FTE โชว์งบ Q3/60 ทำนิวไฮ รายได้ 732.56 ล้านบาท กำไรสุทธิ 94.55 ล้านบาท บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.07 บาท/หุ้น หรือ 44.42% ของกำไรสุทธิงวด 9 เดือน มั่นใจ Q4/60 ขยายตัวในเกณฑ์ดี เดินหน้าประมูลงานรัฐ-เอกชนต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 994 ล้านบาท หรือเติบโตไม่น้อยกว่า 20%

0
258
image_pdfimage_printPrint

นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (FTE) ผู้นำธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์-ระบบดับเพลิงแบบครบวงจร บริการออกแบบ รับเหมาติดตั้ง ซ่อมแซม ตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ดับเพลิง และงานระบบที่เกี่ยวข้องกับการดับเพลิง เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 3/60 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 279.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.25 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 38.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 40.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.20 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 91.87% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือนบริษัทมีรายได้รวม 732.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129.11 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 21.39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 94.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.71 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 78.94% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลประกอบการที่ดีขึ้น เนื่องมาจากบริษัทรับรู้รายได้จากงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงของโครงการหลายแห่ง อาทิ สถานีไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. ห้าง IKEA บางใหญ่ และ Data Center ของ WHA
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 1 เมษายน 2560 ถึง 30 มิถุนายน 2560 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราจ่ายปันผล 44.42% ของกำไรสุทธิงวด 9 เดือน จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดรวมทั้งสิ้น 42 ล้านบาท โดยจะทำการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล(Record Date) ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 7 ธันวาคม 2560
ทั้งนี้ มั่นใจว่าแนวโน้มธุรกิจในช่วง Q4/60 ยังขยายตัวได้ดีจากความต้องการใช้งานอุปกรณ์ดับเพลิง และการติดตั้งระบบดับเพลิงของโครงการรูปแบบต่างๆ ซึ่งบริษัทมีแผนจะเข้าประมูลโครงการภาครัฐ-เอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ไว้ที่ 994 ล้านบาท หรือเติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน ขณะที่มูลค่างาน Backlog ของบริษัท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 อยู่ที่ 380 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้จำนวนประมาณ 150 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2561 – 2562 ซึ่งบริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
“แม้ในปีนี้โครงการขนาดใหญ่ และภาคเอกชนจะมีการลงทุนไม่มากนัก แต่จากการปรับกลยุทธ์ของบริษัทเน้นการเข้ารับงานรับเหมาติดตั้งระบบดับเพลิง ส่งผลให้ผลประกอบการปีนี้มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องและทำสถิติกำไรสูงสุดในรอบ 18 ปี อีกทั้งสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในรูปแบบของการปันผล อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ดับเพลิงและติดตั้งระบบมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทมีแผนเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด โดยขยายตลาดในประเทศให้มีความครอบคลุม ตลอดจนเข้าประมูลงานรูปแบบต่างๆเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน”นายทักษิณ กล่าว