อมูลชีวภาพแบบปัญญาประดิษฐ์ ที่มีความแม่นยำในการตรวจวัดข้อมูลการนอนหลับสูงกว่า 80% และสามารถตรวจวัดการงีบหลับได้นานกว่า 25 นาทีด้วยความแม่นยำเกือบ 100% นอกจากนี้ OxygenBeats(TM) ซึ่งสามารถวิเคราะห์การนอนหลับและตรวจวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดได้ ยังสามารถตรวจพบภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea syndrome – SAS) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น “ฆาตกรล่องหน” สำหรับมนุษย์ และเตือนให้ผู้ใช้ป้องกันภาวะดังกล่าวได้ด้วย

– ExerSense(TM) คือระบบตรวจวัดรูปแบบการเคลื่อนไหวปัญญาประดิษฐ์จากบิ๊กดาต้าด้านกีฬา ซึ่งสามารถจับคู่รูปแบบการเคลื่อนไหวได้แบบเรียลไทม์โดยใช้เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและเซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจของสายรัดข้อมืออัจฉริยะของ Huami ในการระบุรูปแบบการออกกำลังกายของผู้ใช้งานได้อย่างชาญฉลาด ขณะนี้ ExerSense(TM) ตรวจพบรูปแบบการออกกำลังกายได้ 19 รูปแบบโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ ซึ่งครอบคลุมรูปแบบการออกกำลังกายในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ถึง 95% ผู้ใช้สามารถใช้งานฟังก์ชันดังกล่าวได้โดยไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ยุ่งยากแต่อย่างใด

– huami-PAI(TM) คือระบบคะแนน PAI ที่บ่งชี้ข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจของผู้ใช้ พร้อมกับระยะเวลาในการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันและข้อมูลอื่น ๆ ด้านสุขภาพ ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามการออกกำลังกายและสภาวะสุขภาพหัวใจของตัวเอง นอกจากนี้ huami-PAI(TM) ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถออกแบบระบบประเมินสุขภาพเฉพาะของตัวเองโดยใช้ข้อมูลชีวภาพ เช่น อายุ เพศ และอัตราการเต้นของหัวใจ huami-PAI(TM) พัฒนาขึ้นจากการวิจัย HUNT Fitness Study ซึ่งช่วยลดอัตราการตายจากโรคหลอดเลือดหัวใจและช่วยเพิ่มอายุขัยของคน งานวิจัยดังกล่าวดำเนินการโดยอาจารย์ Ulrik Wisloff จากคณะแพทยศาสตร์ Norwegian University of Science and Technology โดยใช้เวลาดำเนินการวิจัยนาน 35 ปีและมีผู้เข้าร่วมกว่า 230,000 คน

Ramesh Jain ได้รับการแต่งตั้งเป็น Chief Technical Advisor ของสถาบันวิจัยปัญญาประดิษฐ์ Huami AI Research Institute

Wang Huang ประธานและซีอีโอของบริษัทได้ประกาศการก่อตั้งสถาบันวิจัยปัญญาประดิษฐ์ Huami AI Research Institute และแต่งตั้ง Ramish Jain ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ชื่อดัง บิดาแห่งวงการคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย University of California, Irvine และผู้ก่อตั้ง UCI Institute for Future Health เป็น Chief Technical Advisor หรือหัวหน้าที่ปรึกษาด้านเทคนิคของสถาบัน

ในครึ่งแรกของปี 2020 Huami ได้ก่อตั้งห้องปฏิบัติการร่วมขึ้นมา 3 แห่ง ได้แก่ ห้องปฏิบัติการร่วมด้านสายรัดข้อมืออัจฉริยะ The Smart Wrist Wearable Device Joint Lab ร่วมกับทีมบุคลากรของ Zhong Nanshan; ห้องปฏิบัติการร่วมด้านกรีฑา The Track and Field Joint Lab ร่วมกับสมาคมกรีฑาแห่งประเทศจีน (Chinese Athletics Association) และห้องปฏิบัติการร่วมด้านการสื่อสารอัจฉริยะระหว่างสมองมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ The Brain-Computer Intelligence Joint Lab ร่วมกับ Institute of Advanced Technology, University of Science and Technology of China

[1] Huami ติด 1 ใน 5 อันดับแรกของโลกในด้านการจัดส่งนาฬิกาและส่วนแบ่งตลาดนาฬิกาทั่วโลก ตามข้อมูลจาก International Data Corporation (IDC) Worldwide Quarterly Wearable Device Tracker
[2] https://riscv.org/membership/6144/huami/
[3] ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์และไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้วินิจฉัยหรือติดตามอาการใด ๆ ทางการแพทย์

รูปภาพ – https://photos.prnasia.com/prnh/20200617/2833734-1