“การปั่นจักรยาน” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ติดอันดับต้นๆ และกำลังได้รับความนิยมสุดๆ อยู่ในขณะนี้ เห็นได้จาก เหล่าเซเลบลิตี้ คนดัง หนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่รักอิสระและชื่นชอบการใช้ชีวิตเอาท์ดอร์ ต่างเพลิดเพลินกับจักรยานคู่ใจคันโปรด เหมือนอย่างคนกลุ่มนี้ ที่มีหัวใจเดียวกัน ที่ต่างตกหลุมรักชีวิตบนหลังอานจักรยานคู่ใจ 5 แบบ 5 สไตล์ ที่เราเอามาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คุณได้ทะยานออกจากกฎเกณฑ์เดิมๆ แล้วไปใช้ชีวิตนอกกรอบกับ 2 ล้อคู่ใจในแบบของตัวเอง
สาวหวานผู้หลงรักความท้าทายของ “เสือหมอบ”
เริ่มที่ หวานหวาน – คุณอรุณณภา พานิชจรูญ นักแสดงสาวหน้าหวานจากช่อง 3 และพิธีกรรายการสีสันบันเทิง ผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬากลางแจ้งเป็นทุนเดิมแต่ตอนนี้แอบปันใจให้กับการขี่จักรยานเล่าว่า “เริ่มปั่นจักรยานอย่างจริงจังมาได้เกือบปี โดยพี่ที่สนิทกันท่านหนึ่งแนะนำให้ลอง จึงรู้ว่าการปั่นจักรยานเป็นกิจกรรมที่ตอบโจทย์เราได้มากๆ รู้สึกหลงเสน่ห์จักรยาน เมื่อได้ไปลองปั่นแล้วรู้สึกว่า โดนใจเราหลายอย่าง ทั้งได้สัมผัสกับธรรมชาติ ได้ออกกำลังกาย และอีกอย่างที่รู้สึกได้ คือการปั่นจักรยาน เป็นอะไรที่ท้าทายตัวเองมาก”
ถึงจะชื่อหวาน หวานแต่บุคลิกที่แอบซ่อนเปรี้ยวกับตัวตนจริงของเธอที่ชอบพุ่งทะยานไปข้างหน้า จักรยานคนแรกของเธอจึงเป็นเสือภูเขา ต่อด้วย “เสือหมอบ” คู่ใจที่พาเธอไปสัมผัสเส้นทางท่องเที่ยวในยามว่าง ตั้งแต่จากใกล้ๆ 30-40 กิโลเมตรไปจนถึงแบบครึ่งวันในจังหวัดใกล้ๆ ซึ่งหวานหวานบอกว่า เสน่ห์ของการปั่นจักรยานสำหรับเธอ คือ เรื่องสมาธิ การปั่นจักรยานต้องควบคุมสองล้อให้เคลื่อนไปข้างหน้า จึงต้องใช้สมาธิสูงมาก ทำให้จิตใจนิ่งสงบ ได้อยู่กับตัวเอง อยู่กับจักรยาน อยู่กับธรรมชาติ รายล้อมด้วยมิตรภาพจากเพื่อนๆ พี่น้องที่ร่วมเส้นทาง
นอกจากเสือภูเขา เสือหมอบ ตอนนี้หวานหวานยังเติมดีกรีความเร็วเพิ่มขึ้นด้วยจักรยานคันใหม่ “ไทม์ไทรอัล” ฉายา จรวดทางเรียบที่ตอบโจทย์ได้ทั้งความเร็วและความปลอดภัย ซึ่งเจ้าตัวแอบเปรยๆ ว่า อยากลองแข่งปั่นจักรยานดูบ้างสักครั้ง ส่วนนักปั่นหน้าใหม่ที่อยากพิชิตใจเสือหมอบ หวานหวานแนะว่า “สำหรับคนที่อยากลองปั่นจักรยานอยากให้ยืมของเพื่อนรอบข้างมาลองปั่นดูว่าเราชอบจริงๆหรือเปล่าโดยเลือกขนาดที่เหมาะกับตัวเอง ถ้าชอบแล้วจึงค่อยลงทุนซื้อมาครอบครอง”
“จักรยานวินเทจ” เสน่ห์ย้อนเวลา
