พร้อมดันผู้ประกอบไทยสู่นานาชาติ ผ่าน Thailand Pavilion คาดยอดสั่งซื้อผู้ประกอบการไทยจากการ จัดงาน รวมมากกว่า 15 พันล้านบาท
กรุงเทพฯ — วันนี้ (16 มกราคม 2560) องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council หรือ HKTDC) จัดแถลงข่าวการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณี เพชร พลอย และไข่มุก นานาชาติ “Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show” ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 4 มีนาคม 2560 ณ AsiaWorld-Expo และงานแสดงสินค้าเครื่องประดับนานาชาติ “Hong Kong International Jewellery Show” ครั้งที่ 34 ระหว่างวันที่ 2 มีนาคม – 6 มีนาคม 2560 ณ Hong Kong Convention & Exhibition Centre เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยถือได้ว่าเป็นสองงานแสดงสินค้าประเภทอัญมณี ไข่มุก และเครื่องประดับ ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งยังรวบรวมการจัดแสดงสินค้าจากผู้ประกอบการ มากกว่า 4,380 ร้านค้า จาก 54 ประเทศ ตอกย้ำความเป็นผู้นำของฮ่องกงสำหรับการเป็นตลาดจิวเวลรี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมจิวเวลรี่ของโลก
นายปีเตอร์ หว่อง ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council หรือ HKTDC) กล่าวว่า ทั้งสองงานนี้ทางองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก สมาคมผู้ผลิตอัญมณีและหยกแห่งฮ่องกง (Hong Kong Jewellery & Jade Manufacturers Association) และ Italian Exhibition Group SpA ซึ่งถึงแม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจโลก แต่ทั้งสองงานนี้ยังคงได้รับความสนใจจากผู้ซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจากการจัดงานครั้งที่ผ่านมา มีผู้แสดงสินค้าเข้าร่วมงานกว่า 4,380 ร้านค้า จาก 54 ประเทศ และมีผู้ซื้อเข้าร่วมงานกว่า 80,000 คน จาก 147 ประเทศทั่วโลก ซึ่งถือว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้น 5.4% จากปีก่อน โดยทาง HKTDC ได้เปิดโอกาสทางธุรกิจแบบไร้พรมแดนและถือเป็นเวทีสำหรับผู้แสดงสินค้าที่จะได้มีโอกาสขยับขยายธุรกิจของตนเองไปสู่ตลาดในต่างประเทศ
“ภายในงานได้มีผู้เข้าร่วมจัดแสดงมาจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ได้แก่ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไทย เมียนมาร์ อินเดีย ศรีลังกา แทนซาเนีย อิสราเอล ตุรกี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน สหรัฐอเมริกา เปรู โคลัมเบีย และบราซิล โดยงาน Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show จะเป็นงานแสดงจิวเวลรี่หรู และเน้นวัตถุดิบจิวเวลรี่เป็นส่วนใหญ่ อาทิ เพชร พลอยเนื้อแข็ง พลอยเนื้ออ่อน และไข่มุก จากผู้ผลิตชื่อดังระดับโลก ส่วนสำหรับงาน Hong Kong International Jewellery Show นั้นจะเป็นงานแสดงจิวเวลรี่สำเร็จรูปที่รวบรวมแบรนด์ดัง ๆ ระดับโลกกว่า 30 แบรนด์ มาจัดแสดงให้ได้ชมและเลือกเลือกซื้อกันภายในงาน นอกจากนี้ทาง HKTDC ยังได้ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมและตลาดโดยจัดพื้นที่ให้สำหรับการสร้างเครือข่ายธุรกิจ เพื่อให้บริษัทต่าง ๆ ได้พบปะกับผู้ค้าหรือลูกค้าใหม่ ๆ และยังมีการจัดสัมมนาเกี่ยวกับแนวโน้มทางเทคโนโลยี วัสดุและสินค้า รวมไปถึงการจัดแสดงสินค้าจิวเวลรี่ที่มีดีไซน์หรูหราภายในงานทั้งสองงานนี้ ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ร่วมงานได้กว่า 5,000 คน”
