Forter ปลื้ม ยอดธุรกรรมอีคอมเมิร์ซแตะหลัก 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
– ผู้นำด้านการป้องกันการทุจริตมียอดการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นสองเท่าในปี 2562 ขณะที่ปริมาณข้อมูลมหาศาลช่วยให้บริษัทสามารถมองเห็นแนวโน้มการซื้อสินค้าและการทุจริต จึงช่วยปกป้องเครือข่ายร้านค้าและบรรดาลูกค้าทั่วโลกได้อย่างทันท่วงที
Forter ผู้นำด้านการป้องกันทุจริตในภาคอีคอมเมิร์ซ ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทสามารถประมวลผลธุรกรรมอีคอมเมิร์ซได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นมูลค่าที่ยังไม่มีแพลตฟอร์มป้องกันการทุจริตออนไลน์รายใดทำได้มาก่อนจนถึงขณะนี้ ส่งผลให้ Forter มียอดการทำธุรกรรมเมื่อคิดเป็นดอลลาร์เพิ่มขึ้น 100 เท่าในช่วงสามปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นสองเท่านับตั้งแต่เดือนมกราคม 2562
การประมวลผลธุรกรรมปริมาณมหาศาลช่วยให้ Forter มีมุมมองครอบคลุมที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ตลอดจนพฤติกรรมการทุจริตในแวดวงธุรกิจและอุตสาหกรรมทั่วโลก ตั้งแต่ธุรกิจบริการที่มีความหรูหรา การเดินทาง การต้อนรับ บริการตามคำขอ การส่งอาหาร ไปจนถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ซ/ดิจิตอล ร้านค้าที่เป็นส่วนของเครือข่ายระดับโลกของ Forter ซึ่งรวมถึงแบรนด์ดังอย่างห้างสรรพสินค้า Nordstrom บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ชั้นนำอย่าง Priceline และสตาร์ทอัพในวงการคอนซูมเมอร์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วอย่าง AWAY Travel ต่างได้รับประโยชน์จากขนาดที่ใหญ่มหาศาล และความหลากหลายขององค์กรที่อยู่ภายในเครือข่ายนี้
ตัวอย่างเช่น ทันทีที่บัตรเครดิตถูกขโมย โดยทั่วไปแล้วคนร้ายจะพยายามใช้บัตรใบนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ดังนั้น เพื่อป้องกันเหตุนี้ Forter สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลการทำธุรกรรมที่มีปริมาณมหาศาล รวมทั้งเทคโนโลยีของบริษัทที่ได้รับรางวัลการันตี เพื่อตรวจจับภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และขัดขวางการทุจริตโดยครอบคลุมเครือข่ายทั่วโลกได้ภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งเป็นการช่วยปกป้องเครือข่ายทั้งหมด อีกทั้งยังช่วยป้องกันความสูญเสียมูลค่าหลายพันดอลลาร์ ขณะเดียวกัน เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับการชำระเงินและความปลอดภัยของข้อมูล อาทิ GDPR และ PSD2 ความสามารถของ Forter ในการตรวจพบและป้องกันการทุจริตตลอดวงจรการทำธุรกรรมของลูกค้า ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ จึงเป็นสิ่งที่มีค่ามากยิ่งขึ้นในการขัดขวางการทุจริตสารพัดรูปแบบ ทั้งยังเป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดไปพร้อมกันด้วย
อีกสถานการณ์หนึ่งที่เป็นปัญหาคือ ผู้ใช้ที่มีบัตรเครดิตใหม่ และ/หรือมีการอัพเดทรายละเอียดที่อยู่ ผู้ใช้กลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการถูกร้านค้าปฏิเสธอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีในการซื้อสินค้าให้กับลูกค้า การที่ Forter มีมุมมองกว้างขวางเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงลูกค้าที่มีการอัพเดทข้อมูลการชำระเงินหรือข้อมูลส่วนตัวใหม่ ดังนั้น ลูกค้าจึงได้รับการยืนยันตัวตนอย่างถูกต้องในทันที ทำให้พวกเขาชำระค่าสินค้าและบริการได้อย่างราบรื่น นั่นเป็นเพราะเครือข่ายขนาดใหญ่แห่งนี้ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้ Forter สามารถปกป้ององค์กรต่าง ๆ ได้มากขึ้น รวมทั้งปกป้องลูกค้าขององค์กรเหล่านี้ด้วย โดยดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำกว่าผู้ให้บริการระบบป้องกันการทุจริตรายอื่น ๆ