คุณเจฟฟรี่ เบญจกุลวิวัฒน์ นักแสดงและพิธีกรหนุ่ม ที่คลุกคลีกับเรื่องของจักรยานเป็นอย่างดี เล่าถึงความผูกพันของตัวเองกับเจ้า 2 ล้อว่า “ผมใช้จักรยานทุกวัน ไปไหนใกล้ๆ อย่างไปซื้อของหน้าปากซอยไปตลาดไปฟิตเนส จักรยานที่ใช้มีหลายประเภททั้งเสือภูเขา เสือหมอบ อีกคันคือจักรยาน Dirt ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกันกับเสือภูเขา ผมเลือกใช้เสือหมอบสำหรับการเดินทางไกลๆ ส่วน Dirt จะใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อปั่นไปที่ต่างๆ นานๆครั้งถึงจะนำ Dirt คู่ใจไปปั่นแนวผาดโผนโดยการกระโดดข้ามเนินดิน แต่ในช่วง 1- 2 ปีนี้ เริ่มหันมาสนใจศึกษา จักรยานวินเทจ ชื่นชอบตรงรูปทรงที่มีเอกลักษณ์ วัสดุ รายละเอียดท่อเล็กๆ ข้อต่อ การเชื่อม แต่ไม่ถึงกับเป็นกูรู แต่ชอบศึกษาในรายละเอียดต่างๆของจักรยานวินเทจ”
เจฟฟรี่ ทิ้งท้ายว่า “การขี่จักรยานจะลดพรหมแดนของ อายุ เพศ วัย ฐานะ ผู้หญิงผู้ชายขี่ได้หมด ทำให้เกิดมิตรภาพ ส่วนใครที่กำลังสนใจปั่นจักรยานเริ่มได้เลย เริ่มตั้งแต่วันนี้ แล้วคุณจะมองโลกใบนี้เปลี่ยนไป”
ไปไหนไปกันกับ “จักรยานพับ”
ขวด – คุณปณิธาน บำราศอรินทร์พ่าย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี.แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารระดับสูงของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เล่าว่าจากวิถีชีวิตที่วนเวียนอยู่กับการขับรถมาทำงานตอนเช้ากลับบ้านตอนเย็น มาวันนี้จักรยานช่วยเปิดโลกให้ชีวิตมีสีสันและสนุกสนานมากขึ้น “เริ่มจากบริษัทฯ เตรียมจัดงานบางกอก ไบค์ เมื่อปีที่ผ่านมา ผมก็เริ่มศึกษาข้อมูลเบื้องต้น แต่ช่วงแรกๆ ยังไม่ลึกซึ้งมาก จนมีโอกาสได้ไปเห็นในงาน ได้เดินดูพูดคุยแลกเปลี่ยนและยังมีเลนจักรยานให้ได้ขี่ชมภายในงาน จึงตัดสินใจเลือกขี่จักรยานพับ เพราะสะดวกพกพา ใส่ท้ายรถไปไหนมาไหนด้วยได้ ทุกวันนี้มีจักรยานติดท้ายรถไว้ตลอด หลังเลิกงานก็ขี่สังสรรค์กับน้องๆ ในออฟฟิศที่สวนเบญจกิติ ส่วนวันหยุดจะชวนคนในครอบครัวไปปั่นจักรยานด้วยกันที่กระทรวงสาธารณสุขซึ่งอยู่ใกล้ๆ บ้าน ยิ่งส่วนตัวเป็นคนชอบถ่ายภาพ การขี่จักรยานจึงมาช่วยเติมเต็มให้งานอดิเรกนี้พิเศษยิ่งขึ้น เพราะได้เก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆระหว่างทาง เห็นความสวยงามรายรอบตัวมากกว่าการใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบบนรถยนต์
การปั่นจักรยานทำให้ผ่อนคลาย หายเครียด การใช้ชีวิตช้าลงหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากวันทำงานที่เร่งรีบที่สำคัญยังทำให้เราสังเกตสิ่งรอบตัวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย สำหรับคนที่จะเริ่มขี่จักรยานนั้นต้องมี Passion ก่อนแล้วถามตัวเองว่ามีไลฟ์สไตล์แบบไหนแล้วจึงเลือกจักรยานที่เหมาะกับตัวเอง”
นักกีฬาไตรกีฬาหญิงแกร่ง กับ “เสือภูเขา” คู่ใจ
