1

HOTPOT คาดปี 57 รายได้โต 15% จากการขยายสาขาอีก 15-20 แห่ง พร้อมประกาศงบปี 56 สวยเด้ง บอร์ดใจดีจ่ายปันผลอีก 0.02 บาทต่อหุ้น

 “HOT POT” แย้ม แนวโน้มปี 57 สดใส หลังวางแผนปรับกลยุทธ์เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโตได้ด้วย
การเทรนด์พนักงานให้ทำงานคุ้มค่าที่สุด ท่ามกลางการแข่งขันเพื่อจัดหาพนักงาน พร้อมปรับรูปโฉมร้านเป็นแบบ HD HOTPOT คู่กับ DAIDOMON ตอบสนองความต้องการลูกค้าที่ต้องการทั้งต้ม และปิ้งย่าง ทั้งยังคงกลยุทธ์เดินหน้าขยายสาขาเพิ่มปีนี้เปิดอีกราว 15-20   แห่ง ใช้เงินลงทุน 6-9 ล้านบาท/สาขา เพื่อเพิ่มยอดขาย
เชื่อหนุนรายได้ปี 57 โตได้ราว 15% เดินหน้าทำการตลาดผ่านโซเซียลมีเดีย และมีแอปพลิเคชั่นพิเศษ
ของ
HOTPOT ออกมาเอาใจลูกค้า “สกุณา บ่ายเจริญ”  นายหญิงคนเก่ง  เผยผลงานปี 56 รายได้อยู่ที่ 2,353.7 ล้านบาท กำไรอยู่ที่ 42.8 ล้านบาท

คุณสกุณา บ่ายเจริญ

 

นางสาวสกุณา บ่ายเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) หรือ HOTPOT  ผู้นำธุรกิจร้านอาหารบุฟเฟต์ สุกี้ ชาบู สไตล์ญี่ปุ่น ภายใต้แบรนด์ ฮอท พอท อินเตอร์ บุฟเฟต์,
ฮอทพอท บุฟเฟต์ แวลลู, ฮอท พอท ราเมน บุฟเฟต์, ฮอท พอท สุกี้ ชาบู, ฮอท พอท เพรสทีจ และไดโดมอน
ซึ่งเป็นอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2557 คาดว่าบริษัทฯ จะมีรายได้
จากการขายเติบโตร้อยละ 15 จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,353.7 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้น
(Gross Profit Margin) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับประมาณ 55% แม้ว่าตั้งแต่ปลายปี 2556
จนกระทั่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อ ส่งผลต่อยอดขายของร้านสาขาที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการชุมนุมทางการเมือง แต่บริษัทฯ ก็ยังคงดำเนินการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดที่เดิมใช้งบลงทุนราว 3 % ของรายได้รวม ในการจัดกิจกรรมโฆษณาประชาสัมพันธ์ เช่น ทีวี วิทยุ จากนี้จะปรับ
มาใช้สื่อโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดียมากยิ่งขึ้น  และจะมีแอปพลิเคชั่นพิเศษของ HOTPOT ออกมาเอาใจลูกค้า
เพื่อเป็นการต่อยอดการทำธุรกิจ โดยกลุ่มเป้าหมายจะเน้นไปที่ คนรุ่นใหม่ที่เข้าถึงโซเชียลมีเดีย และเป็นฐานลูกค้าหลักของ HOTPOT นอกจากนี้ได้ดำเนินการฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่าง
มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ค่าแรงสูงกว่าพื้นที่อื่นทั่วประเทศ

นอกจากนี้บริษัทฯ ใช้กลยุทธ์การขยายสาขาเพิ่มต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตของรายได้โดยปี 2557
ตั้งเป้าเปิดสาขา 15-20 สาขา งบลงทุนประมาณ 6-9 ล้านบาท ซึ่งสิ้นปีคาดว่าจะมีสาขารวมทั้งสิ้นกว่า 170 สาขา

 

 

จาก ณ สิ้นปีก่อนที่ 153 สาขา แบ่งเป็นฮอท พอท จำนวน 121 สาขา ไดโดมอนจำนวน 18 สาขาและฮอทพอท
ที่เพิ่มเตาปิ้งย่างจำนวน 14 สาขา

“ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว HOTPOT เองก็ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองโดยเฉพาะสาขาที่ใกล้กับพื้นที่ชุมนุมยอดขายหายไปบ้างแต่มั่นใจว่าทั้งปีรายได้จากการขายจะโตได้ร้อยละ 15 และเน้นเพิ่มมาร์จิ้นให้เพิ่มขึ้นจาก 55% ควบคู่กับการเดินหน้ารุกทั้งด้านการขยายสาขา ควบคู่กับห้างสรรพสินค้าที่ไปเปิดตัวในต่างจังหวัด คาดว่าทั้งปีนี้จะเพิ่มสาขาได้อย่างน้อย 15-20 แห่ง ตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งน่าจะเป็นการช่วยเพิ่มยอดขายให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น และจะทำให้มีสาขารวมทั้งสิ้นกว่า 170 สาขา จากปีก่อนที่มีจำนวน 153 สาขา ” นางสาวสกุณา กล่าว

สำหรับผลประกอบการประจำปี 2556 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,353.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 445.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.35 ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 42.8 ล้านบาทจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ จำนวน 24.8 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 72.70 โดยสาเหตุของการปรับเพิ่มของรายได้และกำไรมาจากการขยายสาขา การควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลงวดดำเนินงาน (วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2556)  ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.04 บาท เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2556 ดังนั้นคงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายอีก 0.02 บาทต่อหุ้น กำหนดปิดสมุดทะเบียน วันที่ 7 พฤษภาคม 2557  และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 22 พฤษภาคม 2557