นายปีเตอร์ กล่าวถึงในส่วนของผู้ประกอบการไทยว่า ทั้ง 2 งานดังกล่าว จะแบ่งการจัดแสดงในส่วนสินค้าไทย ในรูปแบบ Thailand Pavilion ซึ่งทาง HKTDC ได้ดำเนินการเชิญชวนผู้ประกอบการไทย เข้าร่วมแสดงสินค้าในทั้ง 2 งาน ตั้งแต่ปี 2007 และได้รับความสนใจที่ดีจากผู้ประกอบการไทย โดยในปี 2559 ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมแสดงสินค้าในงานดังกล่าว รวม 358 ราย สร้างรายได้มากกว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอันดับ 6 ของยอดขายสินค้าสูงสุด จำนวน 50 ประเทศแรก
“สินค้าจากประเทศไทยค่อนข้างได้รับความสนใจเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าประเภท พลอยและเครื่องประดับ ซึ่งมีความโดดเด่นที่คุณภาพและดีไซน์ของสินค้า ทั้งนี้ ในปี 2017 นี้ มีผู้ประกอบการไทย ให้ความสนใจตกลงเข้าร่วมแสดงสินค้า จำนวนกว่า 325 ราย แบ่งเป็นงาน Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show จำนวนกว่า 145 ราย และงาน Hong Kong International Jewellery Show จำนวนกว่า 180 ราย โดยคาดว่าจะสร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการไทยได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา” นายปีเตอร์ กล่าว
ด้าน นายณัฏฐวุฒิ โตวิกกัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลู เจมส์ จำกัด หนึ่งในบริษัทจากประเทศไทยที่ได้เข้าร่วมแสดงสินค้าในงานครั้งที่ผ่านมา กล่าวว่า ทางบริษัทฯ ได้ตัดสินใจเข้าร่วมแสดงสินค้าที่ฮ่องกง เพราะได้เล็งเห็นถึงโอกาสสำคัญของทั้งสองงานนี้ ซึ่งนอกจากจะได้ประสบการณ์ในการสำรวจตลาดจิวเวลรี่โลกแล้ว ยังสามารถช่วยให้บริษัทได้มีโอกาสในการขยับขยายธุรกิจไปสู่ตลาดในต่างประเทศ ทั้งยังสามารถช่วยเพิ่มฐานลูกค้าชาวต่างชาติให้กับบริษัทได้อีกด้วย ซึ่งในปี 2559 ที่ผ่านมา ได้มีรายได้จากการจัดแสดงสินค้าภายในงานคิดเป็นร้อยละ 11 ของรายได้
ส่วน นายรังสรรค์ ตรงฉาก กรรมการผู้จัดการ บริษัท คีย์ เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด อีกหนึ่งบริษัทจากประเทศไทยที่ได้เข้าร่วมแสดงสินค้าในงานครั้งที่ผ่านมา เผยว่า ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ ของบริษัท ในการเข้าร่วมแสดงสินค้าที่ฮ่องกง เพราะเสมือนเป็นการวัดศักยภาพของบริษัทรวมถึงเป็นการเผยแพร่อัญมณีจากบริษัทไทยสู่สายตาตลาดโลก เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าสินค้าจากประเทศไทยนั้นสวยงามและมีคุณภาพไม่ต่างจากประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้ยังถือเป็นการนำแนวทางความต้องการของตลาดโลก กลับมาปรับปรุงและพัฒนาสินค้าของเราให้สามารถตอบโจทย์และตีตลาดจิวเวลรี่โลกได้
ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) โทร. 02-343-9000 หรือ www.hktdc.com/hkdgp และ www.hktdc.com/hkjewelleryshow