โบ – คุณมัญชริน พรรณนราวงศ์ นักกีฬาไตรกีฬา และสมาชิกชมรมจักรยาน Coffee Bike หญิงสาว ที่พิสูจน์แล้วว่ากิจกรรมลุยๆอย่างการขี่เสือภูเขาเธอทำได้ดีไม่แพ้หนุ่มๆ เลยทีเดียว “จุดเริ่มต้นของการขี่จักรยานเพราะชอบท่องเที่ยวก็เลยอยากมีจักรยานไว้สักคันสำหรับปั่นไปต่างจังหวัด เสือภูเขา เหมาะสำหรับลุยทุกสภาพถนน หรือขี่มาทำงานยิ่งถนนในกรุงเทพฯเหมาะมากๆ เพราะมีท่อ ตะแกรงเยอะ เสือภูเขาจึงตอบโจทย์ได้ดีเพราะลุยได้ทุกสภาพถนน ส่วนเสือหมอบจะใช้ในการแข่งไตรกีฬา ตอนนี้ปั่นจักรยานมาแล้ว 5 ปี สิ่งที่ได้รับกับตัวเองเลยคือ ร่างกายแข็งแรง เพราะการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานเป็นการบริหารหัวใจ น้ำหนักลดลง ได้เพื่อน ได้สังคม เจอะเจอคนที่ไลฟ์สไตล์เหมือนๆกัน และได้สัมผัสธรรมชาติมากขึ้นระหว่างสองข้างทางที่ปั่นจักรยาน”
โบ ยังเล่าถึงเสน่ห์ที่ดึงดูดเธอไว้กับการปั่นจักรยานอย่างแยกไม่ออก คือ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่เจอระหว่างทางการปั่นจักรยาน เพราะถึงแม้จุดหมายปลายทางจะไปถึงช้าแต่ระหว่างเส้นทางที่ไปสนุกกว่าการเดินทางโดยรถยนต์ เส้นทางเล็กๆที่รถยนต์เข้าไม่ได้ ทางลัด ลุยสวน จักรยานคันเล็กสามารถพาเธอลุยไปได้ แม้จะช้าหน่อยแต่กลับสร้าง ความประทับใจตลอด สำหรับใครที่จะหันมาปั่นจักรยาน อยากให้นึกถึงความปลอดภัย สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ หมวกกันน็อก สำหรับมือใหม่ต้องพยายามฝึกฝนขี่ให้คล่องเพื่อความปลอดภัยและสนุกสนานในทุกเส้นทาง
งาน = งานอดิเรก “จักรยานทัวร์ริ่ง”
ธานินทร์ ฤตวิรุฬห์ เจ้าของจักรยาน Touring Brand ไทยแท้ ชื่อ ฤ ไบซิเคิล หรือ Rit Bicycle มีประสบการณ์ ปั่นจักรยานท่องเที่ยวต่างประเทศและแทบทุกจังหวัดในประเทศไทย และเป็นผู้บุกเบิกจักรยานทัวร์ริ่งในประเทศไทยเป็นรายแรก เล่าว่า “การขี่จักรยานท่องเที่ยวของผมก็เหมือนการทำงานไปในตัวด้วยอยู่แล้ว ได้ค้นหาเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆสำหรับนักปั่นจักรยาน ลูกค้าจึงมักบอกเสมอว่า ซื้อจักรยานจากผมก็คือซื้อจากประสบการณ์ของผมที่ผมใช้จริง ไม่ใช่สิ่งที่บริษัทแม่บอกมาหรือตามแผนการตลาดลูกค้าสามารถถามตรงๆได้”
ในมุมมองของเขาจักรยาน คือ “อุปกรณ์ชนิดหนึ่งในชีวิตที่เราเลือกใช้ในการเดินทาง เหมือนรถยนต์คันหนึ่ง แต่เราต้องออกแรง เป็นสิ่งที่เรารักและมีความสุข และพาเราไปในทุกที่ที่เราอยากไป จักรยานไม่ต้องแพงหลายแสนเหมือนกับรถสปอร์ต แต่เราต้องใช้ทุกชั่วโมงที่อยู่บนเบาะให้คุ้มค่าที่สุด จักรยานจึงเป็นพาหนะ เป็นแขนขาของเราที่จะพาเราไปหาความสุขได้ สำหรับผมมันคือความสุขที่ผมปั่นได้และได้ปั่น”
