DHL eCommerce ประเทศไทย จับมือ JD CENTRAL อีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ มอบบริการจัดส่งพัสดุที่รวดเร็ว และมีคุณภาพได้มาตรฐานระดับโลกสำหรับนักช้อปออนไลน์ ด้วยเครือข่ายการให้บริการจัดส่งที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย

0
624
image_pdfimage_printPrint

กรุงเทพฯ – 21 พฤศจิกายน 2561 – DHL eCommerce บริษัทในเครือ Deutsche Post DHL Group ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านโลจิสติกส์สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ประกาศความร่วมมือกับ JD CENTRAL เว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่เป็นการร่วมทุนระหว่าง เซ็นทรัลกรุ๊ป บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กับ JD.com ซึ่งเป็นอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มชั้นแนวหน้าของประเทศจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบประสบการณ์การซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่สะดวกง่ายดายมากยิ่งขึ้นสำหรับทั้งนักช้อปออนไลน์และผู้ประกอบการออนไลน์ ทั้งนี้ บริการจัดส่งพัสดุที่รวดเร็วและมีคุณภาพได้มาตรฐานระดับโลกจาก DHL eCommerce พร้อมเครือข่ายการให้บริการจัดส่งที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทยจะช่วยทำให้ผู้ประกอบการออนไลน์ที่ขายสินค้าบน JD CENTRAL สามารถเข้าถึงกลุ่มนักช้อปออนไลน์จำนวนกว่า 13 ล้านรายทั่วประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นการเพิ่มโอกาสทางการค้าในตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงถึง 22% ต่อปี

ความร่วมมือระหว่าง DHL eCommerce และ JD CENTRAL ในครั้งนี้เป็นการอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสินค้าออนไลน์บน JD CENTRAL แพลตฟอร์มสามารถเข้าถึงบริการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วผ่าน DHL eCommerce ด้วยเครือข่ายการให้บริการจัดส่งที่มีคุณภาพได้มาตรฐานระดับสากล และจุดบริการ DHL ServicePoint สำหรับการเป็นทั้งจุดรับและจุดฝากส่งพัสดุที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ อีกทั้งยังสามารถ
ตรวจสอบพัสดุได้ทุกสถานะการจัดส่ง พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลด้านการจัดส่งสินค้าผ่านระบบ API ที่ทันสมัยและใช้งานง่ายสำหรับผู้ขายสินค้าบน JD CENTRAL ดังนั้นผู้ประกอบการจึงสามารถบริหารคำสั่งซื้อสินค้าต่างๆ ได้ด้วยตนเองผ่านดิจิตอลแพลตฟอร์มดังกล่าว และสามารถเลือกใช้บริการจัดส่งภายในวันถัดไป (Next-day Delivery) ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑลและเมืองหลักในจังหวัดต่างๆ และบริการจัดส่งภายใน 2-3 วันในเขตพื้นที่ห่างไกล รวมถึงบริการจัดส่งภายในวันเดียว (Same-day Delivery) ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

นอกจากนี้ DHL eCommerce ยังเป็นผู้นำด้านการให้บริการรับชำระเงินปลายทาง หรือ Cash-on-delivery ที่ปลอดภัยและรวดเร็ว โดยสามารถคืนเงินค่าสินค้าถึงผู้ประกอบการภายใน 3 วันหลังการจัดส่ง ซึ่งตอบโจทย์ความนิยมในการเลือกใช้รูปแบบการชำระเงินแบบ Cash-on-delivery ของผู้บริโภคในประเทศไทยที่มีสัดส่วนมากกว่า 70% ของการทำธุรกรรมทางการเงินจากการซื้อสินค้าออนไลน์ทั้งหมด ทั้งนี้ ระบบการคืนเงินค่าสินค้าที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และน่าเชื่อถือจะช่วยเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการด้านการเงินสำหรับธุรกิจของตนได้อย่างคล่องตัว โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม

“JD CENTRAL คัดสรรเฉพาะสินค้าคุณภาพที่ดีที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าของเราจะได้รับสินค้าที่เป็นของแท้ 100% จากแบรนด์ต่างๆ ที่พวกเขาชื่นชอบ” วินเซนต์ หยาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด กล่าว “บริษัทของเรามีความมุ่งหวังที่จะส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าผ่านประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ที่น่าประทับใจและดีที่สุด ซึ่งประสบการณ์ดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยหากขาดบริการจัดส่งที่รวดเร็ว มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ ดังนั้น เราจึงเชื่อมั่นว่าการร่วมเป็นพันธมิตรกับ DHL eCommerce จะช่วยสนับสนุนและทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายในการเป็นอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มอันดับ 1 ของประเทศไทยในอนาคต”

เกียรติชัย พิตรปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “เรามีความเชื่อมั่นว่า DHL eCommerce จะช่วยสนับสนุนให้ JD CENTRAL สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้สำเร็จด้วยการมอบบริการจัดส่งพัสดุที่มีคุณภาพได้มาตรฐานระดับสากลสำหรับลูกค้าของอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพอย่าง JD CENTRAL เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้ เรายังตั้งเป้าหมายที่จะช่วยทำให้การซื้อขายสินค้าออนไลน์มีความสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้นผ่านบริการจัดส่งของ DHL eCommerce ที่รวดเร็ว พร้อมตัวเลือกการให้บริการที่หลากหลาย และเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำหน้าเป็นผู้ให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซโลจิสติกส์สำหรับ JD CENTRAL ในครั้งนี้”