“ความเป็นจริงก็คือ ขนาดเป็นเรื่องสำคัญในการต่อสู้กับการทุจริต เนื่องด้วยเครือข่ายของ Forter มีขนาดใหญ่กว่าขนาดของผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลกถึงห้าเท่า เครือข่ายของ Forter จึงมีอำนาจมหาศาลในการผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มร้านค้าทั่วโลก เพื่อเพิ่มความสามารถในการมองเห็นได้อย่างทั่วถึงชัดเจนมากขึ้น ชาญฉลาดมากขึ้น และป้องกันได้ดีขึ้น ซึ่งนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายสูงสุด นั่นคือประสบการณ์ที่ราบรื่นของผู้บริโภค” Michael Reitblat ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Forter กล่าว “การทุจริตเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ และสร้างความสับสนวุ่นวาย ร้านค้าจึงต้องมีทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อมอบความถูกต้องแม่นยำ ความสามารถในการปรับตัว และความสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันก็ยังคงให้ลูกค้าสำคัญเป็นที่หนึ่ง แบรนด์ชั้นนำทั่วโลกต่างไว้วางใจให้เราช่วยพวกเขาบรรลุเป้าหมายดังกล่าว และยอดการทำธุรกรรมมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ในวันนี้ ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี”
Forter ให้บริการแพลตฟอร์มป้องกันการทุจริตครบวงจรในรูปแบบ “identity-based” โดยใช้เทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิ่งที่ทันสมัย และความสามารถในการตรวจจับการทุจริต บริษัทนำเสนอโซลูชั่นแบบเรียลไทม์ ที่เป็นระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ และมีความแม่นยำที่สุดในตลาดปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นการสร้างรายได้และสนับสนุนผลการดำเนินงานทางธุรกิจ ด้วยการแก้ไขความท้าทายต่าง ๆ ดังนี้:
– ความถูกต้องแม่นยำ — สามารถแยกผู้ซื้อที่ถูกกฎหมายออกจากคนร้ายที่ทำการทุจริตได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
– ความสามารถในการปรับตัวตามสถานการณ์ — ปรับตัวได้อย่างอัตโนมัติตามลักษณะการทุจริตที่มีการพัฒนาขึ้น และปรับตัวเข้ากับพฤติกรรมการซื้อรูปแบบใหม่ ๆ ของลูกค้า (เช่น BOPIS: ซื้อทางออนไลน์ รับสินค้าที่ร้าน)
– ความสม่ำเสมอ — สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ต่อเนื่องให้แก่ผู้บริโภค ตั้งแต่ขั้นตอนล็อกอินไปจนถึงการชำระเงิน ตัวอย่างเช่น ลูกค้าบางรายจะได้รับอนุมัติเมื่อทำการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต แต่ถ้าพวกเขาลองลงทะเบียนเป็นสมาชิกในโปรแกรมโลยัลตี้ พวกเขาจะถูกปฏิเสธ ความสม่ำเสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภค
เกี่ยวกับ Forter
Forter เป็นผู้นำด้านการป้องกันการทุจริตในวงการอีคอมเมิร์ซ โดยช่วยปกป้องร้านค้าตลอดวงจรการทำธุรกรรมของลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ โซลูชั่นป้องกันการทุจริตแบบ “identity-based” ของบริษัทสามารถตรวจจับการทุจริตและการใช้ในทางที่ผิดที่นอกเหนือจากการทำธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์ เช่น ความพยายามที่จะเข้าควบคุมบัญชี และการอาศัยช่องโหว่จากนโยบายคืนสินค้า
บริษัทมีทีมนักวิเคราะห์ระดับโลกที่อาศัยข้อมูลเชิงลึก และการวิจัยที่ทันสมัยเพื่อปรับปรุงโซลูชั่นแมชชีนเลิร์นนิ่งของ Forter อย่างสม่ำเสมอ จึงมั่นใจได้ว่าอัลกอริทึมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทจะสามารถปรับตัวเข้ากับแนวโน้มการทุจริตรูปแบบล่าสุดได้แบบเรียลไทม์ และด้วยเหตุนี้ Forter จึงได้รับความไว้วางใจจากบริษัทในทำเนียบ Fortune 500 ธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ ตลอดจนเหล่าสตาร์ทอัพที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในยุคดิจิตอล เพื่อมอบความถูกต้องแม่นยำอย่างเหนือชั้น ประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นยิ่งขึ้น และยอดขายที่สูงขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงอย่างมาก