ECF ทุ่มกว่า 1,000 ล้านบาท ส่งบริษัทย่อย ECF – Power ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 220 MW

0
420
image_pdfimage_printPrint

ECF เดินหน้าลุยธุรกิจพลังงานทดแทนเพิ่มอีกหนึ่งโครงการ ผู้ถือหุ้นไฟเขียวส่งบริษัทย่อย ECF-Power เข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ GEP ขนาด 220 เมกะวัตต์ ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ลงทุนในหุ้น 20% มั่นใจแผนขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าหนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ได้มีมติอนุมัติการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 220 เมกะวัตต์ ของบริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด (GEP) ณ เมืองมินบู รัฐมาเกวย ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์

โดยให้ บริษัท อีซีเอฟ พาวเวอร์ จำกัด (ECF-Power) บริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 99.99% เป็นผู้เข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญของ GEP ในสัดส่วน 20% โดยแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำหน้าที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ GEP

สำหรับรูปแบบการลงทุนในโครงการดังกล่าว ส่วนที่ 1 ECF-Power จะเข้าซื้อหุ้นสามัญของ GEP จำนวน 51,512 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็น 20% ของหุ้นสามัญทั้งหมดของ GEP หรือ คิดเป็นจำนวนหุ้นสามัญของ GEP ภายหลังจากเข้าทำรายการในครั้งนี้ รวมเป็นราคาเข้าซื้อหุ้นสามัญของ GEP 9 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 310.05 ล้านบาท

นอกจากนี้ในส่วนที่ 2 ยังมีส่วนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะจองซื้อตามสัดส่วนการถือหุ้น เมื่อมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนในอนาคตจนกว่าโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จครบ 4 เฟส จำนวน 20.22 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 696.44 ล้านบาท โดยภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นนี้ ECF-Power มีภาระผูกพันต่อผู้ให้การสนับสนุนสินเชื่อแก่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 220 เมกะวัตต์ ในการให้การสนับสนุนส่วนขาดของเงินสด (“Cash Deficiency Support หรือ CDS”) ตามสัดส่วนการถือหุ้นแต่ไม่เกิน 5.54 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 190.85 ล้านบาท ตามประกาศอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศไทย “การเข้าซื้อหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าของ GEP จะช่วยส่งเสริม และสร้างความเติบโตของรายได้ที่มั่นคงให้แก่บริษัทต่อไปในอนาคต ก่อให้เกิดผลกำไรและกระแสเงินสดกลับสู่บริษัท และในท้ายที่สุดจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท”นายอารักษ์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด (GEP Thailand) ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยปัจจุบัน GEP Thailand เป็นผู้ถือหุ้น 99.99% ใน GEP Myanmar Co,Ltd. ซึ่งเป็นผู้ได้รับสัมปทานในรูปแบบ Build Operate and Transfer (BOT) ในการพัฒนาและดำเนินโครงการฯ และเป็นผู้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement หรือ สัญญา PPA) กับ Electric Power Generation Enterprise (EPGE) ระยะเวลารวมทั้งสิ้น 30 ปี นับจากวันที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ของระยะที่ 1 กำลังการผลิตไฟฟ้า 220 เมกะวัตต์ แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ห่างกันทุก ๆ 1 ปี ทั้งนี้คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์สำหรับเฟสที่ 1 ได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2561 นี้

# # # # # # # # # # # # #