– โควิด19 ไม่ได้ส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตของเราในระยะสั้นเท่านั้น แต่กำลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตและสร้าง New Normal ในหลายมิติ การออกเดทและความสัมพันธ์ก็คือหนึ่งสิ่งที่เปลี่ยนไป การปัดขวาใน Tinder เริ่มต้นบทสนทนา และนัดพบในสถานที่สุดโรแมนติกสำหรับเดทแรกอาจจะไม่ใช่มาตรฐานการเดทของปี 2020 อีกต่อไป #FindYourBetterMatch กับ Tinder วันนี้จะพาเหล่าคนโสดมาดูกันว่า 4 เทรนด์การเดทที่เปลี่ยนไปมีอะไรบ้าง
1. ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม
หลายคนอาจจะสบายใจที่ได้ใช้เวลากับตัวเองมากขึ้นในช่วงโควิด 19 และไม่ต้องกังวลใจกับการมีคู่ให้ชวนทะเลาะในช่วงนี้ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่กำลังคิดถึงการกลับไปออกเดทและได้ใกล้ชิดกับใครสักคน ปัจจัยเรื่องความกลัวการแพร่เชื้อไวรัสของผู้คนทำให้หลายคนเลี่ยงที่จะใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้อื่น ผลที่ตามมาคือรูปแบบความสัมพันธ์ที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ แต่ชัวร์ ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าคุณต้องการอะไรจากคู่แมทช์ และหลังจากช่วงปลดล็อกดาวน์แล้ว คู่ที่ฝ่าฟันพ้นช่วงเวลาในช่วงกักตัวมาด้วยกันก็สามารถใกล้ชิดและสัมผัสกันได้จริงๆ ส่วนรูปแบบของการเดทช่วงหลังการคลายล็อกดาวน์ก็จะเป็นการผสมผสาน ทั้งการเดทกันแบบออนไลน์และออฟไลน์ แต่ความต้องการในการรู้จักเพื่อนใหม่ๆ ก็ยังคงอยู่เหมือนปกติ
2. ‘Situationship’ นิยามของการเดทยุคใหม่
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาหลายๆ คนได้ใช้เวลากับครอบครัวหรือกับตัวเองมากขึ้น คนโสดทั้งหลายก็คงโหยหาความใกล้ชิดและความโรแมนติกเล็กๆ น้อยๆ อีกทั้งกระแสข่าวที่ไม่รู้แน่ชัดว่าไวรัสนี้จะกลับมาอีกระลอกหรือไม่ การมีคนรู้ใจไว้ในช่วงกักตัวอยู่บ้านก็คงจะดีไม่น้อย
การมีใครสักคนเป็นเพื่อนคอยเล่าเรื่องตลกหรือมอบอ้อมกอดอันอบอุ่น มีผลดีต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตในช่วงเวลาที่ตึงเครียดแบบนี้
Link : https://www.youtube.com/watch?v=jQpfQSBeJ0M&t=544s
กระแสความสัมพันธ์มาแรงในเวลานี้คือ Situationship ความสัมพันธ์แบบคลุมเครือที่จะเป็นแฟนก็ไม่ใช่ เป็นแค่เพื่อนกันก็ไม่เชิง มีความห่วงใยและความรู้สึกดีๆ ให้กันแบบไม่ผูกมัด ความสัมพันธ์แบบนี้พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของความสนใจหรือไลฟ์สไตล์ที่ตรงกันและพร้อมจะแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ กับใครสักคน ลองมาดูตัวอย่างความสัมพันธ์น่ารักๆ แบบนี้ จากวิดีโอคลิปในแคมเปญ #FindYourBetterMatch ที่หนุ่ม “เค เลิศสิทธิชัย” หรือ “Kayavine” ยูทูปเบอร์ที่มาแรงในตอนนี้จะพาไปสำรวจความสัมพันธ์รูปแบบใหม่กับคู่แมทช์จาก Tinder
ดังนั้น การมี situationship ในช่วงที่สถานการณ์โรคระบาดยังคลุมเครืออยู่แบบนี้คงทำให้เวลาที่น่าหดหู่นี้ไม่เลวร้ายจนเกินไป
3. หมดเวลาเล่นเกมส์
การสื่อสารกันระหว่างคนที่กำลังดูใจกันมีความตรงไปตรงมามากขึ้นว่าพวกเขากำลังมองหาอะไรในความสัมพันธ์หรือมีการพูดถึงตัวตนของตนเองที่ชัดเจนผ่านข้อมูลบนหน้าโปรไฟล์และการใช้ฟีเจอร์เพศวิถี (Gender and sexual orientation) เมื่อมีการเกิดโรคระบาดที่พรากชีวิตผู้คนไปจำนวนมาก หลายคนจึงมอง ‘เวลา’ ในชีวิตเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
เมื่อผู้คนมีมุมมองที่เปลี่ยนไปต่อเวลาที่พวกเขามีในชีวิต พวกเขาจึงเลือกที่จะประหยัดเวลาโดยการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาในความสัมพันธ์มากกว่าเคย เช่น ต้องการที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ไปในทิศทางไหน ชอบหรือไม่ชอบอะไรในความสัมพันธ์ และอะไรคือ deal breakers ในความสัมพันธ์ ในอีกความหมายหนึ่งคือ ผู้คนไม่อยากเสียเวลาเล่นเกมส์และพัฒนาความสัมพันธ์ที่ไม่คู่ควรอีกต่อไป การสื่อสารแบบนี้เหมาะอย่างยิ่งกับ Gen Z ที่มีความเป็นตัวเองและตรงไปตรงมา เพราะมันจะช่วยให้เขาได้พบรูปแบบความสัมพันธ์ที่พวกเขามองหาบน Tinder ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
4. ออกเดทผ่านวิดีโอคอล
วิดีโอคอลเป็นที่นิยมมากขึ้นในหลายเดือนที่ผ่านมา และจะกลายเป็นNew Normal ที่จะอยู่กับโลกยุคนี้ไปอีกนาน โดยผลการวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่า 84 เปอร์เซ็นต์ของผู้ร่วมทำแบบสอบถามต้องการที่จะมีเดทแรกผ่านทางวิดีโอก่อนการตัดสินใจที่จะเจอกันจริงๆ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำความรู้จักกับคู่เดทมากขึ้น เพิ่มความอุ่นใจ และลดความเคอะเขินในเดทแรกได้ โดยล่าสุด Tinder ได้เริ่มทำการทดสอบฟีเจอร์วิดีโอคอลใหม่ล่าสุดหรือ ‘Face to Face Video’ โดยหัวใจสำคัญของฟีเจอร์ใหม่นี้คือความปลอดภัย เพราะความปลอดภัยที่จะช่วยให้สมาชิกอุ่นใจในการพบปะผู้คนใหม่ๆ ในโลกออนไลน์ และยังช่วยยกระดับความสัมพันธ์จากการพูดคุยผ่านตัวอักษรเป็นการเห็นสีหน้าท่าทางเพื่อการทำความรู้จักกันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
###