ตอนนี้เขามีจักรยานทัวร์ริ่งคู่ใจที่ดีไซน์เองกับมือถึง 2 คัน โดยเขามีมุมมองต่อสมรรถนะของจักรยานว่า ในการขี่จักรยานต้องมีปัญหาให้น้อยที่สุดในระหว่างการเดินทาง เพราะในการเดินทางท่องเที่ยวด้วยจักรยานเราต้องช่วยตัวเองให้มากที่สุด แต่ต้องเจอปัญหาให้น้อยที่สุด เพราะถ้าเราเจอปัญหาน้อยที่สุดแล้วเราก็จะไม่ต้องยุ่งยากกับการแก้ปัญหา
ล่าสุดเขาจะออกเดินทางอีกครั้งกับ 2 คู่ใจเพื่อไปประเทศเนปาล 15 วัน จากนั้นจะนำจักรยานไปโชว์ในงาน ยูโรไบค์ เพื่อเปิดตัวให้ผู้นำเข้าจักรยานได้เห็นสินค้าของแบรนด์ ฤ ไบซิเคิล ที่เป็นแบรนด์ของคนไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ธานินทร์ ยังบอกถึงสิ่งที่ได้รับจากการขี่จักรยานทัวร์ริ่ง คือ “สุขภาพ การขี่จักรยานได้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เพราะได้ท่องเที่ยวไปในตัวจึงทำให้จิตใจปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย พิสูจน์จากกลุ่มผู้สูงอายุที่เดินทางท่องเที่ยวไปกับผมที่แต่ละต่างมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง”
ในฐานะนักปั่นจักรยานทัวร์ริ่งและผู้จัดจำหน่ายจักรยานได้กล่าวทิ้งท้าย สำหรับผู้ที่สนใจจะเปิดประสบการณ์ใหม่กับจักรยานทัวร์ริ่งว่า “ควรศึกษาให้ดีก่อน ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายเพราะมีตั้งแต่ราคาธรรมดาจนถึงแพง รวมถึงการใช้งาน เช่น ถ้าต้องการใช้เพื่อการท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องมีหลายคันแต่มีคันเดียวดีๆไปเลยก็ได้ถ้ามีงบประมาณแต่ถ้าไม่มีงบประมาณต้องดูว่าคุณพร้อมแค่ไหน นอกจากนี้การฝึกซ้อมขี่จักรยานยังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าคุณซ้อมเยอะ ก็มีความสุขเยอะ แต่ถ้าซ้อมน้อยคุณไม่ฟิตก็ทุกข์เยอะหน่อย แต่สิ่งที่ดีไปกว่านั้นคือการเตรียมจักรยานให้พร้อมก่อนเดินทางจะช่วยลดปัญหาระหว่างการเดินทางได้เป็นอย่างดี เพราะเวลาในการเดินทางของแต่ละคนมีจำกัดเราจึงต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด ให้มีความสุขที่สุดด้วยเช่นกัน”
หากใครพอมีเวลาว่างลองมาค้นหาแรงบันดาลใจในการ “ปั่น” ได้ที่งานบางกอกไบค์ 2014 ครั้งที่ 3 (BANGKOK BIKE 2014) งานมหกรรมจักรยานของผู้ที่มีใจรักการปั่น จัดขึ้นวันที่ 1 – 4 พฤษภาคม นี้ ณ เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “Get Ready to Ride แสดงความเป็นตัวตนบนถนนของคุณ” งานแรกและงานเดียวที่รวบรวมสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับจักรยาน เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของนักปั่น สอบถามได้ที่ โทร 0 2203 4232-5 หรือ www.bangkokbikeexpo.com
บอกเลยว่า … หากคิดจะเริ่มขี่จักรยาน ต้องอย่าละทิ้งความฝัน เริ่มวันนี้ด้วยการเลือก 2 ล้อคู่ใจที่เหมาะกับ ไลฟ์สไตล์ของคุณ แล้วจะรู้ว่ามุมมองในการใช้ชีวิตของคุณเปลี่ยนไป
