“Hotels.com ชี้เป้า 5 โรงแรมเด็ด ใน 5 ประเทศที่คนไทยไปได้ ไม่ต้องง้อวีซ่า!”

0
754
image_pdfimage_printPrint

กรุงเทพ (18 พฤษภาคม 2560) – เป็นที่รู้กันดีว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนไทยพากันเดินทางไปยังประเทศที่มีการยกเว้นวีซ่าขาเข้าสำหรับหนังสือเดินทางประเทศไทยอย่างญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลีใต้ กันอย่างล้นหลาม วันนี้ Hotels.com เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นสำหรับการจองที่พักยอดนิยม ขอเสนอ 5 โรงแรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวใน 5 ประเทศที่มีการยกเว้นวีซ่าขาเข้าสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย พร้อมชวนคนไทยฉีกกฎการเดินทางรูปแบบเดิมๆด้วยการเดินทางไปยังจุดมุ่งหมายใหม่ๆที่คนไทยไม่ค่อยไปเที่ยว ตั้งแต่อเมริกาใต้ไปจนถึงแอฟริกาใต้ ให้คุณสามารถวางแผนการท่องเที่ยวไปยังอีกซีกโลกได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ไม่ต้องเสียเวลาในการเตรียมเอกสารหรือรอยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตอีกต่อไป

1. บราซิล : Santa Teresa Hotel RJ MGallery by Sofitel เมือง ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล
เทศกาลประจำปีสุดยิ่งใหญ่ของประเทศบราซิล อย่างเทศกาลคาร์นิวัล ในประเทศบราซิล เป็นเทศกาลที่ใครๆก็หวังว่าจะได้ไปเห็นเป็นบุญตาสักครั้งหนึ่งในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นโชว์คอสตูมสุดอลังการ สตรีทแดนซ์และการเฉลิมฉลองที่ครึกครื้น ทุกสิ่งล้วนสะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของชาวบราซิล นอกจากเทศกาลคาร์นิวัลแล้ว ยังมีอีกหลายสถานที่ที่รอให้คุณได้ไปเที่ยวชมในเมืองแห่งการเต้นแซมบ้า กีฬาฟุตบอล และวัฒนธรรมการกินบาร์บีคิวแห่งนี้ เตรียมตัวตื่นตาตื่นใจไปกับเมืองที่มีเต็มไปด้วยศิลปะอันวิจิตรงดงาม ป่าฝนเขตร้อน ชายทะเลและน้ำตก ไม่แปลกที่มีคนยกให้บราซิลเป็นอีกหนึ่งในประเทศที่สวยงามที่สุดในโลก

โรงแรม Santa Teresa Hotel RJ MGallery by Sofitel ตั้งอยู่ในเมืองริโอ เดอ จาเนโร ที่นี่เปิดโอกาสให้คุณได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมชาวบราซิลแบบเต็มอิ่มเหมือนได้ย้อนกลับไปอยู่ใน ค.ศ.1850 ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบโดยศิลปินท้องถิ่นในบราซิล หลังจากที่คุณว่างจากการเดินเที่ยวชมเมืองแล้ว จะเลือกเข้าสปาเพื่อผ่อนคลายหรือจิบคอกเทลพร้อมชมวิวอ่าวกัวนาบาร่าในสระว่ายน้ำเอาท์ดอร์สุดหรูก็ฟังดูน่าสนใจไม่แพ้กัน

2. เปรู : Belmond Hotel Monasterio เมืองคุสโก ประเทศเปรู
เปรูเป็นประเทศในฝันสำหรับคู่รักที่ได้รับความนิยมตลอดศตวรรษที่ผ่านมา โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ด้านศิลปะวัฒนธรรมที่แตกต่างด้วยการใช้สีสันสดใสและสตรีทฟู้ดอันแสนอร่อย อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของมรดกทางวัฒนธรรมระดับโลกอย่างมาชูปิกชูอีกด้วย ลำพังแค่สตรีทฟู้ดหลากหลายเมนูก็เป็นเหตุผลที่น่าสนใจเพียงพอแล้วสำหรับการไปเยี่ยมเยือนประเทศแห่งนี้

โรงแรม The Belmond Hotel Monestario เป็นหนึ่งในโรงแรมที่มีความสวยเก๋เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ได้รับการดัดแปลงมาจากสถาปัตยกรรมสมัยเก่า ผ่านการรีโนเวทให้เข้าสมัยนิยมมากขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์แปลกใหม่เพียงครั้งเดียวในชีวิต ไม่ว่าคุณกำลังมองหาห้องพักขนาดกระทัดรัดหรือรอยัลสวีท ทางโรงแรมก็มีข้อเสนอสุดพิเศษให้ได้คุณสัมผัสประสบการณ์ที่แสนล้ำค่าตลอดการเข้าพัก

3. แอฟริกาใต้ : Mont Rochelle Hotel & Vineyard เมืองฟรานโชก ประเทศแอฟริกาใต้

ถ้าคุณกำลังมองหาการผจญภัยครั้งใหม่อยู่ละก็ เราขอแนะนำแอฟริกาใต้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ! สถานที่แห่งนี้จะเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสวิถีชีวิตสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในซาฟารีที่ใหญ่ที่สุด คุณจะได้พบเจอกับสิงโต, แรด, เสือดาว และม้าลายในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ และถ้าคุณโชคดี คุณอาจได้ยลโฉมปลาวาฬระหว่างนั่งรับประทานอาหารอยู่ริมฝั่งทะเล นอกจากนี้ แอฟริกาใต้ยังมีชื่อเสียงด้านการผสมผสานอิทธิพลด้านศิลปะวัฒนธรรมสไตล์ยุโรปเข้ากับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น และการผลิตไวน์อีกด้วย

หากคุณชอบดื่มไวน์ คุณจะต้องหลงรักรีสอร์ท Mont Rochelle Hotel & Vineyard ในเมืองฟรานโชกอย่างแน่นอน ท่ามกลางพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 39 เฮกตาร์ แขกผู้เข้าพักสามารถเดินสำรวจขุมทรัพย์ภายในโรงกลั่นไวน์ในช่วงกลางวันและเพลิดเพลินไปกับอาหารและไวน์แสนอร่อยในยามค่ำคืน โรงแรมแห่งนี้ซ่อนความลับแห่งศิลปะการผลิตไวน์ พร้อมมอบโอกาสแสนล้ำค่าให้คุณได้เพลิดเพลินกับการพักผ่อนและความสะดวกสบายของโรงแรมหรู

4. มัลดีฟส์ : Como Maalifushi สาธารณรัฐมัลดีฟส์
คุณรู้หรือไม่ว่าเกาะมัลดีฟส์มีระดับพื้นดินที่สูงที่สุดเพียง 2.4 เมตรจากระดับน้ำทะเลเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงคาดเดาว่า สักวันดินแดนมหัศจรรย์เล็ก ๆ นี้จะหายไปภายใต้คลื่นสีฟ้าของมหาสมุทรอินเดีย ดังนั้นก่อนที่มัลดีฟส์จะถูกคลื่นทะเลกลืนหายไป ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่จะไปท่องเที่ยวในหมู่เกาะที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในโลกแห่งนี้!

ที่โรงแรม Como Maalifushi แขกผู้เข้าพักจะได้เพลิดเพลินไปกับความงามที่ธรรมชาติมอบให้ พร้อมชมปะการังหลากสีสันเพียงแค่ยื่นหน้าออกมาจากวิลล่าส่วนตัว เดินเล่นเลือกซื้อเครื่องประดับและเสื้อผ้าสไตล์ท้องถิ่น และชมพระอาทิตย์ตกในทะเลที่งดงามที่สุด มัลดีฟส์เป็นสถานที่พักผ่อนที่เหมาะสำหรับการหลบหนีจากโลกภายนอกที่แสนวุ่นวาย ให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากการสำรวจธรรมชาติ ก่อนจะมอบของฝากอันอัศจรรย์เป็นความทรงจำของทริปสุดพิเศษท่ามกลางน้ำทะเลสีฟ้าและหาดทรายสีขาวแห่งนี้

5. ฟิจิ: The Likuliku Lagoon Resort เกาะมาโลโล ประเทศฟิจิ

อัญมณีจากโอเชียเนียแห่งนี้คงความงดงามอันบริสุทธิ์ของธรรมชาติไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ฟิจิเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเดินทางในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งแตกต่างจากที่อื่นเพราะสิ่งก่อสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นในฟิจิสามารถผสมผสานเข้ากับภูมิทัศน์โดยรอบได้อย่างกลมกลืน ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหารังรักสุดโรแมนติกหรือวิลล่าสำหรับครอบครัว ที่นี่มีครบ! ฟิจิยังมีกิจกรรมสนุกอีกมากมายที่ไม่ควรพลาด อย่างการดำน้ำเพื่อสำรวจสิ่งมีชีวิตแปลกใหม่หรือกระโดดลงไปในอ่างโคลนอันอุดมไปด้วยประโยชน์ด้านความงาม นอกจากนี้ยังมีมรดกทางวัฒนธรรมที่เข้มข้นและเป็นที่ตั้งของวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้อีกด้วย

Likuliku Lagoon Resort ตั้งอยู่บนเกาะมาโลโล ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความงดงามดั่งสวรรค์บนดินของชาวฟิจิ ที่นี่ยังเป็นดินแดนแห่งธรรมชาติและยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวฟิจิอย่างเหนียวแน่น นอกจากนี้ตัวโรงแรมยังมีสระว่ายน้ำแสนสวย อาหารพื้นเมืองแสนอร่อยและทุกอย่างที่คุณต้องการในวันหยุดพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบในสถานที่ที่สวยดั่งรูปภาพ!

ทั้งหมดนี่คือ 5 ที่พักที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องพกกระดาษเป็นปึกๆ หรือเสียเวลาหลายชั่วโมงไปกับการรอทำวีซ่า รู้อย่างนี้แล้วจะคุณจะมัวรออะไรอยู่ล่ะ? เริ่มวางแผนไปเที่ยวกันได้เลย! มีประเทศอีกหลายประเทศที่มีการยกเว้นวีซ่าสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศไทยที่รอให้คุณได้ไปค้นพบความสวยงามและดื่มด่ำศิลปะวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่เหล่านั้น ถ้าคุณอยากรู้ว่ามีประเทศใดบ้างที่มีการยกเว้นวีซ่าการเดินทางขาเข้าสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย สามารถดูได้ที่นี่

ตัวเลือกสำหรับโรงแรมต่างประเทศทั่วโลกพร้อมโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษ สามารถเข้าไปเช็คได้ที่ เว็บไซต์ hotels.com หรือแอพพลิเคชั่น Hotels.com และอย่าลืมลงทะเบียนเป็นสมาชิกกับ Hotels.com Rewards เพื่อรับที่พักฟรี 1 คืน เมื่อพักครบทุกๆ 10 คืน จองเลยที่ Hotels.com

^ที่พักฟรี 1 คืน ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไปที่ Hotels.com เพื่อดูกฎระเบียบและเงื่อนไขต่างๆ